ถ้า ‘ไต้หวัน’ มีปัญหา ชิป (อาจ) หายครึ่งโลก
สถานการณ์ระหว่าง ‘สหรัฐอเมริกา-จีน-ไต้หวัน’ ในวันนี้ทำให้ทั่วโลกต่างตึงเครียด เมื่อ ‘แนนซี เพโลซี’ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาได้เดินทางเยือนไต้หวัน แม้ทางการจีนจะส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนว่า จีนไม่ยินดีจะให้ประธานสภาผู้นี้เดินทางมาทักทายชาวไต้หวัน
ตอนนี้ผู้มีความเชี่ยวชาญหลายคนได้พูดถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อโลก ถ้าเกิดว่าความขัดแย้งระหว่างสามชาติบานปลายเกิดเป็นการสู้รบอย่างแท้จริง แต่สิ่งที่ TODAY Bizview อยากชวนมาดู คือ ความสำคัญของไต้หวันต่อ ‘อุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์’ หรือว่า ‘ชิป’ ที่มีความสำคัญต่อสินค้าเทคโนโลยีทั่วโลก
ปัจจุบัน ไต้หวัน คืออันดับ 1 ผู้ถือครองส่วนแบ่งการตลาดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ โดยในปี 2020 รายงานจาก TrendForce บอกว่า ไต้หวันถือครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ 63% และมีแนวโน้มจะขยับมาเป็น 66% ในปี 2022 นี้
โดยมี TSMC บริษัทสัญชาติไต้หวันถือครองส่วนแบ่งมากที่สุดในโลก ตามมาด้วยอันดับ 2 อย่าง Sumsung จากประเทศเกาหลีใต้ที่ถือครองส่วนแบ่งการตลาด 18% และทำให้เกาหลีใต้อยู่ในอันดับสองของประเทศผู้ผลิตชิปที่ทั่วโลกต่างต้องการ ก่อนจะตามมาด้วยจีนแผ่นดินใหญ่นั่นเอง
แปลว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นที่จะกระทบกระเทือนจนไต้หวันไม่สามารถผลิตชิปได้ กำลังผลิตชิปอาจจะหายไปเกินว่าค่อนโลก
ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ในช่วงที่ผ่านมา เราจะได้เห็นการที่ TSMC ของไต้หวันเริ่มมีแผนในการโยกย้ายฐานการผลิต ไปยังประเทศพันธมิตรอย่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
#TODAYBizview
#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
- 133
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
