5 ส.ค. 2022 เวลา 23:00 • การตลาด
ธุรกิจ “คลายความร้อน” กำลังมาแรงในจีน
ฤดูร้อนมาถึง อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น ธรุกิจ “ให้ความเย็น” กำลังเป็นช่วงเวลาทอง ผู้ค้ายังคงติดตามแนวโน้มเทรนด์สินค้า ปรับปรุงพัฒนาออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากพายุไต้ฝุ่น “Siamba”ที่ลดลงชั่วคราว ทำให้ภูมิภาคฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีนเริ่มมีอากาศที่ร้อนขึ้นเป็นอย่างมาก และหลายๆเมืองในประเทศจีนเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มตัว อย่างเช่นในมณฑลฝูเจี้ยน นครฝูโจวและเมืองเจียงซี คาดว่าจะมีอากาศสูงถึง 35-40 องศา
อากาศที่ร้อนส่งผลให้ธุรกิจ “คลายความร้อน” เริ่มมีพลังมากขึ้น ในซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งในเมืองหนานชาง เริ่มมองหาโอกาสทางธุรกิจ มีการนำเสนอแบรนด์สินค้าที่ “เจ๋งและเย็น” เพื่อกระตุ้นยอดขาย
จากข้อมูลของ Meituan ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา ครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์ลดความร้อน และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ยังคงได้รับความนิยมในมณฑลเจียงซีอย่างต่อเนื่อง และยอดขายครีมกันแดด เสื้อผ้ากันแดด พัดลมขนาดเล็ก และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เติบโตอย่างรวดเร็ว มีการค้นหาเกี่ยวกับครีมกันแดดบนแพลตฟอร์ม Meituan เพิ่มขึ้นร้อยละ 107 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ปริมาณการค้นหาหมวกกันแดดและร่มกันแดดเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 400 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน
ด้วยการมาถึงของฤดูร้อน ไอศกรีมคลายความร้อนเข้าสู่ช่วง High season ธุรกิจไอศกรีมจึงต้องออกมาแข่งขัน เพื่อรีบตอบสนองความต้องการสินค้าบรรเทาความร้อนให้กับผู้บริโภค นอกจากผู้ผลิตจะมุ่งเน้นไปที่รสชาติแล้ว ผู้บริโภคยังมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับโภชนาการในไอศกรีม
ไม่นานมานี้หัวข้อ “ทำไมไอศกรีมถึงขายแพงขึ้นเรื่อยๆ” พุ่งขึ้นเป็นหัวข้อค้นหาสนทนาร้อนแรงบน Weibo ภายในระยะเวลาสั้นๆ มีจำนวนผู้คนกว่า 340 ล้านคนที่เข้าไปค้นหาอ่านหัวข้อดังกล่าว ชาวเน็ตมีการเย้ยหยัน “อย่าหยิบไอศกรีมมั่วซั่ว ไม่อย่างงั้นจะถูกแทงใจเมื่อจ่ายบิล” แต่ถึงอย่างนั้นยอดขายไอศกรีมก็ยังเพิ่มสูงขึ้น
จากข้อมูลของแพลตฟอร์ม Meituan แสดงให้เห็นว่า ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม ยอดขายไอศกรีมของเมืองเจียงซี เพิ่มขึ้นร้อยละ 103 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ยอดขายไอศกรีมแบบแท่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 343 ต่อเดือน
ในขณะที่ชาวเน็ตกำลังพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อนถึงประเด็นราคาไอศกรีม ธุรกิจไอศกรีมก็กลายเป็นจุดสนใจของเหล่าผู้ลงทุน ข้อมูลจาก CCTV แสดงให้เห็นว่าในช่วงห้าปีที่ผ่านมา (2560-2564) มีการจัดตั้งองค์กรที่เกี่ยวกับไอศกรีมกว่า 5,000 แห่งในประเทศจีน ตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมามีบริษัทที่เกี่ยวกับไอศกรีมเพิ่มขึ้นกว่า 3,000 แห่ง
นอกจากผู้คนจะหาวิธีคลายความร้อนให้กับตัวเองแล้ว ยังหาวิธีคลายความร้อนให้กับเหล่าสัตว์เลี้ยงแสนรัก สระว่ายน้ำในร้านสัตว์เลี้ยงเมืองเจิ้งโจว ถูกจองเต็มติดกันเป็นเวลา 3 วันเพื่อให้บริการสัตว์เลี้ยงได้ว่ายน้ำผ่อนคลายความร้อน นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่ม แผ่นรองความเย็น ชุดระบายความร้อน และสิ่งประดิษฐ์ระบายความร้อนสำหรับสัตว์ ก็ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอีกด้วย
ภายใต้อากาศร้อนการสั่งผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าตามความต้องการของผู้ซื้อ (Customize) กลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่ผู้บริโภคกำลังให้ความสนใจ การออกแบบปรับแต่งเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เองเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคหนุ่มสาวเป็นจำนวนมาก โดยมีการใช้ VR เข้ามาช่วยในการจำลองการแบบโซลูชันที่ชื่นชอบและปรับแต่งผลิตภัณฑ์ตามความชอบเฉพาะบุคคล โดยสามารถเห็นแบบจำลองสินค้าส่งทำได้อย่างสมจริง
ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ทำให้ธุรกิจ “คลายความเย็น” เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ การบริโภคจำนวนมากกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่แนวโน้มของการปรับเปลี่ยนในแบบเฉพาะบุคคล รูปแบบการบริโภคบางประเภทกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว
เมื่อฤดูกาลที่เปลี่ยนไป สินค้าตามฤดูกาลจึงมีความต้องการสูงเมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลนั้นๆ การออกแคมเปญทางการตลาดตามฤดูยังสามารถสร้างการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคให้เร็วขึ้น ปัจจุบันจีนเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มตัว พลังคลื่นความร้อนแผ่ขยายและอุณหภูมิเพิ่มขึ้นทุกปี สินค้าและบริการคลายร้อนจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะนำเสนอสินค้าตามฤดู อย่างในตลาด “คลายร้อน” สินค้าอย่าง ไอศกรีมมะพร้าวกะทิสด ไอศกรีมทุเรียน เนื้อทุเรียนแช่แข็ง รวมไปถึงสินค้าคลายความร้อนในรูปแบบต่างๆ
ทั้งนี้ ตลาดไอศกรีมในจีนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง (HS Code 21050000 : Ice Cream And Other Edible Ice) ประมาณโดย GTA ระบุว่า ปี 2564 จีนนำเข้าไอศกรีมรวมทั้งสิ้น 25,564 ตัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.28 YoY) มีมูลค่า 122.22 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.92 YoY)
โดยจีนนำเข้าไอศกรีมจากฝรั่งเศสมูลค่าสูงที่สุด (ร้อยละ 34.56 ของมูลค่าการนำเข้าไอศกรีมทั้งหมดของจีน) รองลงมาคือ นิวซีแลนด์ (ร้อยละ 13.21 ของมูลค่าการนำเข้าไอศกรีมทั้งหมดของจีน) ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ จีนไต้หวัน ตามลำดับ ซึ่งไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 9 มีมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.59 YoY)
ทั้งนี้ สำหรับการนำเข้าไอศกรีม 5 เดือนแรกของ ปี 2565 จีนนำเข้าไอศกรีมรวมทั้งสิ้น 9,311 ตัน ลดลงร้อยละ 12.99 YoY มีมูลค่า 44.05 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 10.76 YoY โดยจีนยังคงนำเข้าไอศกรีมจากฝรั่งเศสมูลค่าสูงที่สุด คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 36.87 รองลงมาคือ ญี่ปุ่น ร้อยละ 12.89 ของมูลค่าการนำเข้าไอศกรีมทั้งหมดของจีน และนิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา จีนไต้หวัน เกาหลีใต้ ตามลำดับ ซึ่งไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 10 มีมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 758,275 เหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 18.98 YoY
โดยนำเข้าทางมณฑลฝูเจี้ยนมากเป็นอันดับ 1 สัดส่วนร้อยละ 39.19 รองลงมาคือมณฑลเจ้อเจียงและกว่างตง ตามลำดับ การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้มาตรการการนำเข้าสินค้าอาหาร โดยเฉพาะสินค้า Cold Chain มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อการนำเข้าอุตสาหกรรม
โฆษณา