“ซักฟอกหลังเกม ผี สันดานเดิม โดนไบรท์ตันล่อคาบ้าน 1-2"
(AFTER MATCH MUN 1-2 BHA)
“ซักฟอกหลังเกม ผี สันดานเดิม โดนไบรท์ตันล่อคาบ้าน 1-2"
มันจบแล้วกับช่วง “โปรโมชั่นสุดฝันหวาน” ของเหล่าเหล่าสาวก เร้ด อาร์มี่ เมื่อต้องเจอกับความจริงที่แสนโหดร้าย ในนัดเปิดสนามโอล์ด แทรฟฟอร์ด เพื่อที่จะมาโดนไบรท์ตัน “ย้ำแค้น คาบ้าน” 1 ประตูต่อ 2
รายชื่อ 11 ตัวจริงที่เอริก เทนฮาก ส่งเข้ามอบตัว และพร้อมที่จะโดน “ซักฟอก” อย่างหนักในเกมนี้ ได้แก่
- ●นายด่านมือ 1 อย่าง ดาบิด เด เคอา
- ●ฟูลแบ็คทั้ง 2 ข้างมี ดิโอโก ดาโลต์ และ ลุค “เดินเล่น” ชอว์
- ●คู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟเป็นกัปตัน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จับคู่กับแนวรับขาโหดคนใหม่อย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ
- ●รายชื่อแดนกลางน่าสนใจ เมื่อ เทนฮาก เลือกส่ง คู่หู สก๊อต “ตัวเสียบอล” แม็คโทมิเนย์ และเฟร็ดกองกลาง “ตัวจ่ายเสีย” ลงสนามเป็นตัวจริงอีกเช่นเคย
- ●พ่วงพร้อมกับ ตัวรุกอย่าง บรูโน่ เฟอร์นันเดส และคริสเตียน อิริกเซ่น ที่ครึ่งแรกเล่นเป็น กองหน้าตัวหลอก
- ●ส่วนปีกทั้ง 2 ข้างเป็น จาดอน ซานโช่ และดร. มาร์คัส “ตีนบอด” แรชฟอร์ด
รูปเกมโดยรวมเป็นไบรท์ตันที่เข้าเพรสซิ่งได้ดีกว่า แมนฯยูไนเต็ด ไม่สามารถครองเกมได้ อีกทั้งเมื่อได้บอล ยังโดนบีบเร็ว จ่ายเสียเองบ่อย แย่งบอลไม่ได้ และยังเสียสมาธิ
เมื่อตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ประตูแรก จึงเป็นของ เจ้านกนางแอ่น ในครึ่งชั่วโมงแรกพอดิบพอดี จาก ปาสกาล กรอสส์
หลังจากโดนลูกแรกแล้วก็ยังไม่เข็ดหลาบ ยังเล่นในทรงเดิมอยู่ ก็หนีไม่พ้นที่จะโดน “เม็ด 2” ตามมา จากกรอสส์ คนเดิม
และแม้ว่าครึ่งหลังรูปเกมจะดีขึ้น แต่จังหวะ ”ปล่อยไก่” และจังหวะ “ไก่กา” ก็ยังมีอยู่เยอะ ประกอบทั้งลูกตีตื้น 1-2 ก็ต้องมาอาศัยลูกคลุกคลิกปนดวงซวยของไบรท์ตัน ที่ทำเข้าประตูตัวเองของ แม็ค อลิสแตร์ในนาทีที่ 68
ช่วงเวลาที่เหลือ โคตรทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ “ไม่มีปัญญาและความสามารถ” มากพอที่จะส่งบอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้ามได้ จบเกม เจ้านกนางแอ่น บุกมาล่อ ปีศาจแดง “คาบ้าน” 1-2 หักทุกปากกาเซียนและสถิติอันสวยหรูของปีศาจแดงที่พบกับไบรท์ตัน
ปาสกาล กรอสส์ เหมาคนเดียว 2 ประตู "ย้ำแค้น" ผีแดง อีกครั้ง
และนี่คือการ “ซักฟอก 4 ข้อหา” ของปีศาจแดง หลังถูกไบรท์ตันเข้าล่อลวง ถึงในบ้าน
ซักฟอก ข้อหาที่ 1 |ขึ้นบอลไม่ได้ ต้องต่อสายถึงแฟร้งกี้|
ความหวังที่แฟนแมนฯยูไนเต็ดอยากที่จะลบ แฟรงกี้ เดอ ยอง ออกไปจากใจ ไม่สามารถทำได้ เมื่อได้เห็นฟอร์มอัน ”สุดห่วย” ของ เฟร็ด อย่างเป็นที่ประจักษ์
ฟอร์มของ “มหาเทพ” เฟร็ดโดยเฉพาะในครึ่งแรก ถือว่า “ห่วยสุดจะบรรยาย” จริงๆ เมื่อไม่สามารถขึ้นเกมจากหลังไปสู่หน้าได้ และไม่สามารถหาช่องทางให้เพื่อนฝากบอลได้ง่ายเลย
อีกทั้ง ยังไม่สามารถแก้เพรสซิ่งได้ ไม่สามารถเข้าปะทะและชิงจังหวะ ชิงบอลกลับมาครองได้ ก็แอบเห็นใจอยู่ เมื่อแผนของ เทนฮาก นั้น ให้เฟร็ดยืนต่ำคนเดียว แต่เจ้าตัวก็น่าจะทำได้ดีว่านี้
สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุด คือการ “จ่ายบอลเสียแบบง่ายๆ” ในหลายจังหวะ ที่ไม่ควรจะเสีย เชื่อว่าแฟนผีทุกคนน่าจะต้อง “หลุดสบถ” ออกมาจากปากบ้าง ไม่มาก ก็น้อย
ต้องยอมรับตามตรงว่า ปีศาจแดง “ต้องการ” กองกลางในตำแหน่งเบอร์ 6 ในแผนของ เอริก เทนฮาก เพื่อขึ้นเกมจากแดนหลังไปสู่แดนหน้า “อย่างเร่งด่วน” จริงๆ และผู้ที่จะมาเป็นคนคนนั้นของเทนฮาก มีอยู่เพียงชื่อเดียว “แฟรงกี้ เดอ ยอง”
ซักฟอก ข้อหาที่ 2 |หายใจเร็ว ให้เป็น|
ฟุตบอลของเกรแฮม พอตเตอร์นั้น เป็นฟุตบอลที่ครองบอลสู้ ไม่กลัวทีมใหญ่ เพรสซิ่งแดนกลางหนัก และรวดเร็ว ดังนั้น จึงไม่มีพื้นที่ให้หายใจได้อย่าง ”เอ้อละเหย” สำหรับทีมคู่แข่ง
แต่ถึงกระนั้น แทนที่ยูไนเต็ด จะกระตือรือร้นในการ “หายใจเร็ว” กล่าวคือ การรีบต่อบอล ออกบอล เปลี่ยนจังหวะให้ไว เพื่อที่จะแก้เกมเพรสซิ่งของไบรท์ตันให้ได้ ยูไนเต็ด กลับทำสิ่งที่ตรงกันข้าม
การเก็บบอลไว้กับตัวนาน ไม่ออกบอลไปตามจังหวะ เกิดขึ้นบ่อยมากในฤดูกาลที่แล้ว และดูเหมือนฤดูกาลนี้ ก็จะยังคงเห็นอยู่ โดนเฉพาะ แม็คโทมิเนย์ ที่ดึงบอลไว้กับตัวและเล่นบอลหลายจังหวะบ่อยมาก
เมื่อมีช่องให้จ่ายแล้วไม่ให้ ทำให้เพื่อนเสียจังหวะ ส่วนหนึ่งเลยก็เพราะวิสัยทัศน์ในการออกบอลของมิดฟิลด์รายนี้ อยู่ในระดับที่ “ต่ำถึงต่ำมาก” ทำให้มิติการขึ้นบอลของยูไนเต็ด ค่อนข้างจำกัด
นอกจากแม็คโทมิเนย์แล้ว ก็ยังมี เฟร็ด และผู้เล่นในแดนหน้าอีกหลายคน ที่เก็บบอลไว้กับตัวนานเกินไป “ชนิดที่แบบไร้ประโยชน์” และยังทำให้ไบรท์ตันที่เข้าเพรสซิ่งเร็วอยู่แล้ว “รุมกินโต๊ะ” และแย่งบอลกลับไปได้ในที่สุด
ดังนั้น ผู้เล่นเหล่านี้ควรที่จะหัด “หายใจเร็ว ให้เป็น” เพื่อที่จะครองเกมได้ต่อเนื่อง ไหลลื่น ไม่ดูติดๆขัดๆ ที่เป็นอันจะสร้างความฉุนเฉียวให้กับแฟนบอลอยู่ไม่น้อย
แม็คโทมิเนย์ ยังคงต้องปรับปรุงอีกหลายจุด ในเกมนี้
ซักฟอก ข้อหาที่ 3 |รู้เขา ว่าสำคัญ แต่รู้เรา สำคัญไฉน|
เป็นอันเข้าใจกันดีว่า เกมฟุตบอลนั้น ต้องอาศัยความสามัคคีและความรู้ใจกันเป็นอย่างสูง จึงจะพากันไปสู่ชัยชนะได้ แต่ดูเหมือนว่าที่นี่ ที่ยูไนเต็ด จะไม่ทำอย่างนั้น
ในเกมนี้ ปีศาจแดง จ่ายบอลกันเสียเยอะมาก ความรู้อกรู้ใจในการเคลื่อนที่ของเพื่อนร่วมทีมนั้น อยู่ในระดับที่ “น่าเป็นห่วง “ ราวกับว่าผู้เล่นที่อยู่ในสนามนั้นเป็นคนละทีมกันกันช่วงพรีซีซั่น
การจ่ายบอลพลาดและเสียหาย “เป็นผักเป็นปลา” นอกจากจะทำให้เสียสมดุลในการเปลี่ยนเกมจากรับ เป็นรุกแล้ว ยังทำให้เพื่อนเสียตำแหน่งอีกด้วย
จึงไม่แปลก ที่ทีมเยือน จะมีโอกาสและพื้นที่ในการเล่นบริเวณหน้ากองหลังอยู่เป็นระยะๆ เหตุเพราะการหลุดตำแหน่งของผู้เล่นที่กำลังจะเติมไปเล่นเกมรุกนี่แหละ
การ ”รู้เรา” หรือการรู้ใจกันของทีมของยูไนเต็ด ในเกมนี้ยังดูต่ำกว่ามาตรฐานอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งในมิติ แดนหน้า ยันแดนหลัง ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า ทีมจะต้องปรับปรุงส่วนนี้อย่างรวดเร็ว
เพราะนี่เป็นเรื่องพื้นฐาน ที่ทีมฟุตบอล “ควรจะมี” ถ้าหากอยากจะลุ้นความสำเร็จ “รู้เรา รู้เร็ว ก็ลุ้นความสำเร็จได้เร็ว”
ซักฟอก ข้อหาที่ 4 |สันดานเดิม เริ่มออกลาย|
“คุณเชื่อมั้ย การที่ผมนำทีมแมนฯยูไนเต็ดชุดนี้ จบอันดับที่ 2 ได้ นับเป็นความสำเร็จที่สุดในชีวิตผมแล้ว”
โชเซ่ มูรินโญ่
บทสัมภาษณ์ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ทำเอาแฝนผีตอนนั้น แทบจะ “ปรอทแตก” แต่เมื่อผ่านมาถึงปัจจุบัน เชื่อว่าแฟนผีหลายคน ก็คงจะได้เห็นกับตาแล้ว ว่าสิ่งที่มูรินโญ่พูด เป็นเรื่องจริง
แม้ว่าชุดผู้เล่นในตอนนั้น กับตอนนี้ จะเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว แต่ความเคยชินของผู้เล่นบางคน ก็ยังคงอยู่ ไม่ต้องย้อนไปไหนไกล ฤดูกาลที่แล้ว น่าจะบ่งบอกได้ชัดเจนที่สุด
ผ่านมาถึงรุ่งอรุณใหม่ วันใหม่ ในยุคเอริก เทนฮาก แต่ “สันดานเดิม” ยังคงเหลืออยู่ การที่ผู้เล่นไม่ช่วยเหลือกันในเกม การไม่ขยับมาซับพอร์ต การไม่กระตุ้นซึ่งกันและกัน
การไม่ช่วยกันวิ่งบีบแย่งบอล ไม่เล่นตามแผน หรือสมาธิหลุดจากเกมไปดื้อๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับผู้จัดการทีมคนก่อนที่ผ่านมาแล้วทั้งนั้น จนเปลี่ยนวันใหม่ สิ่งเหล่านี้ ก็ยังคงเหลืออยู่
รวมไปถึงจังหวะไหวพริบฟุตบอล ที่ควรจะมีมากกว่านี้ ทั้งจังหวะไหนที่ควรดึงช้า กลับรีบเล่นเร็ว จังหวะไหนควรเล่นเร็วกลับเล่นช้า เช่นจังหวะที่ไบรท์ตันเล่นลูกถ่วงเวลาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
ผู้เล่นยูไนเต็ด ก็ยังคง ”หลงเหลี่ยม” วิ่งไปให้ทีมเยือนเตะบอลอัดให้ออกข้างอยู่หลายจังหวะ กินเวลาในช่วงทดเจ็บไปเกือบ 3 นาที โดยไม่มีใครรู้เลยว่ากำลังโดนทีมเยือนนั้น เล่นกับเวลาอยู่
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสันดานเดิมๆของเหล่าผู้เล่น ทั้งนั้น
ยูไนเต็ด กับความรู้สึกเดิมๆ ไม่ต่างกับฤดูกาลที่แล้ว
ไม่มีใคร หรือกูรูฟุตบอลคนไหน ที่จะให้คำตอบได้ว่า เหตุใดยูไนเต็ด จึงไม่สามารถดัดสันดานเดิมของตัวเองให้หมดไปได้
ทั้งที่ผู้เล่นหลายคนในทีมชุดนี้ ก็เป็นชุดที่ระเบิดฟอร์มได้ดีในยุค โซลชา ช่วงหนึ่ง เป็นชุดที่สามารถล้ม แมนฯซิตี้ทั้งไปและกลับได้ เป็นชุดที่ก็เคยแสดงให้เห็นแล้ว “ว่าถ้าจะเล่นให้ดี ก็เล่นได้”
แต่ทำไมถึงเลือกที่จะเก็บ “สันดานเดิม” เหล่านี้ไว้ ไม่ตัดทิ้ง ไปเสียที
เรียบเรียง : Mr.เอเวอร์ดีน
#MANUTD #MUNBHA
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
