8 ส.ค. 2022 เวลา 14:03
“ทักษิณ”เฮ! ชนะคดีภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.7 หมื่นล้านบาท คำสั่งกรมสรรพากรมิชอบ
2
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษา “ทักษิณ ชินวัตร” ชนะคดีกรมสรรพากร กรณีสั่งเพิกถอนการประเมินเก็บภาษีขายหุ้น “ชินคอร์ป” กว่า 1.7 หมื่นล้านบาท พบดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ออกหมายเรียก“พานทองแท้-พินทองทา”มาประเมินแทนตัวเอง
6
วันนี้(8 ส.ค.65) ศาลภาษีอากรกลาง อ่านคำพิพากษาคดีความแพ่ง หมายเลขดำ ภ.220/2563 ระหว่าง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กรมสรรพากร จำเลยที่ 1 นายพงษ์ศักดิ์ เมธาพิพัฒน์ จำเลยที่ 2 นายประภาส สนั่นศิลป์ จำเลยที่ 3 นายพิสิทธิ์ ศรีวรานันท์ จำเลยที่ 4 กรณีประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "ชินคอร์ป" จำนวน 17,000 ล้านบาท โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
2
ทั้งนี้ ศาลภาษีอากรกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า การที่เจ้าพนักงานของจำเลยที่ 1 ถือเอาการออกหมายเรียกนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาว ในฐานะตัวแทนเชิด เป็นการออกหมายเรียกโจทก์ตามมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากรในฐานะตัวการ เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะการประเมินต้องออกหมายเรียกไปยังโจทก์ซึ่งเป็นผู้ถูกประเมินโดยตรง
6
แต่ปรากฏว่า เจ้าพนักงานประเมินมิได้ออกหมายเรียกตรวจสอบโจทก์ภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับนิติกรรมที่ทำขึ้น ไม่ก่อให้เกิดการโอนกรรมสิทธ์ในหุ้นของบริษัทชินคอร์ปฯ แต่อย่างใด โดยยังถือว่าโจทก์เป็นเจ้าของหุ้นบริษัทดังกล่าวอยู่
4
ประกอบกับนิติกรรมที่ทำขึ้นภายหลังจากนั้นก็ไม่ก่อให้เกิดการโอนกรรมสิทธ์ในหุ้นของบริษัท ชินคอร์ป ฯแต่อย่างใด เพราะนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ไม่ใช่เจ้าของหุ้นที่แท้จริง
5
ตามข้อกฎหมายมาตรา 19 จึงยังต้องถือว่า นายทักษิณ เป็นเจ้าของหุ้นบริษัท ชินคอร์ปฯ ดังกล่าวอยู่ ที่พวกจำเลยให้โจทก์เสียภาษี อย่างผู้มีรายได้พึงประเมินนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 และมิใช่ผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร
1
มีผลทำให้การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2-4 ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่วินิจฉัยยืนตามการประเมิน ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกัน แต่เจ้าพนักงานประเมินและจำเลยที่ 2-4 กระทำไปตามอำนาจหน้าที่จึงไม่ต้องรับผิดเป็นการส่วนตัว
9
ศาลภาษีอากรกลาง พิพากษาให้เพิกถอนการประเมินตามหนังสือแจ้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.12) และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2-4 ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
1
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาคดีร่ำรยผิดปกติ กรณีอัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 7.6 หมื่นล้านบาท พร้อมดอกผลที่ได้มาจากการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปฯ ตกเป็ฯนของแผ่นดิน
3
ขณะที่ องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ พิพากษาว่า นายทักษิณ ใช้อำนาจขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ออกนโยบายเอื้อประโยชน์บริษัท ชินคอร์ปฯ ที่ครอบครัวถือหุ้น ทำให้มีทรัพย์สินร่ำรวยผิดปกติ จึงให้ยึดทรัพย์สินในส่วนของนายทักษิณและครอบครัว ที่ได้จากการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปฯ จำนวน 4.6 หมื่นล้านบาท พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน
12
หลังจากนั้นระหว่างปี 2549-2552 กรมสรรพากรได้ประเมินภาษีโอนหุ้นบริษัท ชินคอร์ปฯ กับนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ทำนองว่าเป็นตัวแทนของนายทักษิณ จึงต้องเก็บภาษีจากคนทั้งสอง รวมวงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท จนนำมาสู่การฟ้องร้องคดีนี้
3
โฆษณา