27 ก.ค. 2022 เวลา 05:01 • ปรัชญา
เรื่องราวของกายของคน เรา ที่เค้าเปรียบเทียบว่า เหมือนเรือลำหนึ่ง ที่จิตแต่ละดวง ลงไปนั่งในลำเรือ ที่ยังประกอบไปด้วยขันธ์ทั้งห้า จิตของเราก็พายเรือไปตามอารมณ์ ไปตรงนั้นตรงนี้ หัวเรือก็คือ วิญญาณทั้งหกก็ไปพบไปเจอสิ่งของต่างๆเข้ามา ไปพบไปเจอ คนนั้นคนนี้ ต่างคนก็ต่างมีกรรม ต่างคนก็ต่างมีอารมณ์ มีทิฐิดีชั่ว ..วิญญาณทั้งหกของเราก็เก็บเข้ามา
สมมุติว่า เราเจอคนหนึ่งคน เราก็พูดคุย เรื่องราวต่างๆ มีอารมณ์ชอบใจ มีทิฐิความคิดเห็น คนนี้ทำงานดีคนนี้ทำงานไม่ดี สารพัดความรู้สึก ที่เป็นอารมณ์เกิดขึ้นกับคนหนึ่งคน แล้ววันหนึ่งๆ เราก็พบเจอคนกี่คน เจอคนร้อยคน เราก็ต้องไปคล้องกรรมกับคน ร้อยคนก็ด้วยเรื่องราวที่ไหลให้เราคิดนึก ที่จรเข้ามาตามชื่อของแต่ละคนที่เรารู้จักและไม่รู้จัก
เมื่อเอาเข้ามา มันก็เกิดเป็นการบันทึกของจิต บันทึกลงไปเหมือนสี่ที่เราทาลงไปที่จิต แล้ววันหนึ่งๆ เราไปวิญญาณทั้งหก ไปกระแทก ไปเก็บเรื่องราวต่างๆเข้ามา เรื่องคนนั้นคนนี้ มันก็แต้มลงเป็นสีๆ ดำลงไปที่จิต มันมีแต่แต้มลงไป ยึดเข้ามาๆ เหมือนว่าไอ้นี่กของฉัน ไอ้นั้นของฉัน ไอ้นั้นฉันอยากได้ ไอ้นี่ฉันเกลียดไม่ชอบ ทั้งที่เราชอบเราเกลียดมันก็อารมณ์ทั้งนั้น ที่เราแต้มสีลงไปที่จิต วิญญาณทั้งหกของเรานำเข้ามานั้นแหละที่เป็นสีของกรรม
เมื่อเราใช้วิญญาณหก ทุกวันๆ ไปกระแทกสิ่งนั้นสิ่งขึ้น ทุกวันๆ นานไปเรือที่เราอาศัยก็บอบช้ำ หัวเรือก็ชอกช้ำ คลื่นลม มาแรงๆ ลำเรือเราก็ สู่คลื่นไม่ไหว ต้องปล่อยเรือไปตามน้ำ เรือก็หนักเพรียบ คลื่นมาเบาๆ เรือกจะล่มเสียใจได้ คือเรากายที่เจ็บป่วยหนักเกิดขึ้น เมื่อคลื่นใหญ่มาอีกที เรือก็แตก จิตก็ตกลงสู่ท้องทะเลไป
เรื่องราวที่จะหยิบของหนักออกไปจากลำ เรือมีแต่เรื่องราวการสร้างทานบุญกบารมี ทำให้ถูก เพื่อหยิบของที่หนักในลำเรือออกไป
เมื่อเรือมันหนัก บางคนก็ไปพัก ไปเที่ยวตรงนั้นตรงนี้ อารมณ์มันก็เปลี่ยนไปหลอกให้ว่าสุข สุขที่โลกเค้าหลอกเป็นอารมณ์ ช่วยขณะ ไปเที่ยวเห็นสิ่งนั้นสิ่งก็อยากได้ เหมือนของที่ลอยมาตามน้ำ เราก็เก็บเข้ามาใส่ลำเรือ เรือมันก็ยิ่งหนักเข้าไปอีก บางคนกลับจากเที่ยวก็กลับมานอนหมดเรี่ยวแรง นอนพัก ไหนล่ะที่ว่าไปเที่ยวพักผ่อน พักผ่อนเรื่องราวของอะไร
โฆษณา