- กลืนไม่เข้าคายไม่ออก -
ช่วงเวลานี้ต่อให้ไม่ใช่แฟนคลับของ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็มีแต่คนสงสัยแน่นอนล่ะว่าทำไมถึงไม่มีการขยับเขยื้อนใดๆเลย
ตลาดซื้อเงียบเหงา อ้างว้าง แต่กลับกันในตลาดขายกลับมีแต่ข่าวที่ลุกเป็นไฟ
ล่าสุด "จิ้งจอกสยาม" เพิ่งเสีย แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายประตูกัปตันทีมไปให้กับ นีซ แบบสดๆร้อนๆจากการแถลงเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
ให้พูดกันตรงๆไม่มีใครคนไหนคิดภาพมาก่อนหรอกว่าประตูผีน้อยจะเลือกเดินออกจากถิ่น คิง เพาเวอร์ เพราะเขาเปรียบเสมือนสัญลักษณ์สโมสรไปแล้ว
ตลอดระยะเวลา 11 ฤดูกาล แคสเปอร์ ร่วมทุกข์และร่วมสุขกับ "จิ้งจอกสยาม" จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมได้อย่างที่เราเห็นกัน
จู่ๆก็ไปเฉยเลย
เท่านั้นยังไม่พอข่าวตลาดขายนอกจาก แคสเปอร์ แล้วก็ยังมีลือลั่นมาเรื่อยๆว่า เวสลีย์ โฟฟาน่า กับ เจมส์ แมดดิสัน อาจจะเป็นอีกสองรายที่เก็บข้าวของออกไปอีก
แต่ผมก็แอบเชื่อนะว่าทั้ง โฟฟาน่า และ แมดดิสัน ถ้าหากเลสเตอร์ตั้งใจจะปักป้าย 'ไม่ได้มีไว้ขาย' จริงดีลก็อาจจะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ ทว่าน่าจะเลื่อนไปเป็นปีต่อๆไปอย่างที่เราเห็นในกรณีของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์
ไหนจะมีเรื่องของ ยูริ ตีเลม็องส์ ที่ยังไม่ขยายสัญญาออกไปซึ่งสัญญาปัจจุบันของห้องเครื่องทีมชาติเบลเยี่ยมนั้นจะหมดลงในปี 2023
พูดง่ายๆก็จบฤดูกาลนี้ ตีเลม็องส์ สามารถย้ายไปสโมสรอื่นได้แบบฟรีๆนั่นล่ะ
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตลาดนักเตะผมเคยได้รับฟังบทสัมภาษณ์สั้นๆจาก อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรว่า
"จริงๆสโมสรเลสเตอร์เป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่นมาตลอด อาจจะเห็นว่าการเสริมทัพค่อนข้างช้า แต่ผมว่าตลาดเค้าค่อนข้างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว"
"เวลาของเรายังมีถึงสิ้นเดือนสิงหาคม ผมคิดว่ามันอาจจะไม่ได้ช้าอย่างที่คิด"
"ด้านเป้าหมายปีที่แล้วเราจบที่ 8 โดยที่นักเตะเราเจ็บกันเยอะ ช่วงโควิดก็มีนักเตะไม่ได้ลงสนามหลายท่านเลย ตอนนี้เราหวังว่าจะไม่เจ็บแบบเดิม"
"ตอนนี้เราเปลี่ยนทีมแพทย์ต่างๆเพื่อพัฒนาศักยภาพนักเตะให้มีความแข็งแรงและฟิตพร้อมเล่นทุกแมตช์ ซึ่งถ้าเราพร้อม 100% ก็หวังว่าจะได้อันดับดีกว่าเดิม"
เมื่อลองเปิดดูขุมกำลังของ เลสเตอร์ ในตอนนี้สิ่งที่ขาดหายไปก็คือผู้รักษาประตูนั่นล่ะครับเพราะเพิ่งเสีย แคสเปอร์ ไปแต่ตำแหน่งอื่นๆก็ถือว่ายังพอมีหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันได้บ้าง
แต่มันไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดหรอกเพราะเรื่องนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ให้สัมภาษณ์เองเลยเช่นเดียวกันกับสภาพของทีม
"ผู้จัดการทีมทุกๆคนในลีกนี้ต้องการทีมที่ดีกว่าเดิมอยู่แล้ว" บีร็อด เปิดใจ
"แต่ผมไม่ใช่คนที่จะมานั่งตรงนี้แล้วฆ่าบอร์ดบริหารของตัวเองออกสื่อ ผมไม่ทำแบบนั้นแน่ แต่ถ้าหากถามผมว่าอยากได้ทีมที่ดีกว่านี้รึเปล่า ? แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์"
"แต่ผมสามารถทำงานกับสิ่งที่มีได้ไหม ? แน่นอนผมทำได้"
มันเป็นการตอบคำถามสั้นๆแต่ก็รู้สึกได้ถึงความกลืนไม่เข้า คายไม่ออกของบีร็อดอยู่เหมือนกัน
หากให้อ่านใจก็คงประหนึ่งว่าอยากได้นักเตะใหม่นั่นแหละ น่าจะมีลิสต์ที่ต้องการแล้วด้วย แต่บางสิ่งบางอย่างไม่ยอมขยับเสียที
"ผมมองเห็นว่าจะทำยังไงให้ทีมก้าวไปอีกระดับ แต่ตอนนี้ซานตาคลอสไม่ได้มาเคาะประตูบ้านของผม"
"ผมรู้ดีว่าเราต้องการอะไรเมื่อ 6 เดือนก่อน สิ่งที่เราต้องการคือแบบไหน ทีมต้องการอะไร"
"ผมอยากจะอยู่ในจุดที่ทีมสามารถเสริมความแข็งแกร่งเข้ามาสู่ทีมได้เช่นเดียวกับการพัฒนาและเติบโตซึ่งมันจะทำให้ผมตื่นเต้นมากๆ"
"แต่ถ้าหากมันไม่เกิดขึ้นผมก็ยังคงตื่นเต้นที่ได้ทำงานกับสิ่งที่มีอยู่"
บทสัมภาษณ์ดังกล่าวของ บีร็อด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมจากสื่อท้องถิ่นอย่าง Leicestermercury
นั่นหมายถึงว่ามันเกิดขึ้นก่อนที่ดีล แคสเปอร์ จะประกาศอย่างเป็นทางการ
สิ่งที่สโมสรทำในตอนนี้มันดูตรงข้ามกับสิ่งที่ ร็อดเจอร์ส ต้องการไปหมดมันทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้เหมือนกันว่าหลังจากนี้ "จิ้งจอกสยาม" จะคว้าใครสักคนเข้ามาตามที่ผู้จัดการทีมต้องการได้รึเปล่า
หรือถ้าหากไม่ได้จริงๆพวกเขาจะเสียแข้งคนสำคัญออกไปอีกไหม และจะหาคนทดแทนได้ทันท่วงทีแบบไม่ร้อนรนได้หรือไม่
มันสมองสองมือของบีร็อดผมเชื่อว่าเขาไม่ได้ด้อยกว่าคนอื่นๆเท่าไรหรอกครับ ฝีไม้ลายมือรวมถึงกึ๋นของอดีตนายใหญ่ลิเวอร์พูลเคยแสดงออกมาให้เห็นหมดแล้ว
ลำพังการอยู่รอดบนสังเวียนพรีเมียร์ลีกไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก แต่ถ้าหากเป้าหมายที่ว่าอยากจบอันดับดีกว่าเดิมบนสถานการณ์ปัจจุบันที่เรากำลังเห็นกันอยู่เนี่ยอาจจะยากไปสักหน่อย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
