2 ส.ค. 2022 เวลา 07:24 • การตลาด
แนวคิดเรื่องเงิน 4 ด้าน
เงินสี่ด้าน
แนวคิดในการบริหารจัดการเงินเพื่อความมั่นคั่งเเละมั่นคงจากหนึ่งในหนังสือที่เป็นตำนานตลอดกาลที่ยังคงใช้ได้จริงไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปมาก นั่นก็คือ Rich Dad Poor Dad หรือ พ่อรวยสอนลูกนั่นเอง โดยเนื้อหาที่จะหยิบยกมาในวันนี้จะอยู่ในเล่มที่ 2 ของ Rich Dad Poor Dad นั้นก็คือเรื่องเงิน 4 ด้าน
เรามาทำความรู้จักกับเเนวคิดนี้กันเลยครับ
เงิน 4 ด้านหมายถึงอะไร ?
เงิน 4 ด้าน หมายถึง แหล่งที่มาของรายได้ มี 4 ช่องทาง คือ

1. รายได้จากงานประจำ (E) (Employee )
2. รายได้จากกิจการส่วนตัว Freelance ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ (S) (Self-Employed )
3. รายได้จากธุรกิจส่วนตัว รวมถึงลิขสิทธิ์ต่างๆ (B) (Business Owner) 
4. รายได้จากการลงทุน (I)(Investor)
*B กับ S ต่างกันตรงที่ S ยังต้องทำงานเองอยู่เเม้จะเป็นนายตัวเอง ส่วน B คือเราอาจจ้างคนมาบริหารธุรกิจ

รายได้ทั้ง 4 ช่องทาง แบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่คือ รายได้จากการทำงาน หรือ Active Income (E กับ S) และรายได้จากทรัพย์สิน เรียกว่า Passive Income ( B กับ I ) 
แนวคิดเรื่องเงินสี่ด้านก็คือ การชี้ให้เห็นถึงช่องทางรายได้ที่แตกต่างกัน คนเราควรมีแหล่งรายได้มากกว่า 1 ด้านจากทั้งหมด 4 ด้านที่กล่าวไป
เช่น ถ้าเราทำงานประจำอยู่ เราก็ควรลองหาช่องทางอื่นๆมาเสริมดู เช่น ลองศึกษาการลงทุนในหุ้น อสังหาริมทรัพย์ , …. อะไรก็ว่าไปเพื่อเพิ่มจาก E เป็น E + I หรือ อาจจะลองหาของมาขายออนไลน์เพื่อเพิ่มรายได้ให้เเก่ตัวเองซึ่งก็จัดในหมวดตัว S ซึ่งถ้าหากเรามีเเหล่งรายได้หลายทางมันก็จะช่วยเพิ่มความมั่งคั่งเเละลดความเสี่ยงหากเกิดอะไรผิดพลาดในด้านต่างๆของเงินนั่นเอง

คำถามก็คือเราทุกคนควรต้องมุ่งเน้นไปที่การสร้าง B หรือ I รึเปล่า ?
ความจริงนั้นคิดว่าไม่จำเป็น มันขึ้นอยู่กับตัวเราว่าชีวิตนี้เราทำอะไรเเล้วมีความสุข อยากจะยกตัวอย่างของตำนานสุดยอดเชฟซูชิ “จิโร่ โอโนะ” เจ้าของรางวัล 3 Stars Michelin ที่ร้านซูชิของเขาที่ชื่อ Sukiyabashi Jiro เป็นแค่เพียงร้านเล็กๆ ในสถานีรถไฟใต้ดินในโตเกียว ที่มีที่นั่งสำหรับลูกค้าเพียงแค่ 10 คน ห้องน้ำก็ต้องเดินออกไปเข้าข้างนอกร้านแล้วยังต้องโทรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนอีกด้วยถึงจะได้กิน
ว่ากันว่าเขาไม่เคยบ่น ไม่เคยเหนื่อยที่จะพัฒนาฝีมือและรสชาติซูชิของเขาเลย เขาบอกว่าการพัฒนาซูชิคือสิ่งเดียวที่เขาคิดอยู่ตลอดเวลา คุณปู่จิโร่ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนร้านของเขาให้เป็นร้านซูชิแบบสมัยนิยม ไม่ได้คิดค้นสูตรเพื่อผสมผสานรสชาติของซูชิกับอาหารชาติอื่นๆ อย่างที่ร้านดังๆ เก๋ๆ ทั่วโลกนิยมทำกันตอนนี้

ซึ่งสาเหตุก็เพราะเป้าหมายชีวิตของคุณปู่จิโร่ ไม่ได้มีเป้าหมายที่ต้องการความร่ำรวยแบบมากมาย แต่เป้าหมายของคุณปู่นั้นคือการพัฒนาการทำซูชิออกมาให้เก่งขึ้นไปเรื่อยๆ
“ I’ll continue to climb trying to reach the top but no one knows where the top is.”
จิโร่ โอโนะ

ในโลกปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินเป็นสิ่งสำคัญแต่ความสำคัญและอำนาจของเงินอาจจะทำให้คนเราหลงลืมตัวตนและสิ่งที่ตนเองรักไป ดังนั้นเงิน 4 ด้าน งาน 4 ประเภทนั้นไม่ได้จำกัดว่าเราต้องเป็น B หรือ I ถึงจะประสบความสำเร็จเราสามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ว่าอยู่ในด้านไหนเพราะความสำเร็จของคนเรานั้นไม่เหมือนกัน (แต่ทั้งนี้ถ้าตัวเรามีหลายด้านก็จะดีเพราะชีวิตนั้นเป็นสิ่งไม่เเน่นอน)
ขอขอบคุณ
โฆษณา