ถ้าไม่อยากประสบความสำเร็จ... ก็ไม่ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า "นิสัย"
ปกติแล้วเวลาไปแฮงเอาท์กับที่ออฟฟิสในโอกาสพิเศษ คุณไปด้วยเหตุผลอะไรครับ?
หลายๆคนไปด้วยเหตุผลธรรมดาๆ ว่าไปใช้โอกาสผ่อนคลายกับเพื่อนร่วมงาน หลายๆคนไปเพราะวันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด weekend หรือ วันหยุดยาวช่วงเทศกาล
แต่หลายๆ…ครั้งเราไปเพื่อฉลองความสำเร็จอะไรบางอย่างให้กับคนบางคน ทีมบางทีม หรือ ความสำเร็จในภาพรวมของบริษัท … ใช่ไหมครับ
ผมถามต่ออีกสักนิด แล้วเวลาคุณอ่านข่าวดีในหนังสือพิมพ์ หรือ ตามสื่อต่างๆ คุณเห็นข่าวอะไรครับ?
ยกตัวอย่างเป็นข่าวกีฬาก็ได้ครับ ลองนึกภาพตามผมดู เวลาคุณเห็นข่าวดีเกี่ยวกับทีมที่คุณชอบ
มันมักจะเป็นข่าวการได้ชัยชนะ การได้ถ้วยรางวัล หรือ การประสบความสำเร็จอย่างใดอย่างหนึ่ง
หรือ ถ้าคุณอ่านข่าวธุรกิจ ก็มักจะเป็นข่าวบุคคลหรือบริษัทที่คุณติดตาม ประสบความสำเร็จหรือบรรลุเป้าหมายสำคัญ อย่างใดอย่างหนึ่งใช่ไหมครับ?
แล้วถ้าเป็นเรื่องทั่วๆไปหล่ะ เอาตัวอย่างในหน้าแอพ ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊คหรือไอจีของคุณก็ได้
เวลาคุณเห็นอัพเดท สตอรี่ ของเพื่อนคุณหรือคนที่คุณรู้จัก ติดตาม คุณมักจะเห็นอะไรครับ คุณมักจะเห็นเค้าอัพเดทเรื่องน่ายินดี ข่าวดี เรื่องที่เค้าประสบความสำเร็จอย่างไดอย่างนึง ใช่ไหมครับ?
ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติมากๆ ที่คนเรามักจะแชร์ หรือ เรามักจะเลือกเห็นสิ่งที่เป็นผลลัพธ์ของความพยายามอย่างยาวนานอะไรบางอย่าง
และผมว่าเราทุกคนก็รู้ด้วยว่า ก่อนที่จะได้ผลลัพธ์อย่างใดอย่างนึงมา เรามักจะต้องแลกด้วยความทุ่มเทอย่างหนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น
โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมน่าจะเหมือนกับทุกๆคนที่รับรู้ความจริงในข้อนี้ และให้ความสำคัญกับกระบวนการระหว่างทาง…อย่างน้อยก็ระดับหนึ่ง
แต่ขอสารภาพตามตรง ว่าผมไม่เห็นความสำคัญและเข้าใจมันมากเท่ากับตอนออกมาทำธุรกิจส่วนตัวนะครับ
ในความคิดเห็นของผมเองโดยส่วนตัวนะครับ นั่นอาจจะเป็นเพราะลักษณะของการเป็นพนักงานประจำทำงานในบริษัท ซึ่งการทำงานใดๆอย่างนึง ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจ ความร่วมมือจากหลายๆคน หลายๆฝ่ายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมา
ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องแปลก และผมว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆเพราะการร่วมแรงร่วมใจ ทำให้เราได้สิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่าการทำคนเดียวหรือน้อยคนเสมอ
แต่ในข้อดีก็มีข้อเสีย เมื่อเราทำงานเป็นพนักงานประจำ…อย่างน้อยๆสำหรับผมนะครับ…ผลลัพธ์มักจะใหญ่กว่าความทุ่มเทที่ผมใส่ลงไปแทบจะเสมอ…อย่างน้อยๆก็เป็นส่วนใหญ่ เพราะอย่างที่บอกครับว่ามันเกิดจากความทุ่มเทแรงกายแรงใจของหลายๆคน
นั่นทำให้หลายๆครั้ง…ผมยึดติดกับการมองไปที่ผลลัพธ์ในตอนท้าย จนลืมถึงความทุ่มเทที่ต้องใส่ลงไปเพื่อให้ได้มันมา
ต่างกับการทำธุรกิจส่วนตัว…อย่างน้อยๆในช่วงเริ่มต้น ที่คุณมีทรัพยากรจำนวนจำกัด คุณทำงานเหมือนเป็นนักกีฬา…ยกตัวอย่างเป็นนัก football ก็ได้ครับ…คุณต้องพยายาม ทำงานอย่างหนักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปรับปรุงแก้ไขไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการออกมา ….
เหมือนนักกีฬา คุณต้องซ้อมเตะฟรีคิกเป็นพันๆหมื่นๆครั้งหลายร้อยชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่า เวลาลงสนาม 90 นาที…เมื่อโอกาสมาถึง คุณสามารถบรรลุผลลัพธ์ที่คุณต้องการ
ผมได้ฟัง speech ของ Danze; Washington ซึ่งผมว่าเค้าพูดสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ดีมากๆ ดีกว่าผมเยอะซึ่งผมจะขอหยิบมาเป็นบทสรุปของบทความผมในครั้งนี้เลยละกันนะครับ
Without commitment, you will never start.
Without consistency, you will never finish.
ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ ผมว่าเป็นประโยชน์สำหรับการทำงานประจำเช่นกันครับ...
จากพนักงานประจำ... สู่คนทำธุรกิจ (From CBD with love)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
