14 ส.ค. 2022 เวลา 06:24 • หุ้น & เศรษฐกิจ
การใช้ Futures และ Options ในการบริหารจัดการความเสี่ยง
1
ที่ผ่านมา เพจของเราได้นำเสนอข้อมูลการลงทุน ทั้งที่เป็นแนวเทคนิค ที่เป็นการลงทุนระยะกลาง 3-6 เดือน และแนวปัจจัยพื้นฐานสำหรับลงทุนระยะยาว 1 ปีขึ้นไป รวมถึงการใช้ data อื่นๆ ร่วมวิเคราะห์ในการลงทุน
1
ในครั้งนี้ ขอนำเสนอเครื่องมือการลงทุนอีกแบบ คือการใช้ Futures และ Options โดยใช้เพื่อบริหารความเสี่ยงของพอร์ต (มากกว่าที่จะใช้เก็งกำไร)
กลยุทธ์ที่นำเสนอครั้งนี้คือ Long Straddle โดยกลยุทธ์นี้เหมาะกับตลาดที่กำลังจะปรับตัวอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะทางขึ้นหรือลง
นั่นคือ ช่วยลดอาการติดดอยและตกรถได้ พร้อมๆ กัน
โดยหลักการคือ การซื้อ call options และ put options ที่มีราคาใช้สิทธิและวันครบอายุเดียวกันอย่างละ 1 สัญญา เช่น Long S50U22C975 และ Long S50U22P975 อย่างละ 1 สัญญา
อีกแนวทางหนึ่งคือ การใช้ futures และ options ร่วมกัน เนื่องจาก futures จะมีสภาพคล่องที่สูงกว่า options
โดยตัวอย่างพอร์ตตามรูปนี้ มีการ Long futures ตัวใกล้ S50U22 จำนวน 2 สัญญา Long put options S50U22P975 จำนวน 2 สัญญา และ Short futures ตัวไกล S50Z22 จำนวน 1 สัญญา
Long Straddle Strategy by Futures and Options
ถ้าหากดู payoff chart แล้วจะพบว่า ณ ระดับ SET50 ปัจจุบัน 985 จุด พอร์ตนี้ยังมีกำไร 0.2% นั่นหมายความว่า หาก SET50 เพิ่มสูงขึ้น ก็จะทำกำไรได้มากขึ้น แต่หากตลาดกลับทิศต่ำกว่า 950 จุด ก็จะยังคงทำกำไรได้เช่นกัน
แต่หากตลาด Side way อยู่ที่ระดับ 975 จุด จะเป็นจุดที่ขาดทุนสูงสุด
Payoff Chart
จาก payoff chart พอร์ตนี้จะเห็นว่ามีโอกาสขาดทุนสูงสุด 6 พันกว่าบาท และกำไรแบบ unlimited
สรุป กลยุทธ์ Long Straddle นี้ เหมาะกับการคาดการณ์ว่า ตลาดจะมีการขึ้นหรือลงอย่างรุนแรง และไม่เหมาะกับตลาด Side way
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาทำความเข้าใจก่อนการลงทุน
หลักทรัพย์ที่แสดงในบทความ แสดงเพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชี้นำในหลักทรัพย์แต่อย่างใด
โฆษณา