2 ส.ค. 2022 เวลา 11:26 • กีฬา
เจอร์เกน คลิ้นสมันน์ผู้พลิกโฉม “ไก่เดือยทอง”
มีนักเตะเพียงไม่กี่คนที่สามารถเปลี่ยนแปลงทีมได้อย่างน่าทึ่งเมื่อเขาตัดสินใจไปร่วมทีม อาทิเช่น เอริก คันโตนา ตอนย้ายไปอยู่กับลีดส์ หรือ อลัน เชียเรอร์ ย้ายจากเซาแธมป์ตันไปอยู่กับแบล็กเบิร์น
แต่มีนักเตะอยู่คนหนึ่งที่ย้ายไปร่วมทีมเพียงฤดูกาลเดียวแต่สร้างความเปลี่ยนแปลงในสโมสรแห่งนั้นได้อย่างมากมาย เขาคือ “ฉลามขาว” เจอร์เกน คลิ้นสมันน์
กองหน้าทีมชาติเยอรมนีย้ายจากโมนาโกไปอยู่กับสเปอร์สเมื่อปี 1994 ในขณะที่มีอายุ 30 แล้ว และเล่นในถิ่นไวต์ ฮาร์ตเลนแค่ฤดูกาลเดียว แต่ผลงานที่แสดงออกมานั้นยอดเยี่ยมเสียจนทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลที่แฟนบอล “ไก่เดือยทอง” ไม่เคยลืมเลือนเลย
สถานการณ์ของ “ไก่เดือยทอง” ก่อนการมาถึงของ “ฉลามขาว” ไม่ค่อยดีนัก ออสซี อาร์ดิเลส อดีตนักเตะตำนานอีกคนของสเปอร์สมารับหน้าที่คุมทีมเพราะการผลักดันของอลัน ชูการ์ ผลงานไม่ดีนัก พวกเขาจบผลงานในฤดูกาล 1993-94 โดยมีคะแนนเหนือโซนตกชั้นเพียง 3 แต้มเท่านั้น
แต่สเปอร์สเป็นสโมสรดังในพรีเมียร์ลีก และเป็นหนึ่งในสโมสรเก่าแก่ในลอนดอนด้วย ไม่แปลกที่มีแรงดึงดูดสำหรับนักฟุตบอลชื่อดังที่อยากย้ายมาร่วมทีมด้วย อลัน ชูการ์ แก้ตัวได้สำเร็จในฤดูร้อนของปี 1994 ใช้เงินแค่ 2 ล้านปอนด์คว้าตัวคลิ้นสมันน์มาร่วมทีม
เป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักที่ “ไก่เดือยทอง” จะเซ็นสัญญากับนักเตะต่างชาติในระดับบิ๊กเนม ก่อนหน้านั้นเห็นจะมีเพียง อาร์ดิเลส และ ริคาร์โด วิลญา หลังจากทั้งสองคนอยู่ในทีมชาติอาร์เจนตินาชุดสู้ศึกเวิลด์ คัพ 1978
ในขณะที่ในทีมแมนฯยูในขณะนั้นคันโตนาและปีเตอร์ ชไมเคิล เป็นดาวเด่นของทีม ส่วนสเปอร์สไม่มีใครเลย
คลิ้นสมันน์ได้แชมป์โลกกับ “อินทรีเหล็ก” ในเวิลด์ คัพ 1990 ที่อิตาลี ได้นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมัน 2 สมัย ได้แชมป์ยูฟา คัพ กับ อินเตอร์ มิลาน และยิงได้ 168 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 388 นัดในการเล่นใน 3 ลีกใหญ่ของยุโรป
“คลิ้นซี่” เคยเขี่ยอังกฤษตกรอบรองชนะเลิศในเวิลด์ คัพ 1990 และในนัดชิงชนะเลิศก็แกล้งพุ่งล้มจนทำให้เปโดร มอนซอน ของอาร์เจนตินาโดนใบแดงไล่ออก ในสายตาของแฟนบอลของอังกฤษเขาจึงเป็น “ตัวแสบ” คนหนึ่ง บางคนเรียกเขาว่า “ไอ้ขี้โกง”
แต่เมื่อกองหน้าทีมชาติเยอรมันมาเปิดตัวที่อังกฤษ เขาทำให้แฟนบอล สื่อมวลชน รู้สึกเซอร์ไพรส์มากเพราะเขาไม่มีมาดของความเป็นซูเปอร์สตาร์เลย เขาหัวเราะ หยอกล้อ และตอบคำถามนักข่าวอย่างชาญฉลาดและคมคาย
ในนัดเปิดสนามเขาฉลองการทำประตูช่วยให้สเปอร์สเอาชนะเชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ 4-3 ประตู ด้วยการพุ่งลงกับสนามหญ้าซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวไปเลย
ผลงานใน 6 เกมแรกเขายิงได้ 7 ประตู และลูกยิงที่น่าประทับใจที่สุดก็คือการทำประตูในนาทีที่ 89 ช่วยให้สเปอร์สแซงเอาชนะลิเวอร์พูล ในเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
คลิ้นสมันน์จบผลงานในฤดูกาลนั้นด้วยการยิงได้ 30 ประตูในทุกรายการ และได้รับเลือกเป็นนักเตะแห่งปีของอังกฤษจากสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอลอังกฤษ และติดทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกอีกด้วย
แม้จะเล่นเพียงฤดูกาลเดียว แต่มีส่วนทำให้การเล่นของ “ไก่เดือยทอง” ยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมาอีก โดยเฉพาะเท็ดดี้ เชอริงแฮม ที่เล่นกองหน้าคู่กันมีพัฒนาการทั้งการยิงประตู การแอสซิสต์ ก่อนที่เชอริงแฮมจะย้ายไปโด่งดังกับแมนฯยูเมื่อกลางปี 1997
คลิ้นสมันน์อำลา “ไก่เดือยทอง” หลังจบฤดูกาล และกลายเป็นกัปตันทีมพา “อินทรีเหล็ก” คว้าแชมป์ยูโร 96
1 ม.ค. 1998 เขาย้ายจากซามพ์โดเรียกลับมาอยู่กับสเปอร์สอีกครั้ง ในฤดูกาล 197-98 ก็ยังยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องช่วยให้ทีมรอดตกชั้นได้สำเร็จ โดยยิงในลีกได้ 9 ประตูในการลงเล่น 15 นัด
“ฉลามขาว” ช่วยทำลายทัศนคติของแฟนบอลอังกฤษกับนักเตะต่างชาติที่ไม่สู้ดีนักออกไปได้ในที่สุด และพรีเมียร์ก็เปิดกว้างสำหรับนักเตะต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ
ยี่สิบปีหลังจากนั้นชื่อของ “เจอร์เกน คลิ้นสมันน์” ก็ยังเป็นชื่อที่ได้รับความชื่นชม ยอมรับและนับถือในพรีเมียร์ลีก
โฆษณา