Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
10 ส.ค. 2022 เวลา 02:20 • ประวัติศาสตร์
“การปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution)” การปฏิวัติที่เปลี่ยนโลก
“การปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution)” ได้เกิดขึ้นที่อังกฤษเมื่อปลายศตวรรษที่ 18 และไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงแวดวงการผลิตเท่านั้น หากแต่ยังเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคมและชีวิตของชาวอังกฤษ ก่อนที่การปฏิวัตินี้จะแพร่หลายไปทั่วโลก
ในช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่สังคมในยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือ กำลังเปลี่ยนแปลงจากสังคมชนบทไปสู่สังคมเมือง มีการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ
ก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม การผลิตสินค้าต้องใช้แรงงานคนหรือไม่ก็เครื่องจักรขนาดเล็ก แต่การเปลี่ยนสู่สังคมอุตสาหกรรมทำให้มีการนำเครื่องจักรใหม่ๆ และมีขนาดใหญ่เข้ามาใช้ ทำให้เกิดการผลิตสินค้าได้ในปริมาณมาก
“เครื่องจักรไอน้ำ” คือสิ่งสำคัญและเป็นพื้นฐานของการปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลกระทบไปถึงอุตสาหกรรมเหล็กและทอผ้า
นอกจากนั้น การปฏิวัติอุตสาหกรรมยังทำให้การขนส่งและสื่อสารมีการพัฒนาอีกด้วย
ระบบการเงินก็มีการเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลมาจากการผลิตที่มากขึ้น การเข้าสู่สังคมอุตสาหกรรมและการผลิตสินค้าในปริมาณมาก ทำให้ชนชั้นสูงมีฐานะมั่งคั่งร่ำรวย ส่วนชนชั้นล่างก็ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานเช่นกัน
1
สำหรับเหตุผลว่าทำไมการปฏิวัติอุตสาหกรรมจึงต้องเป็นที่อังกฤษ ต้องเล่าว่าก่อนที่จะมีการปฏิวัติอุตสาหกรรม สังคมอังกฤษก็เป็นสังคมชนบท มีการพึ่งพาการเพาะปลูกเป็นหลัก
สินค้าต่างๆ ก็มักจะเป็นงานฝีมือหรือเสื้อผ้า อาหาร เครื่องเรือน และมีเหล็ก ถ่านหิน เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรม
อังกฤษยังมีการเมืองที่ค่อนข้างมั่นคง อีกทั้งยังเป็นเจ้าอาณานิคมที่ยิ่งใหญ่ มีประชากรในปกครองเป็นจำนวนมาก ส่วนอีกเหตุผลหนึ่ง ก็คือความต้องการสินค้าอังกฤษนั้นเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้องมีการหาวิธีการใหม่ๆ ในการผลิตสินค้าออกมาได้ในปริมาณมาก
อุตสาหกรรมทอผ้าก็มีการเปลี่ยนแปลง โดยก่อนที่จะมีโรงงานทอผ้า ผ้าแต่ละผืนนั้นจะถูกผลิตขึ้นด้วยแรงงานคน คนงานก็กำหนดเวลาการทำงานของตนเอง ทำให้การวางระบบที่มีประสิทธิภาพเป็นไปได้ลำบาก
2
นอกจากนั้น ปริมาณสินค้าที่ผลิตได้ก็ไม่พอกับความต้องการของตลาด ทำให้ในศตวรรษที่ 18 จึงเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต
“เจมส์ ฮาร์กรีฟส์ (James Hargreaves)” นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ ได้ประดิษฐ์จักรเย็บผ้า ทำให้การเย็บผ้ามีความสะดวกสบายมากขึ้น
เมื่อเขาเสียชีวิตในปีค.ศ.1778 (พ.ศ.2321) ก็ได้มีการผลิตจักรเย็บผ้าไปแล้วกว่า 20,000 เครื่อง
อุตสาหกรรมเหล็กก็มีการเปลี่ยนแปลง โดยในต้นศตวรรษที่ 18 “อับราฮัม ดาร์บี (Abraham Darby)” พ่อค้าเหล็กชาวอังกฤษ ได้คิดค้นวิธีการผลิตเหล็กหล่อ โดยใช้แก๊สและน้ำมันแทนถ่าน ก่อนที่ในเวลาต่อมา จะมีการคิดค้นวิธีการผลิตเหล็กในปริมาณมากๆ ซึ่งเหล็ก ก็ได้กลายเป็นวัตถุดิบหลักในการก่อสร้างต่างๆ
1
ต่อมาก็คือเครื่องจักรไอน้ำ โดยในปีค.ศ.1712 (พ.ศ.2255) “โทมัส นิวโคเมน (Thomas Newcomen)” นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ ได้สร้างเครื่องจักรไอน้ำตัวแรกขึ้นมา ซึ่งช่วยในการสูบน้ำจากเหมือง
1
เมื่อสิ้นสุดศตวรรษที่ 18 “เจมส์ วัตต์ (James Watt)” นักประดิษฐ์ชาวสก็อตแลนด์ก็ได้ปรับปรุงเครื่องจักรไอน้ำให้สามารถใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้
1
เจมส์ วัตต์ (James Watt)
ส่วนทางด้านการคมนาคมขนส่ง ก่อนที่จะมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมและการกำเนิดของเครื่องจักรไอน้ำ การขนส่งวัตถุดิบต่างๆ เป็นไปอย่างยากลำบาก
ยานพาหนะหลักในเวลานั้นคือเกวียนและเรือ โดยเมื่อถึงต้นศตวรรษที่ 19 “โรเบิร์ต ฟุลตัน (Robert Fulton)” วิศวกรชาวอเมริกัน ได้ประดิษฐ์เรือกลไฟที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นลำแรก และเมื่อถึงกลางศตวรรษที่ 19 เรือกลไฟก็ได้แพร่หลายและข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปแล้ว
นอกจากนั้น ยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำก็ได้เปลี่ยนแปลงการเดินทางและขนส่ง ทำให้สามารถขนส่งวัตถุดิบและสินค้าต่างๆ ได้ในปริมาณมาก
โรเบิร์ต ฟุลตัน (Robert Fulton)
ในปีค.ศ.1830 (พ.ศ.2373) ได้มีการเปิดทางรถไฟสายลิเวอร์พูล-แมนเชสเตอร์ที่อังกฤษ และเป็นทางรถไฟสายแรกที่ขนส่งผู้โดยสารโดยรถไฟเครื่องจักรไอน้ำ
1
และเมื่อถึงกลางศตวรรษที่ 19 อังกฤษก็มีทางรถไฟรวมเป็นระยะทางกว่า 9,700 กิโลเมตร
1
สำหรับทางด้านคุณภาพชีวิตผู้คน อาจจะกล่าวได้ว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้มาตรฐานชีวิตของผู้คนสูงขึ้น หากแต่นักประวัติศาสตร์หลายคนก็ถกเถียงว่าคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้นนี้จำกัดอยู่แค่ชนชั้นกลางขึ้นไปเท่านั้น
ชนชั้นล่างยังคงมีชีวิตที่ยากลำบาก ค่าแรงก็ต่ำและสภาพการทำงานก็แย่ ทั้งอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพ เมืองใหญ่ที่เติบโตก็มีปัญหาตามมามากมาย
ผู้คนต่างย้ายจากบ้านในชนบทเข้ามาอยู่ในเมือง ทำให้เมืองมีประชากรหนาแน่น
ด้วยความที่ประชากรล้นเมือง ทำให้เกิดปัญหาทางด้านสุขอนามัยและโรคระบาด นอกจากนั้น แรงงานต่างๆ ก็ถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักร ทำให้เกิดปัญหาคนว่างงาน
แต่เมื่อถึงกลางศตวรรษที่ 19 คุณภาพชีวิตคนงานก็ดีขึ้น มีการพัฒนากฎหมายแรงงาน อีกทั้งยังมีความพยายามในการจัดตั้งสหภาพแรงงาน
ในไม่ช้า ยุโรปทั้งทวีปก็เข้าสู่สังคมอุตสาหกรรม และข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงสหรัฐอเมริกา
นักประวัติศาสตร์หลายคนได้ให้ความเห็นว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมยังมีบทบาทสำคัญที่ทำให้อังกฤษก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจในศตวรรษที่ 19 และการปฏิวัติอุตสาหกรรมนี้เอง ก็ได้เปลี่ยนแปลงยุโรปและโลกไปตลอดกาล
References:
https://historyofyesterday.com/how-the-industrial-revolution-changed-the-world-as-we-knew-it-b4cb0a0a8e3
https://education.nationalgeographic.org/resource/industrialization-labor-and-life/
https://www.ipl.org/essay/The-Industrial-Revolution-And-Its-Impact-On-P3ZU4M7EAJFR
https://www.history.com/topics/industrial-revolution/industrial-revolution
ประวัติศาสตร์
22 บันทึก
28
1
16
22
28
1
16
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย