3 ส.ค. 2022 เวลา 15:37 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
"Ferry" 2021
จากมือขวาบอสสู่เส้นทางเจ้าพ่อผงาด
กับจุดเริ่มต้นก่อนจะมาเป็นซีรีย์ Undercover
Ferry
ภาพยนตร์อาชญากรรม-ระทึกขวัญสัญชาติเบลเยี่ยม ผลงานจากผู้กำกับสาวชาวดัตช์อย่าง Cecilia Verheyden ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นภาคสปินออฟของเจ้าพ่อใหญ่ "แฟร์รี่" จากซีรีย์ดังของ Netflix อย่าง Undercover ที่สร้างมาแล้วถึง 3 ซีซั่น โดยเรื่องราวทั้งหมดจะเล่าถึงชีวิตของแฟร์รี่ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่
เมื่อ แฟร์รี่ บาวแมน (Frank Lammers) มือขวาของเจ้าพ่อแห่งกรุงอัมสเตอร์ดัมอย่าง บริงค์ (Huub Stapel) ถูกส่งให้ไปตามล่าโจรกระจอกสามคนที่บุกปล้นสำนักงานจนทำให้ลูกชายของบริงค์บาดเจ็บสาหัส แฟร์รี่ต้องเดินทางลงใต้ หารถบ้านเช่านอน และแกะรอยคนร้ายผ่านเพียงภาพจากกล้องวงจรปิด
จนกระทั่งเขาได้มารู้จักกับเพื่อนบ้านสาวอารมณ์ดีอย่าง แดเนียล (Elise Schaap) ทั้งคู่ค่อยๆสนิทสนมกันเรื่อยๆ เบื้องหลังแฟร์รี่ก็ตามปิดบัญชีคนร้ายไปทีละคน ส่วนความสัมพันธ์ของเขากับพี่สาวก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ จนเมื่อภารกิจใกล้จะลุล่วง แฟร์รี่ก็ต้องพบกับความจริงบางอย่างที่ส่งผลต่อชีวิตของเขาไปตลอดกาลและไม่อาจปล่อยผ่านได้
สารภาพตรงๆว่ายังไม่เคยดูซีรีย์ Undercover เลยแม้แต่ซีซั่นเดียว แต่ก็จัดอยู่ในลิสต์ซีรีย์ที่จะพลาดไม่ได้ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้ถูกสร้างมาให้เป็นภาคเสริมปูประวัติความเป็นมาของตัวละคร แฟร์รี่ จะดูก่อนหรือดูทีหลังก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเนื้อหาหลัก ก็เลยเอาวะ จัดมันซะหน่อย โดยรวมก็ถือเป็นหนังอาชญากรรมที่เข้มข้นดี แม้หนังจะเดาทางง่ายตามสูตรสำเร็จ แต่ก็ยังชวนระทึกพอที่อยากจะไปหาเวอร์ชั่นซีรี่ย์มารับชมต่อกันเลยทีเดียว
ด้วยความยาวหนังประมาณชั่วโมงครึ่งนิดๆ แต่กลับรู้สึกเอื่อยๆในบางซีน อาจเป็นเพราะว่าหนังโฟกัสที่ตัวละคร แฟร์รี่ เป็นหลัก ส่วนในด้านงานภาพถือว่าสวยใช้ได้ ราวกับพาคนดูท่องเที่ยวไปในบรรยากาศของธีมหนัง อีกอย่างที่รู้สึกว่าหนังยังชวนให้คนดูกดดันได้ไม่พอ ก็คือพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างจะซ้ำซากจำเจตามสไตล์หนังเจ้าพ่อทั่วไป เข้าใจว่ารายละเอียดส่วนใหญ่คงถูกหยิบไปเล่าในซีรี่ย์หมดแล้ว หนังเลยเน้นให้เห็นถึงอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของตัวละครหลักอย่าง แฟร์รี่ เสียมากกว่า
ถ้าหากจะให้พูดถึงเส้นทางชีวิตของมือขวาสู่เจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงซีรี่ย์อาชญากรรมดราม่าเข้มข้นอย่าง Bad Blood (นำแสดงโดย Kim Coates) เพราะดูซีรี่ย์ชุดนี้มาก่อนแล้วนี่แหละ เลยทำให้รู้สึกขาดความสดใหม่ไป แต่ก็ยังพิสูจน์อะไรไม่ได้ จนกว่าจะได้ลุย Undercover ทั้ง 3 ซีซั่นให้จบ ไม่แน่พอหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาดูใหม่อีกครั้งความรู้สึกอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้
โฆษณา