7 ส.ค. 2022 เวลา 09:01 • ไลฟ์สไตล์
เคยสังเกตมั้ยคะว่ากระดุมที่ปลายแขนเสื้อสูทจะมีเรียงแถวกันอยู่ 3- 4 เม็ด ซึ่งในความเป็นจริงก็ไม่ได้ใช้งานด้วยซ้ำ
ศัพท์ของช่างเสื้อ จะเรียกกระดุมปลายแขนเสื้อสูทนี้ว่า กระดุมของศัลยแพทย์ หรือ surgeon’s cuff เหตุที่เรียกอย่างนี้ มันมีที่มาที่ไปนะคะ
ก็ต้องเล่าย้อนกันไปถึงสาเหตุที่มีกระดุมปลายแขนก่อนแล้วกัน แล้วค่อยเล่าต่อว่า ทำไมกระดุมปลายแขนเนี่ยถึงกลายเป็นกระดุมของศัลยแพทย์ไปได้นะคะ
เรื่องก็เริ่มมาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 17 ถ้าเราดูรูปภาพในยุคนั้นเราจะเห็นเครื่องแบบทหารที่แต่งกายเป็นลักษณะเสื้อโค้ทที่ปักลวดลาย เดินเส้นแล้วก็ที่ปลายแขนก็จะพับขึ้นมาเป็นการตกแต่งของเค้าเนี่ยแหละค่ะ แต่ก็สามารถใช้งานได้จริงนะคะ
ในสมัยนั้น กระดุมปลายแขนเสื้อโค้ทของทหารไม่ได้มีแค่สามหรือสี่เม็ดอย่างปัจจุบัน แต่มีกระดุมเรียงยาวตั้งแต่ต้นแขนไปจนถึงปลายแขนนับได้ 46 เม็ด !!! เหตุที่เป็นอย่างนั้น เพราะว่าเวลาที่เค้าออกไปรบ เค้าสามารถปลดกระดุมแขนให้มีความคล่องตัวมากขึ้นหรือเมื่อต้องการให้เกิดความอบอุ่นกับร่างกายก็สามารถติดกระดุมแขนแนบกับลำตัว
รูปภาพที่แสดงให้เห็นกระดุมที่แขนเสื้อเรียงเป็นตับ Credit pict : gentlemangazette.com
มีหลักฐานเป็นรูปภาพในศตวรรษที่ 18 เป็นรูปภาพของลอร์ดเนลสันที่แต่งชุดทหารเต็มยศ ก็จะเห็นกระดุมปลายแขนด้วยนะคะ
รูปลอร์ดเนลสันในเครื่องแบบทหารที่เห็นกระดุมปลายแขน credit picture: british heritage travel
แล้วก็มีเรื่องเล่าเหมือนกันว่า นายพลเฟรดโดริคของปรัสเซียไม่ชอบมากๆเลย ที่เวลาทหารเข้าแถวแล้วยกแขนเสื้อมาปาดเหงื่อ มันทำให้แขนเสื้อของพวกเขาดูเลอะเทอะไปหมด ท่านนายพลก็เลยมีความคิดว่าให้ติดกระดุมไว้ที่ปลายแขน เวลาปาดเหงื่อจะได้บาดหน้า จะได้ไม่ทำ แขนเสื้อก็จะไม่สกปรกนะคะ ซึ่งก็เป็นที่มาอีกเรื่องหนึ่งว่าทำไมถึงได้มีการติดกระดุมที่ปลายแขนนะคะ
รูกภาพ Federic the Great of Prussia. Credit picture : Wikimedia common
ก็คือเริ่มมาตั้งแต่เครื่องแบบของทหารของยุโรป ในเวลาต่อมา ความกว้างของแขนเสื้อที่เป็นชุดเครื่องแบบทหารเต็มยศ ก็จะเริ่มให้มันพอดีตัว เพื่อความสวยงามมากขึ้น ดังนั้น เมื่อแขนเสื้อมันเริ่มพอดีตัวมากขึ้น ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีกระดุมยาวเหยียดมาตั้งแต่ต้นแขนถึงปลายแขนแล้วนะคะ เพราะว่าเราไม่สามารถปลดแขนเสื้อเพื่อให้สบายตัวอยู่แล้ว กระดุมปลายแขนจึงลดลงเหลือประมาณสี่เม็ด
เครื่องแบบทหารเต็มยศในระยะต่อมา Credit picture : guernseydonkey.com
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังสามารถที่จะปลดกระดุมและพับแขนเสื้อได้เพื่อความคล่องตัวในการทำงานนะคะ จะเห็นว่า ในยุคศตวรรษที่ 18 กระดุมปลายแขนนั้น ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสวยงามและฟังก์ชั่นในเวลาเดียวกัน ก็คือยังทำหน้าที่เป็นกระดุมเพื่อที่จะพับปลายแขนเสื้อขึ้น
พอมาถึงปลายศตวรรษที่ 18 ฟังก์ชั่นของการพับแขนเสื้อขึ้นของทหารไม่มีแล้ว จะเริ่มกลายเป็นเรื่องของความสวยงามแทนสำหรับทหารนะคะ ก็คือ เป็นกระดุมที่ปลายแขนเพื่อความสวยงาม แต่ไม่ได้พับแขนกันแล้ว
ตอนนี้เอง ก็เริ่มมีวัฒนธรรมว่า การแต่งกายของผู้ชายให้ดูภูมิฐาน จะต้องสวมเสื้อโค้ท พอนำมาใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ ความยาวของเสื้อก็เลยร่นขึ้นไปจากที่คลุมเข่าเป็นเสื้อโค้ท ความยาวก็จะเปลี่ยนเป็นเลยช่วงเอวไปเล็กน้อยอย่างปัจจุบัน
Credit picture : hostory.com
ทีนี้ ผู้ชายทุกคนที่ต้องการความน่าเชื่อถือในหน้าที่การงานก็จะสวมเสื้อแจ็คเก็ตสูทแบบนี้กันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ศัลยแพทย์
แล้วเวลาศัลยแพทย์ทำงาน เค้าก็ยังต้องพับแขนเสื้อใช่ไหมคะเพื่อให้หัตถการสะดวก คล่องตัว ไม่เลอะเทอะ เพราะฉะนั้น กระดุมปลายแขนจึงยังฟังชั่นหรือยังทำงานได้ดีและจำเป็นสำหรับคนที่เป็นศัลยแพทย์ เค้าจึงเรียกกระดุมปลายแขนเสื้อสูทว่า กระดุมแขนของศัลยแพทย์หรือ surgeon’s cuff ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่18 หรือ ต้นศตวรรษที่ 19 นั่นเอง
Credit picture : freepik.com
คราวหน้าเราจะมาต่อกันว่า แล้วในยุคตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา ที่ศัลยแพทย์ไม่ได้ใส่แจ็คเก็ตสูททำหัตถการแล้ว กระดุมปลายแขนเสื้อสูท ยังจำเป็นไหม และทำหน้าที่อะไร
โฆษณา