3 ส.ค. 2022 เวลา 23:00 • ธุรกิจ
ในโลกนี้ ไม่มีเรื่องของความบังเอิญ…มีแต่สิ่งที่เรียกว่าโอกาส
คราวที่แล้วผมพูดถึงเรื่องของนิสัย ว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อความสำเร็จ ซึ่งจริงๆไม่ใช่แค่สำหรับการทำธุรกิจเท่านั้น แต่ผมว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกๆอย่างในชีวิตด้วย
1
นั่นก็เพราะโดยส่วนตัวผมแล้ว ผมเป็นคนที่เชื่อในเรื่องกฏแรงดึงดูดและโอกาสว่าเป็นสิ่งที่มีจริงและเกิดขึ้นกับเราทุกคนเสมอ และนิสัย ก็เป็นตัวแปรสำคัญในเรื่องนี้…ในความคิดผมนะครับ
ต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านี้ ตอนที่ผมทำงานประจำ ผมไม่ค่อยเชื่อ…ไม่สิ จะบอกว่าอย่างไรดีหล่ะ ต้องบอกว่า ผมไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือใส่ใจกับเรื่องกฏแรงดึงดูด เรื่องความบังเอิญหรือเรื่องของโอกาสมากเท่าไหร่ จนเมื่อได้มาทำธุรกิจส่วนตัว ผมถึงรู้สึกว่าเรื่องพวกนี้มีจริง แต่มีเส้นบางๆแบ่งอยู่ ระหว่างความเชื่อแบบงมงาย กับความเชื่อที่ทำให้เกิดผลนะ
น่าจะเป็นเพราะลักษณะของการทำงานในบริษัทและ mind set ที่ทำให้ผมมองไปอีกทางและให้ความสำคัญกับปัจจัยอื่นที่มีผลต่อความสำเร็จมากกว่า
คือ ในการทำงานในองค์กร ผมว่าต่อให้เราจะบอกว่าโลกธุรกิจสมัยนี้มัน volatile มัน dynamic ยังไง แต่ด้วยโครงสร้างขององค์กร ด้วยคนทำงานจำนวนมาก ด้วยหัวหน้าระดับชั้นต่างๆที่มีอยู่ มันทำให้คุณมีเกราะปกป้องตัวเองและการทำงานในระดับหนึ่ง
ซึ่งนั่นทำให้สภาพแวดล้อมของคุณค่อนข้างเสถียร จนการหาทรัพยากรเพื่อทำให้งานสำเร็จเป็นเรื่องไม่ยากจนเกินไป
เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่คุณสนใจ….อย่างน้อยๆสำหรับผมนะครับ…คือการแสดงผลงานของตัวเอง การแสดงศักยภาพของตัวเองให้ดีและมีค่าที่สุดสำหรับองค์กร มากกว่าการใช้เวลาสรรหาทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อทำให้งานสำเร็จ
แต่ในโลกของการทำธุรกิจนั้น…อย่างน้อยๆในช่วงเริ่มต้น ทรัพยากรที่เจ้าของธุรกิจมี มักจะไม่เพียงพอสำหรับการเดินไปสู่เป้าหมายที่ตัวเองต้องการ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น อะไรๆก็แน่นอน สิ่งที่มีหรือสิ่งที่คิดว่าจะเกิดขึ้นแน่ๆในวันนี้ ท้ายสุดอาจหายไปหรือไม่เกิดขึ้นตามที่คาดก็ได้
นั่นทำให้ผมเรียนรู้ว่า ในการทำธุรกิจ เจ้าของธุรกิจให้สำคัญต่อปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อความสำเร็จมากพอๆกับปัจจัยภายในที่เกิดขึ้นจากตัวเอง
แล้วสิ่งนี้มันเกี่ยวยังไงกับความบังเอิญ โอกาสและสิ่งที่เรียกว่านิสัย รวมถึงกฏแรงดึงดูด
ผมเคยอ่านหนังสือ ชื่อ shortcut to a miracle ของ Michael C. Rann ซึ่งยกตัวอย่างเรื่องของกฏแรงดึงดูดไว้เป็นรูปธรรมและเป็นธรรมชาติได้น่าสนใจดี
เอาง่ายๆสั้นๆอย่างนี้ละกันครับ
คุณเคยรู้สึกไหมครับ ว่าพอคุณเริ่มให้ความสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง สิ่งนั้นจะเหมือนเกิดขึ้นรอบๆตัวคุณมากกว่าปกติ มากกว่าที่ผ่านๆมา
ถ้ายังนึกภาพไม่ออก ก็ลองนึกภาพเหมือน feed ในเฟสบุ๊ค เมื่อคุณไปกดดูเรื่องที่คุณสนใจ แล้วจะมี feed เรื่องคล้ายๆกันตามมาอีกเป็นขบวน หยั่งไงหยั่งงั้นหน่ะครับ
สำหรับคนทั่วๆไป อาจจะมองว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ แต่จริงๆแล้วมันเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นจากตัวเราเอง เหมือน feed ในเฟสบุ๊คเด้งขึ้นมาเพราะ algorithm ทีกำหนดไว้ เราดึงดูดสิ่งต่างๆเข้าหาเราด้วย algorithm ของเราเองเช่นกัน
ถามว่าเป็นไปได้ไหม หนังสือเล่มนี้ และจริงๆรวมถึงหนังสือเล่มอื่นๆด้วย อธิบายและยกตัวอย่างประกอบว่าเรื่องนี้เป็นกฏธรรมชาติ…ที่อย่างน้อยๆสำหรับผมฟังดูมีเหตุผล…ว่านั่นเป็นเพราะเราเปิดใจกว้างขึ้นนั่นเอง
1
ยกตัวอย่างง่ายๆให้เห็นภาพง่ายๆ ลองหลับตาและนึกตามนะครับ เมื่อเช้าคุณนั่งรถหรือขับรถไปทำงาน คุณเห็นรถยี่ห้ออะไรมากสุดในถนนครับ
ผมว่าคุณอาจจะจำได้ไม่ชัดเจน แต่สมมติ ถ้าเช้านี้ ก่อนออกจากบ้านคุณหรือคนใกล้ตัวคุณบอกว่าอยากซื้อรถใหม่ ยี่ห้อ Toyota แต่ไม่รู้จะซื้อรุ่นอะไรดี คุณว่าเมื่อถึงออฟฟิส คุณจะเห็นรถอะไรมากสุดในถนนครับ…ผมเดาเอาว่าน่าจะเป็น Toyota…ใช่ไหมครับ
นั่นเป็นเพราะมนุษย์เรามีประสาทสัมผัสจำนวนมากและเราไม่สามารถรับรู้ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวได้ทั้งหมด เพื่อการอยู่รอดตามธรรมชาติของเรา เราถึงต้องเลือกรับรู้เฉพาะสิ่งที่เราคิดว่าจำเป็นหรือสำคัญสำหรับเรา…แค่นั้นเองครับ
แล้วถามว่าเกี่ยวอะไรกับความบังเอิญและโอกาส และสองสิ่งนี้ต่างกันยังไง
สำหรับผมแล้ว สองสิ่งนี้เป็นเรื่องเดียวกัน ความบังเอิญและโอกาส เกิดขึ้นเมื่อเราเปิดกว้าง พร้อมที่จะยอมรับสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมา…หรือที่คนชอบเรียกกันว่ากฏแรงดึงดูดนั่นแหละครับ
แต่สิ่งที่จำทำให้เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง เป็นแค่ความบังเอิญหรือโอกาส คือ ความพร้อม และสำหรับผม ความพร้อมถูกสร้างขึ้นโดยนิสัย การที่เราทำอะไรสม่ำเสมอ ต่อเนื่องเป็นนิสัย จะทำให้เรามีความพร้อมที่จะตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา
ยกตัวอย่างง่ายๆละกันครับ
สมมติคุณอยากได้กระเป๋าหายากใบหนึ่งที่ไม่มีในไทย คุณไปประชุมต่างประเทศ ได้มีโอกาสเดินเล่นและเจอกระเป๋าที่คุณอยากได้พอดี เหลือแค่ใบเดียว แต่คุณไม่มีตังค์พอ คุณจะเรียกมันว่าความบังเอิญหรือโอกาสครับ
และถ้ากลับกันหล่ะครับ ในเหตุการณ์เดียวกันแต่ตอนคุณไปเดินคุณมีเงิน สามารถซื้อมาได้สบายๆ…คุณซื้อมาแล้วและกำลังนั่งคิดกับตัวเอง…คุณจะเรียกมันว่าอะไรครับ หลายๆคนอาจบอกว่าเรื่องบังเอิญ…แต่ถ้าให้เลือกแค่คำเดียว ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็จะใช้คำว่าโอกาสคล้ายๆกัน
ดังนั้น สำหรับผมแล้ว ผมมองว่าในโลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความบังเอิญ เพราะในขณะที่ใครคนหนึ่งคิดเช่นนี้ อีกคนเห็นว่ามันเป็นโอกาสและใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด…สิ่งที่ทำให้สองคนนี้เห็นต่างกันและแสดงออกต่างกัน มาจากความพร้อมซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยนิสัยที่หล่อหลอมขึ้นมาครับ
ลองดูนะครับ เผื่อแนวคิดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานประจำ…มากพอๆกับการทำธุรกิจครับ
จากพนักงานประจำ​ สู่คนทำธุรกิจ​ (From​ CBD​ with​ love)​
โฆษณา