💟 วันนี้เราได้ใช้เวลาไปกับสิ่งที่เรามีความสุขหรือยัง ? 💟
คนเรามักจะมีความเชื่ออยู่บนประสบการณ์ที่เราพบเจอมา บางคนสามารถมองเห็นโลกตามความจริงได้ แต่คนจำนวนไม่น้อยที่มองโลกผ่านเลนส์ของตัวเอง
🔎 เราจะมองโลกแบบไหนก็เป็นสิทธิ์ของเรา แต่คำถามคือ โลกที่เรามองเห็น และวิธีการที่เราตอบสนองกับโลกใบนั้น ทำให้เรามีความสุขกับชีวิตของเราได้แค่ไหนมากกว่า
.
.
🎬 มามองโลก 2 มุมผ่านหนัง (ที่โหดร้าย) อย่าง Blood Diamond กัน
.
สปอยล์
ปล. ออกตัวก่อนว่าเล่าตามเนื้อเรื่องนะ เพราะส่วนตัวห่างไกลจากวงการเพชรมาก เลยไม่ได้มีความรู้สึกทั้งสนับสนุน หรือแอนตี้ใดๆ
.
.
.
💎 Blood Diamond เป็นเรื่องราวของวงการค้าเพชร … สินค้าราคาแพงที่แลกมาด้วยชีวิตของคน
🎬 เนื้อเรื่องโดยสรุปคือ นายทุนแห่งวงการค้าเพชร ต้องการซื้อเพชรจากแถบแอฟริกาในราคาที่ถูก ประกอบกับตอนนั้นมีกลุ่มกบฎที่ต่อต้านรัฐบาล และสร้างความรุนแรงในประเทศอยู่ ทำให้กลุ่มกบฎไล่ฆ่าชาวบ้าน และจับมาเป็นแรงงานทำเหมืองเพชรเถื่อน เพื่อขายไปยังนายทุนในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด แลกกับอาวุธสงครามเพื่อเอามาต่อสู้กับรัฐบาล และก่อความรุนแรงในประเทศต่อไป
เส้นเรื่องหลัก จะเป็นเรื่องราวระหว่าง แวนดี้ ชาวบ้านที่ถูกจับไปแล้วบังเอิญเจอเพชรเม็ดใหญ่แบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน แต่ซ่อนเอาไว้ เลยโดยกลุ่มกบฎหมายหัวแล้วจับตัวลูกชายไป กับ อาร์เชอร์ ทหารรับจ้างที่เป็นนายหน้าค้าเพชรเถื่อนให้กับนายทุนใหญ่
พออาร์เชอร์รู้ว่า แวนดี้โดนหมายหัว แต่มีเพชรเม็ดใหญ่ ก็เสนอตัวเข้าไปช่วย และหวังส่วนแบ่งจากการขายเพชรเม็ดนั้น
แต่ๆๆๆ วันนี้เราจะไม่พูดถึงเส้นเรื่องหลักนี้ เพราะเราอยากพูดถึงบทสนทนาสั้น ๆ ไม่กี่นาทีของอาร์เชอร์กับนักข่าวอีกคนนึงมากกว่า….
นักข่าวคนนี้ชื่อ แมดดี้ เป็นคนอเมริกันที่เข้ามาทำข่าว และอยากเปิดโปงเบื้องหลังการค้าเพชรเถื่อนที่หาหลักฐานไม่ได้ซักที ก็เลยพยายามจะสืบข่าวจากอาร์เชอร์
💚 ในสายตาของแมดดี้ ที่โตขึ้นมาในประเทศที่มีความสงบ มองว่าวงการค้าเพชรเถื่อนทำให้คนตายเป็นจำนวนมาก แล้วก็พยายามจะโน้มน้าวอาร์เชอร์ว่าสิ่งที่อาร์เชอร์ทำมันทำให้มีคนตาย เลยอยากให้อาร์เชอร์ช่วยเปิดโปงเพื่อหยุดกระบวนการนี้
🖤 ในสายตาอาร์เชอร์ ที่โตขึ้นมากับสงคราม วิ่งหนีกระสุนปืน พ่อแม่โดนฆ่าตายตั้งแต่เด็ก ตัวเองต้องหาทางดิ้นรนเอาตัวรอดในโลกที่โหดร้ายจนกลายไปเป็นหนึ่งในกระบวนการค้าเพชรเถื่อน บอกแมดดี้ว่า คนตายเป็นเรื่องธรรมดาวิถีของโลกนี่แหละ แล้วอีกอย่างคนอเมริกัน (อย่างเธอ) เยอะแยะก็ต้องการเพชรสำหรับทำแหวนหมั้นหรู ๆ ทั้งนั้น …(พวกเธอ) ก็มีส่วนทำให้เกิดคนตายในวงการค้าเพชรเถื่อนเหมือนกันนั่นแหละ
พร้อมกับตอกหน้าแมดดี้กลับไปว่า นักข่าวที่ถือคอมเข้ามาทำงาน พร้อมกับแจกจ่ายยาให้ผู้เคราะห์ร้าย (อย่างเธอ) ไม่ทำให้โลกนี้มันโหดร้ายน้อยลงหรอก
สุดท้ายแมดดี้เลยตอกกลับอาร์เชอร์ไปว่า
📣 “รู้เอาไว้นะ ว่าไม่ใช่คนอเมริกันทุกคนอยากได้เพชรมาประดับแหวนหมั้น เหมือนๆกับที่ไม่ใช่คนแอฟริกันทุกคนจะฆ่าคนเป็นเรื่องปกติ แล้วถึงโลกมันจะโหดร้ายแบบนี้ แต่มันก็ยังมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นทุกวันแหละ แค่เรื่องดีๆที่เกิดขึ้นมันบนโลกนี้มันไม่ได้มาจากเธอเลย
ชั้นไม่เสียเวลากับเธอละ ไปหาคนอื่นดีกว่า”
.
.
.
บทสนทนาสั้นๆนี้ ทำให้เราเรียนรู้ว่า …..
🙅♀️ อย่าไปเสียเวลากับเรื่องที่ทำให้เราไม่มีความสุข 🙅♀️
อย่างที่แมดดี้พูดเลยว่า มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นทุกวันแหละ แทนที่จะเสียเวลาอยู่กับเรื่องที่ไม่ดี ก็เอาเวลาไปหาเรื่องดีๆ ดีกว่า
เป็นบทเรียนที่ simple มาก แต่พอดีตอนที่ดูเรื่องนี้ เรากำลังสับสนอะไรบางอย่างอยู่ พอเจอประโยคนี้เข้าไปเลยตาสว่างขึ้นมาในเสี้ยววินาที แล้วปลดล็อคไปง่ายๆ ถึงขนาดต้องถามตัวเองว่า ก่อนหน้านี้ทำไมคิดไม่ได้ ?
.
.
💙 นี่แหละนะ ถึงจะเป็นประโยคง่าย ๆ แต่เมื่อมาในเวลาที่ใช่ นี่มันให้ผลได้มากจริง ๆ
ปล. เรื่องนี้เป็น always favorite เรื่องนึงของเรา ได้บทเรียนอะไรหลายอย่างเลย แต่ถ้าเขียนต่อเดี่ยวจะยาวเกินน 😅
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
