3 ส.ค. 2022 เวลา 10:59 • นิยาย เรื่องสั้น
สรุปจาก Content Writing 101 สร้างรายได้ผ่าน ‘การเขียนคอนเทนต์’
======================
นี่เป็นแค่หนึ่งในคอร์สจากทาง FutureSkill ที่เพจเราสรุปมา ยังมีคอร์สดีๆ อีกมากมายมากกว่า 150+ คอร์ส ให้เรียนได้ไม่จำกัดกับแพ็คเกจรายปี 🔥 พิเศษ! สำหรับแฟนเพจ วันนี้สรุปมา กดรับส่วนลด 50% ได้ที่ 👉🏻 https://bit.ly/3OP9SJq หรือใส่โค้ด “AFFTDIN” สำหรับการสมัครแพ็คเกจรายปี เรียนได้ไม่จำกัด เรียนจบได้ใบรับรอง Certificate
======================
======================
1. รู้จัก Content และ SEO
======================
- คอนเทนต์คือข้อมูลที่เราใช้สื่อสารในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งวิดีโอ ภาพ เสียง กราฟฟิก พอดแคสต์ แคปชั่นต่างๆ ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ได้ตามจุดประสงค์ที่เราต้องการ เพราะคอนเทนต์แต่ละรูปแบบก็มีฟังก์ชั่นที่ต่างกันและเจาะคนละกลุ่มเป้าหมาย
- รูปแบบของคอนเทนต์ต่างๆ ที่เป็นที่นิยมและพบเห็นได้บ่อยคือ Social Post, Video, Podcast, Infographics, Article, Photo
- ส่วนใหญ่นักการตลาดจะนำคอนเทนต์ต่างๆ ไปประยุกต์และปรับใช้ในทุกๆ เส้นทางของลูกค้า ถ้าเราผลิตคอนเทนต์ได้ดี ก็จะส่งผลต่อการซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้มากขึ้น
- SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับ Search Engine เช่น Google ช่วยให้คนค้นหาเว็บไซต์หรือโปรดักเราง่ายขึ้น
- ส่วนประกอบสำคัญคือ Keyword หรือคำที่ใช้ search บน search engine ซึ่งแบ่งออกเป็น
*1. Head Terms
- คำค้นหาที่เป็นคำเดียว เช่น ประกัน
*2. Body Keywords
- คำค้นหาที่มี 2-3 คำ ขยายความมากขึ้น เช่น ประกันชีวิต
*3. Long Tail Keywords
- มีมากกว่า 4 คำขึ้นไป เช่น ประกันชีวิตราคาไม่แพงสำหรับผู้สูงอายุ
- เราจะหา Keyword ได้จากการลอง search ในช่องของ Google จะมีคำแนะนำอื่นๆ ขึ้นมา หรือดูได้ที่ Related Search ทางด้านล่าง
- ถ้าเราจะเขียนเรื่องอะไร ลองวางตัวเองเป็นลูกค้าของสิ่งนั้น เช่น ในฐานะนักท่องเที่ยว จะหาโรงแรม จะ search ด้วยคำว่าอะไรได้บ้าง
======================
2. เรียนรู้ทักษะการเขียน
======================
- Content Writing คือคอนเทนต์ที่อยู่ในรูปแบบของการเขียน ไม่ได้จำกัดแค่การเขียนบนกระดาษ แต่รวมถึงออนไลน์ มีหลายรูปแบบทั้ง Article, Product Descriptions, Website Content, E-mail, Press Releases, E-book, Review
- การจะเขียนคอนเทนต์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนได้ง่ายๆ
—————————————
STEP 1: RESEARCH
—————————————
—————————————
*1. Business Goal
—————————————
- ต้องการเขียนรูปแบบไหน
- เป้าหมายของงานเขียนแต่ละชิ้นคืออะไร (เพิ่มคนรู้จัก/เพิ่มยอดขาย/สร้างภาพลักษณ์)
- โทนงานเขียนหรือเอกลักษณ์ของคุณคืออะไร
—————————————
*2. Audience
—————————————
- วาง Persona คนอ่านหรือกลุ่มเป้าหมายของเรา (ต้องชัดเจน มีผลต่อน้ำเสียง ลักษณะการเขียน) อายุ อาชีพ ความชอบ ความสนใจ pain point ฯลฯ
- ความสนใจ ของกลุ่มคนเหล่านี้ ถ้าเป็นบทความเชิงให้ความรู้ การใช้ pain point ตั้งเป็น headline จะช่วยดึงคนอ่าน ถึงบทความจะยาวแต่ถ้าตรงกับสิ่งที่คนสนใจเขาก็จะอ่าน
—————————————
*3. Content Strategy
—————————————
- รูปแบบคอนเทนต์ บทความ/รีวิว/Product Description
- ช่องทางเผยแพร่ Facebook/Twitter/LINE OA สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อการออกแบบคอนเทนต์ การจะทำ one size fit all นั้นไม่ได้ กลุ่มคนอ่านแต่ละกลุ่มมีพฤติกรรมการอ่านต่างกัน เช่น Facebook ส่วนใหญ่เป็นแคปชั่น เป็นคำที่สั้นกระชับ สร้างจุดสนใจ Twitter จำกัดจำนวนข้อความ รูปแบบการเขียนก็จะเปลี่ยนไป Instagram พฤติกรรมส่วนใหญ่คนจะดูรูปภาพ รูปภาพที่สวยก็จะดึงดูดคน
- การจัดการคอนเทนต์ จะลงเมื่อไหร่ เวลาไหน ตามกระแส ตามเทรนด์ ความถี่ในการลง
—————————————
*4. Content Performance
—————————————
- ลองตั้งเป้าว่าเราจะวัดผลว่าแต่ละงานเขียนของเราจะ success หรือไม่ วัดจากอะไรบ้าง
—————————————
STEP 2: PLANNING
—————————————
- การวางแผนที่ดีจะช่วยให้เราจัดการงานได้ดียิ่งขึ้น ทำให้การเขียนไม่เป๋และขาดหาย
- วางเป้าหมายในแต่ละโพสต์ (เห็นสินค้าใหม่ๆ / เห็นโปรโมชั่นเพื่อทำให้เกิดการสื่อ)
- ความถี่ในการปล่อย
- ประเภทของการเขียน
- หัวข้อ
- เดตไลน์ หรือวันที่เผยแพร่
- เจ้าของงาน/ผู้มีความเกี่ยวข้อง ที่เราต้องมีการคุยงาน ตกลงกันเพิ่มเติม
- ไม่จำเป็นต้องวางทั้งหมดทุกคอนเทนต์ แต่ในช่วงแรกควรวางแผนเพื่อช่วยกำหนดทิศทางในการเขียน
—————————————
STEP 3: WRITING
—————————————
- DO IT!! ต้องลงมือทำ ถ้าวางแผนแล้วไม่ลงมือทำก็ไม่มีประโยชน์ ลองผิดลองถูก อ่านปรับแก้งานเขียนเราอยู่สม่ำเสมอ
======================
3. Tip & Trick สำหรับงานเขียนประเภทต่างๆ
======================
—————————————
*1. Review (รีวิวสินค้า/ผลิตภัณฑ์)
—————————————
- เขียนเล่าประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ
- ไม่จำกัดรูปแบบและแพลตฟอร์ม ขึ้นอยู่กับลูกค้าและตัวของเราเอง
- ใช้เอกลักษณ์ของผู้เขียนค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นการเขียนจากประสบการณ์ของเรา ทำไมถึงจะแนะนำให้คนซื้อ ส่งผลต่อการขาย เพราะคนมักจะใช้การ search เพื่อหารีวิว
- ควรเลือก คำ หรือ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการนั้นๆ มาใช้เปิดหัวหรือตั้งชื่อเรื่อง (มีผลต่อ SEO)
- ภาพและเนื้อหามีความชัดเจนกับผลิตภัณฑ์นั้นมากๆ เพราะการเขียนรีวิวต้องเน้นไปที่การให้ข้อมูลของผู้ใช้งานจริงๆ
- ช่วงหลังๆ การเขียนรีวิวภาพอาจจะไม่ต้องสวยงามมาก แต่มีความ real อยู่ในนั้น ก็จะทำให้คนรู้สึกว่ามันเป็นมากกว่าภาพโฆษณา เป็นคนใช้งานจริงๆ ทำให้คนรู้สึกอยากใช้งาน
- ประสบการณ์การหลังใช้งานก็สำคัญมากๆ ต้องมากกว่าแค่การเขียนคุณสมบัติเหมือนโฆษณาในทีวี
- เป็นตัวเองให้มาก สร้างเอกลักษณ์ แต่ไม่รีวิวเกินจริง
—————————————
*2. Article (บทความ)
—————————————
- เป็นการเขียนเนื้อหาที่ค่อนข้างยาว มีข้อมูลสนับสนุนที่น่าเชื่อถือ มักจะอยู่บนเว็บไซต์
- ประกอบไปด้วย Title (ชื่อเรื่อง), Body (เนื้อหา), Conclusion (สรุป)
- ลองวางเนื้อหาเป็น bullet ก่อนว่าตั้งแต่ต้นจนจบจะเล่าเรื่องอะไร ลำดับอย่างไร
- จาก bullet ที่เรามี จะเอาอันไหน ไม่เอาอันไหน จะใช้อันไหนเปิด อันไหนเป็นหมวดหมู่เดียวกัน
- หา story telling format ให้เจอ เราจะเล่าแบบไหน แบบ What - เกิดอะไรขึ้นบ้าง แบบ How - มีวิธีการอย่างไร หรือ แบบ Why - อ่านแล้วสามารถตอบคำถามให้เหตุผลที่เราสงสัย ช่วยกำหนดทิศทาง สไตล์การเขียน รวมถึงข้อมูลที่เราจะใช้หา
- ควรศึกษา SEO และการหา keyword เพิ่มเติมเพื่อให้คน search เจอง่ายมากขึ้น อาจจะเอามาใส่ในชื่อเรื่อง ย่อหน้าแรกของบทความก็ควรจะมี keyword ที่คนมักจะ search
- บทความแบบขายตรงๆ จะเป็นการเล่าเรื่องถึงแบรนด์ตรงๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ เล่าถึงประโยชน์ของสินค้าโดยตรง
- บทความแบบ Tie-in เห็นชื่อเรื่องอาจจะไม่รู้ว่าพูดถึงสินค้าตัวไหน ต้องเข้าไปอ่านข้างในก่อน เหมือนกับเป็นการล่อให้เราเข้าไปอ่านเกี่ยวกับเรื่องที่เราสนใจ อ่านไปแล้วพอใกล้ๆ จบจะมีการ tie-in สินค้าขึ้นมา
- ถ้าเริ่มต้น ควรเริ่มฝึกมือจากเรื่องที่เราชอบหรือใกล้ตัวก่อน เช่น เขียนอธิบายถึงตำแหน่งที่เราทำงานอยู่ บทความมาจากการหาข้อมูล การให้ความรู้ต่างๆ ต้องใช้เวลาในการหาข้อมูลและการเขียน
—————————————
*3. Product Content (เขียนอธิบายสินค้า/ผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมการขาย)
—————————————
- เป็นการเขียนเพื่อส่งเสริมการขายเน้นที่ผลิตภัณฑ์หรือบริการโดยตรง จะต่างกับการเขียนรีวิวตรงที่จะไม่มีส่วนของการใช้งาน แต่เป็นการให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ รวมถึงการเขียนโปรโมชั่นต่างๆ
- มีทั้งแบบเขียน tie-in เขียนโฆษณาไปเลยโต้งๆ หรือจะเป็นเขียนคำอธิบายสินค้าให้น่าซื้อมากยิ่งขึ้น
- เน้นไปที่ Product Benefits ลูกค้าจะได้ประโยชน์อะไรจากการใช้สินค้าหรือบริการนี้ คนเราจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรืออ่านบทความต้องมีจุดร่วมกับคนอ่านก่อน
- การสร้าง story ให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ส่งผลกับอารมณ์ของคนซื้อ เช่น แบรนด์นี้อยู่คู่กับคนไทยมามากกว่า 20 ปี หรือ สินค้าชิ้นมีการผลิตโดยช่างฝีมือระดับโลกที่เคย… เพิ่มเนื้อหาให้กับแบรนด์ให้แบรนด์ดูมี value สร้างความน่าสนใจ แต่ต้องเป็นเรื่องจริง
- ใช้ Power Words ในการส่งเสริมการขาย อ่านแล้วรู้สึกกินใจหรือตรงกับ pain point เช่น มันช่วยเติมเต็ม มันดีมากๆ ทั้งนี้ต้องดูคำโฆษณาเกินจริงที่ “ห้ามใช้” ของไทยด้วย
—————————————
*4. Fiction (เรื่องสั้น/นวนิยาย)
—————————————
- Fiction คือเรื่องแต่ง
- คอนเทนต์ที่เรามักเห็นโดยทั่วไปคือ Non-Fiction หรือการนำเสนอเรื่องจริง
- ปัจจุบัน Fiction มีความหลายหลายยิ่งขึ้น ตั้งแต่นิยาย ภาพยนตร์-ละคร หรือแม้กระทั่ง Chat Fiction
- อ่านให้เยอะ เพราะการเขียน Fiction ต้องใช้จินตนาการและความ creative ค่อนข้างสูง ยิ่งเราอ่านเยอะ มีข้อมูลเยอะเท่าไหร่ก็จะช่วยให้เนื้อหานิยายของเรามีอรรถรสที่เข้มข้นและสมจริงมากยิ่งขึ้น
- หาสไตล์ตัวเองให้เจอ เพราะถ้าเราหาไม่เจองานเขียนของเราก็จะไปคล้ายหรือซ้ำกับนักเขียนคนอื่นๆ ที่เป็นไอดอลของเรา
- หากลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับสไตล์งานของเรา เช่น สำนักพิมพ์แจ่มใส - วัยรุ่นมัธยม ความรักใสใส, แฮรี่ พอตเตอร์ - เด็กที่โตขึ้นมาหน่อย เพราะมีคำเฉพาะ
- หาตอนจบให้เจอ เป็นกับดักของนักเขียนหลายๆ คน ถ้าเริ่มเขียนแล้วไม่ได้วางโครงไว้ตั้งแต่แรก สุดท้ายอาจจะมาตายตอนจบ
- เรียนรู้เทคนิคการเขียนต่างๆ ที่แนะนำคือ Hero’s Journey, 3 Pillars of Story Telling, Stroy Structure สามเทคนิคที่ทำให้เราเข้าใจพื้นฐานของการเขียน fiction ได้มากยิ่งขึ้น
- หากอยากเขียนนิยายขายออนไลน์ ควรมีบทใหม่ลงทุกวัน
======================
4. Tip & Trick ในการตั้ง Headline
======================
- 80% ของคน อ่าน Headline ก่อน มีเพียง 20% เท่านั้นที่จะดูเนื้อหาที่เหลือ
- “ตัวเลข” เป็น headline ที่มีคน engage ด้วยมากที่สุดบน Facebook โดยตัวเลขใน headline ที่นิยม 3 อันดับแรกคือเลข 10/5/15 (เช่น 10 สิ่งที่ต้องรู้)
- การที่มีคำว่า “เท่านั้น” ใน headline จะช่วยเพิ่มความ exclusive ดึงดูดให้คนอยากอ่านมากขึ้น (เช่น คอนเทนต์นี้สำหรับสาวโสดเท่านั้นที่ต้องอ่านให้ได้)
- ประเภทคอนเทนต์ที่คนคลิกมากที่สุดบน Facebook คือ List, How to, Quiz
- การเขียนเพื่อสร้างรายได้ในเชิงของ Freelance หรืออาชีพ ถ้าทำในช่องทางตัวเอง เอกลักษณ์สำคัญมาก ลักษณะการเขียนอาจจะไม่ได้มีรูปแบบตายตัว ขึ้นอยู่กับตัวผู้เขียนว่าอยากเขียนออกมาด้วยน้ำเสียงโทนไหน เล่าเรื่องลักษณะไหน แต่ถ้าเป็นงานที่รับมาจากลูกค้า ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นคนที่บรีฟสไตล์การเขียนให้เราฟังว่า อยากได้งานเขียนที่เป็นอย่างไร
กลุ่มเป้าหมายแบบไหน keyword สำคัญมีอะไรบ้าง เราก็จะได้ข้อมูลจากลูกค้าอยู่แล้วเบื้องต้น ดังนั้นลักษณะของการเขียนเพื่อหารายได้ก็ค่อนข้างจะหลากหลายและไม่ได้มีสูตรตายตัว ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มลูกค้าและตัวเราเอง
======================
5. Story Telling Canvas วิธีการวางแผนการเล่าเรื่องขั้นพื้นฐาน
======================
- Subject เล่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร
- Goal เป้าหมายของงานเขียนชิ้นนี้
- Audience กลุ่มเป้าหมายที่อยากจะให้อ่าน
- Before - เป็น pain point ก่อนการอ่านเขามีความรู้สึกนึกคิดหรือต้องการอะไร
1. Set the scene จุดเริ่มต้นของเรา แพลนว่าจะเริ่มเล่าเรื่องนี้แบบไหน
2. Make your point จะหา AHA Moment ตรงกลางยังไงบ้าง
3. Conclusion บทสรุปของเรื่องนี้คืออะไร
- After หลังจากอ่านจบแล้ว คนอ่านจะได้อะไรกลับไปบ้าง
—————————————
ตัวอย่าง
—————————————
Subject: โรงแรม ABC
Goal: คนอยากไปพัก
Audience: คู่รักวัยทำงาน 25-34 ปี
Before: ไม่รู้จะเที่ยวไหนกับแฟนดี, อยากได้ที่ถ่ายรูปสวยๆ ไม่ซ้ำใคร
1. Set the scene: แนะนำโรงแรมเปิดใหม่ ราคาสบายกระเป๋าที่มาพร้อมโปรโมชั่นช่วงเทศกาล
2. Make your point: โรงแรมเปิดใหม่ (ไม่ซ้ำใคร) ห้อง mock up ไว้ให้ถ่ายรูปเฉพาะ (ได้รูปสวย)
3. Conclusion: สรุปโปรโมชั่นและข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมที่ต้องรู้
After: รู้สึกแปลกใหม่ อยากรีบจองเพราะมีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในเวลาที่จำกัด
======================
6. Platform ช่องทางหารายได้เสริมจากงานเขียน
======================
=========
Non-fiction
=========
—————————————
*1. Fastwork
—————————————
- แหล่งรวมฟรีแลนซ์อันดับ 1 มีฟรีแลนซ์หลากหลายประเภทที่เราสมัครและทำได้
- ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการสมัคร แต่จะเก็บค่าบริการต่อเมื่อฟรีแลนซ์ทำการเสนอราคาต่อผู้ว่าจ้างเท่านั้น
- ถ้าราคาต่ำกว่า 10,000 บาท จะมีการจัดเก็บค่าบริการ 17%
- กำหนดรอบการตัดยอดเงินค่าจ้างในวันจันทร์ ช่วงเวลา 00.01-02.00 น. ก่อนที่จะถึงรอบโอนเงินทุกวันอังคารของสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน
—————————————
*2. Blockdit
—————————————
- แพลตฟอร์มสำหรับผู้ที่มองหาไอเดียใหม่ๆ
- ต้องสร้างเพจก่อนแล้วเขียนบทความลงเพจ
- เมื่อเพจมีโพสต์ที่ได้ดาวอย่างน้อย 3 โพสต์ จะสามารถกดปุ่มเปิดการหารายได้
- ดาว 1 ดวงจะมีมูลค่า 50-130 บาท แต่หากโพสต์ไหนพลังดาวขึ้นไม่เต็มหลอด เราก็จะไม่ได้เงินจากโพสต์นั้น
—————————————
*3 FreelanceBay
—————————————
- เว็บไซต์ศูนย์รวมคนทำงานฟรีแลนซ์มืออาชีพ ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีจากเว็บไซต์ Thaifreelancebid.com
- ต้องสมัครสมาชิกแล้วลงประกาศรับเขียนบทความ
- ไปที่เมนู ‘หางาน’ ดูได้ว่ามีใครประกาศหาคนทำงานไหนไว้อยู่บ้าง
*4 Upwork
- เป็นเว็บไซต์ที่โด่งดัง (เป็นภาษาอังกฤษ) มีหมวดหมู่งานมากมาย
- ศูนย์รวมฟรีแลนซ์ระดับโลก
- โอกาสในการทำงานร่วมกับแบรนด์ดังๆ ที่มีชื่อเสียง เช่น งานออกแบบ, ทำเว็บ, การตลาด
=========
Fiction
=========
*1. fictionlog
- แบรนด์ภายใต้ Ookbee พื้นที่เขียนและขายนิยายออนไลน์ โดยนักอ่านสามารถเข้ามาซื้อเพื่อสนับสนุนนักเขียนได้โดยตรงตอนต่อตอน
- ทุก 50% ของยอดขาย ส่งตรงถึงนักเขียน
- มีพื้นที่สนับสนุนเพื่อช่วยผลักดันตัวงานเขียนและนักเขียนให้ดียิ่งขึ้นด้วย
*2. readAwrite
- ระบบที่ชุมชนนักเขียน-นักอ่าน readawrite เป็นของ Meb
- สร้างรายได้จากการที่นักอ่านซื้อตอนหรือเติม Coin ต่างๆ
- อัตราส่วนรายได้ นักเขียน 70% / แฟลตฟอร์ม 30%
======================
- นี่เป็นแค่หนึ่งในคอร์สจากทาง FutureSkill ที่เพจเราสรุปมา ยังมีคอร์สดีๆ อีกมากมายมากกว่า 150+ คอร์ส ให้เรียนได้ไม่จำกัดกับแพ็คเกจรายปี 🔥 พิเศษ! สำหรับแฟนเพจ วันนี้สรุปมา กดรับส่วนลด 50% ได้ที่ 👉🏻 https://bit.ly/3SkL0vX
- หรือใส่โค้ด “AFFTDIN” สำหรับการสมัครแพ็คเกจรายปี เรียนได้ไม่จำกัด เรียนจบได้ใบรับรอง Certificate
======================
Course Name: 22 APR 2021 (20:00-21:00)
Instructor: Chayanis Tonruk (Media Director at Future Trends)
Platform: FutureSkill
======================
#Writing #เขียนคอนเทนต์ #หารายได้ #Upskill #Reskill #Relearn #FutureSkill #FutureTrends #todayinoteto #วันนี้สรุปมา
โฆษณา