2 ส.ค. 2022 เวลา 00:49 • ความคิดเห็น
ผีถ้วยแก้ว
เขายืนอยู่หน้าศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่ในรั้วบ้าน พนมมือถือธูปสามดอก มีถ้วยชาจีนสีขาวใบเล็กที่ว่างเปล่าหงายเหน็บอยู่ระหว่างซอกนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้
เขาทำปากขมุบขมิบอธิษฐานอะไรสักอย่าง เสร็จแล้วเขาปักธูปลงในกระถางบรรจุทรายใบย่อมที่อยู่หน้าศาล
หลังจากนั้นเขาเอาถ้วยชาเดินมาที่โต๊ะตัวหนึ่งที่พี่สาวและน้าของเขานั่งรออยู่ บนโต๊ะมีกระดาษสีขาวอย่างหนาแผ่นหนึ่งวางอยู่ ในกระดาษแบ่งเป็นช่องมีพยัญชนะไทย 44 ตัว ตั้งแต่ ก ถึง ฮ สระครบทุกรูป และเลขอารบิกตั้งแต่เลข 0 ถึง 9 เขียนอยู่ช่องละ 1 ตัว
ตรงกลางแผ่นกระดาษตีกรอบสี่เหลี่ยมไว้มีภาพวาดบ้านหลังคาปั้นหยาระบายสีสดใส มีช่องเล็กสองช่องอยู่ข้างภาพบ้าน เขียนคำว่า “ใช่” กับ “ไม่ใช่” อยู่คู่กัน
เขาคว่ำถ้วยชาลงบนภาพบ้าน ต่อมาเขาและพี่สาวของเขาใช้นิ้วชี้แตะลงที่ก้น
ถ้วยชา
“มาหรือยัง! ถ้ามาแล้ว ขอให้ตอบด้วย?” เขาพูดตาจ้องเขม็งไปที่ถ้วย
“นนท์” พี่สาวเอ่ย “แกอธิษฐานขอให้ใครเข้ามา?”
“ผมขอให้วิญญาณใครก็ได้ที่มีความรู้เข้ามาครับ...พี่ปรางค์” เขาตอบ เพราะจากประสบการณ์เล่นผีถ้วยแก้วครั้งแรกวิญญาณที่มาเป็นเด็กอายุแค่สี่ขวบ ไม่รู้ภาษา จนต้องเชิญวิญญาณออกจากถ้วย
“จุ๊....จุ๊...” เขาเอานิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากบอกให้ทุกคนเงียบ ถ้วยเริ่มขยับเดินออกจากกรอบภาพบ้านหมุนวนไปทางซ้ายสามรอบและหมุนทางขวาอีกสามรอบ จากนั้นเดินไปที่พยัญชนะและสระทีละตัว สะกดคำว่า “มาแล้ว” ต่อมาถ้วยกลับมาหยุดที่ภาพบ้าน คนทั้งสามเงยหน้ามองกัน
“โปรดบอกชื่อกับนามสกุล...ด้วยครับ?” เขาถามอย่างสุภาพ พร้อมเอานิ้วชี้แตะที่ก้นถ้วยที่พี่สาวของเขาแตะนิ้วอยู่แล้ว ถ้วยขยับไปที่พยัญชนะและสระอย่างเคย “ราตรี จิตตรง”
“เป็นผู้หญิงใช่ไหมครับ?” เขาถามต่อ ถ้วยเดินไปหยุดที่ช่อง “ใช่”
เขาและพี่สาวยกนิ้วมือออกจากก้นถ้วย
“นนท์ ถามเขาที” พี่สาวเอ่ยอย่างกระตือรือร้น “เลขท้ายสลากกินแบ่งสามตัวบน งวดสิ้นเดือนนี้ ออกอะไร?”
“ต้องให้เขาไปถามผีกองสลากก่อนนะจึงจะแม่น เพื่อนของน้าเคยบอก” น้าติ่ง น้องสาวแม่พูดสอดขึ้น
ทั้งเขาและพี่สาวรู้สึกฉงนไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้องถามผีกองสลาก เขาพยักหน้าให้น้าติ่ง จากนั้นทั้งสองเอานิ้วแตะก้นถ้วย เขาถาม “คุณราตรี รู้จักผีกองสลากไหม?”
ถ้วยเดินไปหยุดที่ช่อง “ใช่” จากนั้นเดินต่อ “ต้องการซื้อหวยใต้ดินใช่ไหม?”
คราวนี้พี่สาวเขาตอบ “ใช่จ๊ะ”
ถ้วยเดินออกมาจากภาพบ้าน “ฉันมีข้อแม้นะ”
เขาและพี่สาวมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เพราะเล่นผีถ้วยแก้วมาสองครั้งก่อนหน้าไม่เคยมีวิญญาณบอกว่า ‘มีข้อแม้’ เหมือนครั้งนี้
“เชิญบอกมาเลยครับ” เขาเร่งเร้า
คราวนี้ถ้วยชาขยับเดินทันที “ถ้าถูกหวยตามที่บอก ช่วยไปทำบุญบริจาคสร้างพระประธานอุทิศส่วนกุศลให้ฉันด้วย ฉันตายมาสิบปีมีบาปหนาเลยไม่ได้ไปผุดไปเกิด ถ้าได้บุญใหญ่ครั้งนี้ฉันจะได้ไปเกิดเสียที”
“แน่นอนครับ...เราจะทำตามที่คุณบอก” เขารับปาก “ถ้างั้น! คุณราตรี โปรดออกจากถ้วยไปถามผีกองสลากได้เลย ผมจะหงายถ้วยเดี๋ยวนี้แหละ”
“ไม่ต้อง!...ฉันถามผีทางโน้นมาแล้ว” ถ้วยเดินเสร็จ ก่อนเข้าไปหยุดที่ภาพบ้าน
“ถ้างั้น...บอกเลขสลากกินแบ่งสามตัวบนมาเลยค่ะ?” พี่สาวเขาถามเพราะอยากรู้เต็มทน
วิญญาณในถ้วย นิ่งไปอึดใจ ก่อนออกเดินช้าๆ ไปหยุดที่เลข 3 เลข 4 และเลข 9 สามคนที่นั่งล้อมวงอยู่พูดทวน ต่างมองหน้ากันแล้วยิ้มน้อยๆ
ครอบครัวของเขาชอบเล่นหวยกันทั้งบ้าน เขาเห็นมาหมดตั้งแต่พอจำความได้
ก่อนวันหวยออกทั้งแม่ของเขา ญาติผู้ใหญ่ มักจะมาสุมหัวที่บ้านสองชั้นขนาดย่อมกลางเก่ากลางใหม่หลังนี้ คนไหนได้เลขเด็ดจากเกจิอาจารย์ที่ไหนเอามาแบ่งปันคนอื่น หรือใครฝันเห็นอะไรก็จะเอามาเล่าเอามาตีความเป็นเลขได้หมด
“ฉันฝันเห็นป้าข้างบ้านตาย ต้องเอาอายุคนที่ฝันเห็นลบออกหนึ่งใช่ไหม?” น้าสมน้องสาวแม่ถามในวงประชุม
“ไม่ต้อง สูตรของฉันไม่ต้องลบนะ ซื้อตามอายุได้เลย” น้องสาวแม่อีกคนทักท้วง
เขายังจำได้ดี วันไหนหวยออก เขากับพี่สาวจะไปอยู่ที่ชั้นสองของบ้าน บางครั้งจะได้ยินเสียงร้องเฮดังติดๆ กันจากวงประชุมที่กำลังเปิดทีวีฟังเลขรางวัลสลากกินแบ่งที่ชั้นล่างราวกับมีงานรื่นเริง
แต่บ่อยครั้งกว่า กลับไม่มีเสียงพูดจาเฮฮา มีแต่เสียงสบถ เสียงบ่นพึมพำ เป็นแบบนี้ร่ำไปจนเขากับพี่สาวชินชา
ตอนเขาอายุ 7 ขวบ แม่ของเขาเคยถามให้ช่วยบอกตัวเลขให้ เขาที่ยังเด็กไม่รู้ประสีประสาอะไรบอกตัวเลขสามตัวให้ไป ปรากฏว่าแม่ไปซื้อหวยแล้วถูกตามเขาบอก แม่ดีใจเอาไปคุยโอ่กับญาติเป็นคุ้งเป็นแคว
พองวดถัดมาบรรดา พี่ ป้า น้า อา ของเขาแห่มาให้เขาบอกเลขให้อีก เขาก็บอกไปตามประสาเคยชิน คราวนี้ไปซื้อแล้วถูกอีก ตอนนั้นเขารู้สึกเป็นคนสำคัญ เพราะทุกคนยกยอเขาเหมือนพระใบ้หวยผู้มาโปรด คอยเอาใจซื้อเสื้อผ้า ขนม และของที่เขาอยากได้มาให้
แต่พอเขาบอกเลขใบ้หวยอีกสามงวด คราวนี้ไม่มีใครถูกเลย ผลนะหรือ! จากที่เขาเคยได้เสื้อผ้าและขนมมากมาย คราวนี้กลับได้รับเป็นเสียงบ่น เสียงก่นด่ามาแทนที่
“นนท์... นี่ยังไง พอน้าไม่ได้ซื้อสองงวดเท่านั้น คนอื่นถูกจนรวย พอน้ามาซื้องวดนี้ทุ่มลงไปไม่อั้น ถูกกินหมดไม่ไหวจริงๆ” น้าชายน้องแม่คนหนึ่งบ่นพึมพำ
น้าสาวน้องแม่ที่เคยถูกหวยเพราะเลขที่เขาบอกได้ยินเข้า พูดตอกกลับไปว่า “ก็พี่ไม่มีโชคนี่นาซื้ออย่างไรก็คงไม่ถูก เอ๊ะ!...หรือเพราะพี่มาซื้องวดนี้ เลยขัดลาภคนอื่นทำให้ไม่ถูกไปทุกคน คราวหน้าไม่ต้องมาซื้อตามอีกหล่ะจะซวยกันหมด”
“นังนี่! มาโทษพี่ได้ยังไง พูดพล่อยๆ”
พอพูดจบก็มีเสียงด่าทอโทษกันไปมาดังอื้ออึง กระทั่งแม่ของเขาต้องไล่ทุกคนกลับบ้านใครบ้านมัน
คราวหนึ่งแม่เคยเล่าให้เขาฟังว่า คุณตาของเขาที่เสียไปเมื่อ 7 ปีก่อนเป็นเซียนหวยตัวยงตั้งแต่ตอนหนุ่ม ซื้อหวยทุกงวด คราวละมากๆ สลากกินแบ่งคุณตาก็ซื้อไม่อั้น คุณยายคอยห้ามปรามแต่คุณตาไม่ยอมฟัง
“คุณตาเสพติดหวยเสียยิ่งกว่าคนติดยา แม้กระทั่งตอนตกบันไดขาหักนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล แกยังเอากระดาษโพยหวยกับสตางค์ยัดใส่มือแม่ให้ช่วยซื้อ” แม่บอกเขา
“แล้วงวดนั้น ถูกมั๊ยครับ?” เขาถาม
“ถูกกิน...นะซิ” แม่ของเขาตอบ
เขาคิด ‘ ที่แม่เล่าเรื่องคุณตา เพราะคงอยากให้เขารู้ว่าครอบครัวของเราที่ชอบเล่นหวยไม่ได้เริ่มต้นมาจากแม่ แต่เริ่มมาจากคุณตากระมัง คงเป็นดีเอ็นเอถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่คุณตาทิ้งไว้ให้’
เขาดูจะมีความหวังว่างวดนี้ต้องรวย จึงเข้าหุ้นกับพี่สาวซื้อหวยใต้ดินตามที่คุณราตรีบอกกับเจ้ามือท้ายตลาด เขาซื้อเลขท้ายสามตัวบน 3 4 9 ตรงๆ 1,000 บาท แล้วแทงโต๊ดเผื่อไว้ด้วย
วันหวยออกเขา พี่สาวและแม่ของเขา นั่งลุ้นหน้าจอทีวี สักบ่ายสามพิธีกรประกาศออกรางวัลที่ 1 พอเริ่มประกาศ “เลขที่ออก...ได้แก่..” เขากับพี่สาวนั่งกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข
“6.…5....7....3....4....9”
“เฮ้ย!” เขาร้อง “ถูก...ถูกหวยแล้ว” เขาละล่ำละลัก พร้อมกับเสียง “กรีด...กรีด...” ที่พี่สาวเขาร้องออกมาแบบลืมตัว ทั้งพี่สาวกับเขาจับมือกันเต้นโยกตัวไปรอบๆ โซฟาที่แม่เขานั่งอยู่
“เราได้เกือบล้านครับแม่” เขาคุยโอ่
“ให้ได้อย่างนั้นซิ....ลูกแม่” แม่อวยลูกชายพร้อมกับยิ้ม “นี่! ถ้าคุณตายังอยู่ แกคงดีใจ” แม่เปรย
หลังจากขึ้นเงินจากเจ้ามือแล้ว เขาเอาเงิน 100,000 บาท ที่ได้ไปทำบุญสร้างพระประธานวัดประจำตำบล อุทิศส่วนกุศลให้คุณราตรี จิตตรง ตามที่รับปาก
พวกญาติที่รู้จากแม่ว่าเขาและพี่ปรางค์ถูกหวยร่วมล้านต่างโทรมาหาเขาอยากรู้ว่าได้เลขเด็ดมาอย่างไร และขอร้องว่าถ้ารู้เลขเด็ดงวดหน้าให้บอกพวกเขาด้วย
ญาติบางคนถึงขนาดติดสินบนบอกเขาว่าถ้าเลขที่บอกถูกรางวัลจะแบ่งเงินให้ร้อยละ 20 แต่เขากับพี่สาวปิดปากสนิทเพราะตกลงกันแล้ว ถ้าได้เลขมาจะไม่บอกใครเลยเพราะเกรงว่าหากบอกคนอื่นไปจะขัดลาภทำให้หมดโชค
พอถูกหวยแล้ว อย่างที่รู้กันความโลภของคนไม่มีที่สิ้นสุด เขาเชิญวิญญาณคุณราตรี มาร่วมเล่นผีถ้วยแก้วอีก แต่ลองเชิญหลายครั้ง ก็ไม่มีวี่แววว่าวิญญาณคุณราตรีจะมาร่วม
“คุณราตรีคงไปเกิดแล้วกระมัง” เขาพูดกับพี่สาว
“เราทำบุญอุทิศไปให้เขาแล้วนี่ คงใช่แหละ” พี่สาวออกความเห็น
“เออ...นนท์ พี่ลองเอาชื่อคุณราตรี จิตตรง ไปค้นหาที่กูเกิ้ลนะ เจอข่าวคุณราตรี... หล่อนถูกเอเย่นต์รับซื้อสลากแทงตายเมื่อสิบปีก่อน เพราะไปหลอกเอาเงินจากเอเย่นต์มาว่าจะจัดส่งสลากให้ แต่หล่อนส่งสลากให้ไม่ได้ ทางโน้นมาทวง ก็ไม่คืนเงินเลยถูกแทงตาย เห็นว่าหล่อนโกงเงินไปร่วมล้านบาทเชียว”
“มิน่า! คุณราตรีถึงบอกเราว่าหล่อนบาปหนา ว่าแต่ในข่าวบอกไหมว่าคุณราตรีทำงานอะไร?”
“หล่อนเป็นพนักงานกองสลาก”
“จับคนร้ายที่แทงได้ไหม?” เขาถาม
“ในข่าวบอกว่าเป็นแค่ชายสูงอายุคนหนึ่ง ตำรวจสืบสวนแล้วแต่ไม่รู้เป็นใคร ยังจับตัวไม่ได้”
“ยังงั้นเหรอ” เขาพึมพำ “แต่คุณราตรีให้เลขแม่นมากนะ อ้อ...พี่ปรางค์ ผมนึกออกแล้ว คราวก่อนที่เราให้หล่อนไปถามผีกองสลาก หล่อนบอกว่าไปถามมาแล้ว ที่แท้หล่อนนั่นแหละเป็นผีกองสลากเอง บอกใบ้เลขเลยแม่นยำไม่ผิดสักตัว” เขาทำท่ากอดอกดูมั่นใจในความคิด
“อย่างนั้น วันนี้เราจะเชิญใครดีถึงจะแม่น พี่อยากถูกอีกสักงวด” พี่สาวของเขาพูดตาเป็นประกาย
“ลองดูแล้วกันครับพี่ปรางค์ ผมอยากได้วิญญาณอย่างคุณราตรีอีก” เขาพูดจบแล้วไปยืนพนมมือถือธูปสามดอกหน้าศาลพระภูมิ เหน็บถ้วยชาไว้ซอกนิ้วอย่างเคย พร้อมกับเปล่งเสียงอธิษฐานเบาๆ
“ขอเชิญดวงวิญญาณที่อยู่ในวงการสลาก วงการหวยใต้ดินที่คร่ำหวอด โปรดมาสิงสถิตในถ้วยนี้ด้วยเทอญ”
กล่าวจบเขารีบเดินเอาถ้วยไปคว่ำลงที่ภาพบ้าน นิ้วชี้ของเขาและพี่สาวแตะที่ก้นถ้วยทันที
“มาหรือยัง! ถ้ามาแล้ว ขอให้ตอบด้วย?” เขาถาม
ถ้วยเริ่มขยับไปที่พยัญชนะและสระ สะกดว่า “มาแล้ว”
“โปรดบอกชื่อกับนามสกุล...ด้วยครับ?” เขาถามอย่างสุภาพเหมือนเคย
“ขอยังไม่บอก” ถ้วยมาหยุดที่ภาพบ้าน เขากับพี่สาวเอานิ้วที่แตะออกจากก้นถ้วยหันมองหน้ากัน
“มีอย่างนี้ด้วยหรือ...ไม่บอกชื่อ” เขาพูด
“ไม่ต้องสนใจ...นนท์ ถามต่อเถอะว่าเขารู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับกองสลากและหวยใต้ดินบ้าง”
เขาถามวิญญาณที่อยู่ในถ้วย “เป็นผู้หญิงใช่ไหมครับ?”
“ไม่ใช่”
“คุณเคยมีประสบการณ์ในวงการสลากหรือหวยใต้ดิน ไหมครับ?”
“เคยมีทั้งสองอย่าง” ก่อนที่ถ้วยจะเดินต่อ “ขอโทษ ผมขอเตือนให้เลิกซื้อหวยใต้ดินเสียเถอะ”
“อ้าว...ทำไมหล่ะคะ?” พี่สาวเขาถาม
“ผมหมดตัว เพราะหวยใต้ดิน”
“แต่งวดที่แล้ว วิญญาณที่เราเชิญมาชื่อคุณราตรี จิตตรง บอกใบ้เลขให้ เราไปซื้อถูกหวยเกือบล้านบาทนะคะ เราได้เงินนะคะ...ไม่ได้หมดตัวเหมือนคุณเสียหน่อย” พี่สาวของเขาพยายามอธิบาย
“คุณราตรี จิตตรง” วิญญาณทวนคำ “ผมรู้จักเธอดี”
คราวนี้เขากับพี่สาวถามออกมาเกือบพร้อมกัน “ยังงั้นคุณเป็นพนักงานกองสลากหรือครับ?..หรือค่ะ?”
“เปล่า!” วิญญาณตอบ “เคยทำการค้ากัน เขาโกง ผมเลยแทงเขาตาย”
พี่สาวและเขาขนลุกซู่ นึกไม่ถึงว่าเอเย่นต์ในข่าวที่แทงคุณราตรีจะมาเป็นวิญญาณในถ้วยที่อยู่ตรงหน้า แต่เขาคิด ‘ทั้งคุณราตรีและวิญญาณในถ้วยตายไปหมดแล้วนี่นา ใครจะถูกผิดอย่างไรเขาไม่เกี่ยว ยังไงถามเลขที่จะออกงวดนี้เลยดีกว่า’ พี่สาวของเขาเหมือนจะรู้ความคิดนี้ เธอพยักหน้าให้เขา
“ช่วยบอกเลขสลากกินแบ่งสามตัวบน งวดนี้ด้วยครับ?” เขาถาม
“อย่าซื้อเลยหวย หรือสลาก มันไม่ทำให้เธอรวยหรอก”
“ทำไมคุณมาห้ามผมซื้อหวยครับ ผมเพิ่งถูกหวยมา ก็อยากจะถูกอีกสักงวดก็แค่นั้น” เขาพูดด้วยเสียงไม่พอใจ
“อย่าเพิ่งอารมณ์เสียซิหลานชาย” คราวนี้วิญญาณตอบเหมือนเป็นคนคุ้นเคย
“อย่างที่บอก ผมเคยหมดตัวเพราะหวย พอผมซื้อหวยเหมือนผมติดกับ ผมรักมัน ผมชอบลุ้นรางวัล มันทำให้ผมตื่นเต้นจนหยุดไม่อยู่จริงๆ บ้านของผมอยู่ใกล้ตลาดบางกอกใหญ่เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงบ้านเจ้ามือหวย มันง่ายดายอย่างนั้นเลยที่จะซื้อหวยใต้ดิน
ตอนซื้อใหม่ๆ ผมถูกหวยสามงวดติดๆ กัน มันเป็นเหมือนเหยื่อล่อทำให้ผมเสพติดจนถอนตัวไม่ขึ้น หลังจากนั้น ผมได้ใจจึงซื้อหนักขึ้น งวดละหลายหมื่นบาท แต่คราวนี้นานๆ จึงจะถูกสักที แต่ถึงถูกบ้างก็ไม่มากพอจะคุ้มทุนที่เสียไป ยิ่งผมทุ่มซื้อหนักขึ้น ทั้งหวยใต้ดิน ทั้งสลากกินแบ่งมันก็เหมือนผมมอมเมาตัวเองมากขึ้น
สุดท้ายเพราะมันแท้ๆ ทำให้ผมต้องขายบ้านมรดกของพ่อที่ทิ้งไว้ให้เพื่อเอาเงินมาซื้อหวย ผมหวังจะถอนทุน แต่คำว่า ‘ถอนทุน’ มันไม่มีจริงหรอกหลานชาย สุดท้ายเงินผมก็หมด โชคยังดีผมแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปซื้อบ้านหลังเล็กถัดจากบ้านหลังเดิมมาไม่ไกลไว้ก่อนเลยยังมีที่ซุกหัวนอน ที่ผมเล่าเป็นบทเรียนล้ำค่าในชีวิตเลยไม่อยากให้หลานชายเป็นเหมือนผม เธอไม่ควรเอาชีวิต เอาอนาคตตัวเองไปเสี่ยง”
วิญญาณตอบคำถามยืดยาวร่วมสิบห้านาที พอถ้วยเดินกลับมาที่ภาพบ้าน เขาและพี่สาวรู้สึกนิ้วจะเป็นตะคริว จึงยกมือขึ้นสะบัด
“โอ้ย! นี่วิญญาณในถ้วยมันใครนะ อบรมสั่งสอนเหมือนเราเป็นลูกเป็นหลาน” เขาพูดกับพี่สาว
“นั่นนะซิ! เธอรีบเชิญวิญญาณออกไปเถอะ เสียเวลาเปล่าๆ” พี่สาวเขาพูดอย่างหัวเสีย
“แต่พี่ปรางค์ เขาบอกว่าบ้านเขาอยู่ใกล้ตลาดบางกอกใหญ่ มันใกล้กับบ้านหลังนี้นะ” เขาเอ่ย “ผมขอถามอะไรเขาสักหน่อยนะพี่”
“เอา! ตามใจ” พี่สาวโบกมือทำท่ารำคาญ
“คุณบอกว่าบ้านคุณอยู่ใกล้ตลาดบางกอกใหญ่ มันอยู่ตรงไหนครับ” เขายิงคำถาม
“บ้านของผม อยู่ซอย 1 หลังตลาด นับจากปากซอยเป็นบ้านหลังที่สามครับ”
เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ เขาตกใจตาเบิกกว้างละล่ำละลักพูดกับพี่สาว
“พี่ปรางค์! แม่เคยชี้ให้ผมดูนะครับ บ้านหลังที่สาม ซอย 1 นั่นมันเคยเป็นบ้านเก่าของคุณตา แม่บอกว่าคุณตาขายมันไปแล้วมาซื้อบ้านหลังที่เราอยู่หลังนี้”
“แล้วบ้านหลังเล็ก ที่คุณพูดถึงมันอยู่ตรงไหน ช่วยบอกเราหน่อยครับ” เขาซักต่อ
“พวกเธอถามทำไม ฮ่าฮ่า เอาหล่ะ ฉันเล่นสนุกกับพวกเธอพอแล้ว ช่วยไปตามแม่ของพวกเธอ คุณกิ่งฟ้า บวรธรรม มาหาหน่อยซิ บอกว่าพ่อเขามาเยี่ยม”
พอถ้วยเดินกลับมาที่ภาพบ้าน เขากับพี่สาวตกใจแทบสิ้นสติ นี่มันวิญญาณคุณตาหรอกเหรอที่อยู่ในถ้วย สองพี่น้องหน้าซีดขาว เหงื่อผุดบนใบหน้า เขาปาดเหงื่อแล้วบอกพี่สาวว่า “พี่...พี่ปรางค์ ไปตามแม่มาเร็ว”
พี่สาวของเขารีบวิ่งขึ้นไปบนบ้าน ได้ยินเสียงตะโกน “แม่...แม่... ลงมานี่หน่อย”
“อะไรกันวะ...ปรางค์ตะโกนเสียลั่นบ้าน มีใครเป็นอะไรเรอะ” แม่ลงบันไดเดินตามลูกสาวมา พอแม่มาถึงที่โต๊ะ
“พวกแกเรียกแม่มาทำไม อยากเล่นผีถ้วยแก้วก็เล่นไปซิ” แม่บ่นพึมพำ
“แม่ครับ วิญญาณในถ้วยนี้... ถ้าผมบอกแม่อย่าตกใจนะครับ”
“บอกมาซินนท์ มีอะไร” แม่พูดแล้วนั่งลงข้างเขา
เขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แม่ฟังอย่างละเอียด แม่ฟังแล้วอึ้งไปพักนึง บอกเขาว่าขอทดสอบก่อนเพราะยังไม่เชื่อว่าเป็นคุณตา พอแม่ลองถามคำถามว่าแม่เกิด วัน เดือน ปี อะไร ถามว่าชื่อเล่นของแม่ชื่ออะไร ถามว่าคุณตาตายตอนอายุกี่ปี ตายด้วยโรคอะไร วิญญาณที่อ้างว่าเป็นคุณตาในถ้วยตอบถูกหมดทุกข้อ คราวนี้ น้ำตาแม่รื้นที่ขอบตาเพราะแกยอมรับแล้วว่าวิญญาณที่อยู่ตรงหน้าคือคุณตา แม่พยักหน้าให้เขากับพี่สาว ทั้งสองเอานิ้วแตะที่ก้นถ้วย
“หนูคิดถึงพ่อนะ” แม่เอ่ย “ทำไมพ่อยังไม่ไปเกิดคะ?”
“พ่อบาปหนาฆ่าคนตายและเสพอบายมุข ตอนนี้พ่อชดใช้กรรมในขุมนรก ลูกช่วยทำบุญใหญ่ให้ที โทษของพ่อจะได้บรรเทาเบาบางลงไปบ้าง”
“แต่หนูทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พ่อทุกปีนะคะ” แม่กระเถิบเก้าอี้เข้าใกล้ “หรือว่าพ่อไม่ได้รับคะ?”
“ได้ซิ! พ่อได้รับ แต่บุญใหญ่ที่พ่อขอ ลูกไม่ต้องไปทำที่วัดหรือบริจาคเงินทองอะไร”
“พ่อรีบบอกมาซิ หนูจะทำให้พ่อทุกอย่าง ถ้าจะทำให้โทษของพ่อบรรเทาลงได้” แม่พูดเสียงเครือ
“แน่นะ! ถ้าสิ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่ลูกชอบทำที่สุดหล่ะ จะรับปากพ่อได้ไหม?”
“หนูรับปากค่ะ” แม่ยืนยัน
“พ่อขอให้ลูกและครอบครัวเลิกเล่นหวยใต้ดินเสีย มันมีแต่จะพาครอบครัวล่มจมฉิบหาย ท่านยมบาลบอกพ่อว่า ความชั่วความเลวเป็นบาปของพ่อเกิดจากหวยใต้ดิน ท่านว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ถ้าพ่อทำให้ครอบครัวเลิกเล่นหวยได้ถือเป็นบุญใหญ่จึงจะบรรเทาการรับโทษในขุมนรกไปได้บ้าง”
“จ๊ะพ่อ...หนูเข้าใจแล้ว เพื่อพ่อหนูทำได้ทุกอย่าง หนูสัญญาจะให้ครอบครัวเลิกเล่นหวยใต้ดินตลอดชีวิต”
“ดีมาก! ฟ้า พ่อรักลูกนะ หลานทั้งสองที่อยู่ตรงนี้ด้วย พ่อมานานแล้วต้องกลับไปรับโทษทัณฑ์ต่อ พ่อไปหล่ะ”
“ลาก่อนคะพ่อ” น้ำตาแม่ไหลอาบแก้ม “ลาก่อนคุณตา” เขากับพี่สาวพูดเกือบจะพร้อมกัน แม่พยักหน้าให้เขา
เขาค่อยๆ หงายถ้วย รู้สึกมีลมเย็นพัดมาปะทะหน้าวูบหนึ่ง “คุณตาไปแล้ว” แม่พูดเบาๆ ยกมือขึ้นปาดน้ำตา
โฆษณา