11 ส.ค. 2022 เวลา 01:46 • ไลฟ์สไตล์
“จงมีความสุขเสมือนหนึ่งที่เราเพิ่งจะเกิดมาเห็นโลกเป็นวันแรก หรือจะหมดโอกาสเห็นโลกอีก”
.“ศิลปะแห่งการแปรเปลี่ยนความทุกข์ให้กลายเป็นความสุข”
4
1. “พรุ่งนี้ช่างมัน ชีวิตของฉันอยู่วันนี้ก็พอแล้ว”
2. วิธีดับทุกข์ที่ง่ายและเร็วที่สุด คือ การไม่มีเวลาสำหรับทุกข์
3. จงอย่าอยู่ว่าง จงหาอะไรทำให้ยุ่งอยู่เสมอ นี่คือยาราคาถูกที่สุดในโลก และเป็นยาดีที่สุด
4. การหาเรื่อง ทำโน่นนี่ ให้มีภาระยุ่งอยู่เสมอ เป็นการวางยาสำหรับแก้ทุกข์ที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์
5. วิธีแก้ทุกข์ คือ ทำบางอย่างที่มีประโยชน์ด้วยใจจดจ่ออย่างแท้จริง
6. เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่จิตใจของมนุษย์ จะทำการนึกคิดมากไปกว่าอย่างเดียว ในเวลาพร้อม ๆ กัน
2
7. อารมณ์อย่างหนึ่งเกิดขึ้นย่อมจะขับไล่อีกอารมณ์หนึ่งออกไป
4
8. ความทุกข์จะมาหาเราก็ต่อเมื่อเราเริ่มนึกวิตกกังวลถึงชีวิตในภายหน้า
9. ไม่มีสิ่งใดที่จะนำสุขมาให้เรา นอกจากตัวเราเอง
10. จงอยู่กับวันนี้ เพาะนิสัยแห่งการมีชีวิตอยู่ ในห้องที่มีแต่วันนี้
11. จงคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเมื่อวานเป็นสิ่งที่ล่วง และปิดฉากไปแล้ว สำหรับพรุ่งนี้ อนาคต ที่ยังมาไม่ถึง จงเอาฉากเหล็กมากั้นไว้เสีย
12. วิธีเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ คือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด การทำเช่นนี้ หมายถึง เราได้เตรียมตัวไว้เป็นอย่างดีสำหรับอนาคตแล้ว
13. อนาคตคิดได้ แต่จงคิดด้วยความรอบคอบ และตระเตรียมแผนการไว้ให้ดี
14. ไม่ต้องห่วงวันพรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้จะดูแลตัวมันเอง
15. ทุก ๆ วัน เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่
16. สิ่งแน่นอนที่สุดในชีวิตของเรา คือ วันนี้
2
17. สูตรวิเศษสำหรับแก้ทุกข์ใช้ได้ทันที คือ การยอมรับ และต้อนรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา
1
18. ถามตัวเองว่า จะเกิดผลเสียหายร้ายแรงที่สุดสักเพียงใด?
19. เมื่อยินดีต้อนรับเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุด ก็แปลว่า เราไม่มีอะไรจะสูญเสียอีกแล้ว จะมีแต่ได้กับได้
20. เตือนตนเองอยู่เสมอว่าทุกข์สามารถทำลายสุขภาพได้อย่างร้ายแรง ผู้ที่ไม่รู้จักต่อสู้กับทุกข์จะอายุสั้น
21. เมื่อเจอทุกข์ ให้เขียนสิ่งที่จะได้ประโยชน์จากการชนะความทุกข์
22. อย่าเป็นทุกข์กับสิ่งที่เล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะบางทีความทุกข์ที่กำลังเผชิญอยู่ เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก
23. ใช้กฎค่าเฉลี่ย (Law of Average) ช่วยแก้ทุกข์ ลองถามตนเอง เหตุการณ์อันนี้ โดยอาศัยค่าเฉลี่ย มันมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นตามที่ฉันเป็นทุกข์ไหม?
24. ยอมรับ และโอบกอด สิ่งที่เราหนีไม่พ้น เพราะมันจะต้องเป็นอย่างนั้น มันจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ มันเป็นไปแล้ว มันไม่อาจจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น
25. เมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่หลีกหนีไม่พ้น รับมันไว้ในฐานะเป็นสิ่งที่หนีไม่พ้น แล้วปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นั้น หรือจะให้มันทำลายความสุขของเราด้วยความกลุ้มใจและเป็นทุกข์กับมัน
26. ถ้าสามารถแก้ไข ก็แก้ไขมัน ถ้าแก้ไขไม่ได้ จงลืมมันไปเสีย
27. ความจริง คือ 99% ของสิ่งต่าง ๆ ที่วิตกทุกข์ร้อน ไม่ได้ปรากฏขึ้นจริง (ความทุกข์ส่วนใหญ่เกิดจากการวาดภาพในหัวของเราเอง)
28. เมื่อโชคชะตาส่งมะนาวมาให้ จงแปรเปลี่ยนมันให้เป็นน้ำมะนาว
29. ศิลปะแห่งการวิเคราะห์ทุกข์
1. ค้นหาข้อเท็จจริง (ด้วยใจเป็นกลาง) ของปัญหายุ่งยากที่เรากำลังเผชิญ และเขียนมันลงกระดาษ
2. พิจารณา และวิเคราะห์ข้อเท็จจริงนั้น ๆ อย่างสุขุมรอบคอบ
3. ทำการตัดสินใจ แล้วปฏิบัติตามที่ได้ตัดสินใจ
30. เมื่อมีปัญหาที่ทำให้เกิดวิตกทุกข์ร้อน อย่าปล่อยให้มีอารมณ์อันฉุนเฉียวเกิดขึ้นเป็นอันขาด
31. ความผิดพลาดต่าง ๆ ในอดีต มีประโยชน์และเป็นผลกำไร สำหรับใช้วิเคราะห์เหตุการณ์อื่น ๆ แต่อย่าได้จำความผิดพลาดนั้น ๆ ไว้สำหรับทรมานจิตใจ
3
32. แม้จะมีอำนาจและอิทธิพลขนาดไหน เราก็ไม่สามารถบังคับให้อดีตเปลี่ยนแปลงได้
33. สิ่งใดได้เกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นจบลงไปแล้ว อย่าเป็นทุกข์กับสิ่งที่ผ่านมา และเสร็จสิ้นไปแล้ว
34. ชีวิตของเราจะเป็นไปตามความคิดของเรา ถ้ามีความคิดว่าเรามีความสุข ก็จะเกิดความสุข ถ้ามีความคิดว่าเราทุกข์ ก็จะเกิดทุกข์
35. จงเปลี่ยนความคิด และการกระทำของเรา แล้วอารมณ์ต่าง ๆ จะเปลี่ยนตามไปเอง เช่น คิดและทำให้ร่าเริง แล้วจะรู้สึกร่าเริงตามมา
36. อย่าโกรธแค้นศัตรู เพราะถ้ารู้สึกเช่นนั้น จะเป็นผลร้ายแก่ตัวเราเอง
37. ถ้าอยากที่จะได้รับความสุข เลิกคิดถึงความกตัญญู
แต่จงให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่น โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
38. ชีวิตมีความราบรื่นอยู่ 90% และมีความยุ่งยาก 10% ถ้าต้องการจะหาความสุข เราจะต้องเอาใจใส่กับ 90% ที่ราบรื่น และเพิกเฉยกับ 10%
39. จงคิดถึงแต่ความสุข แต่อย่าคิดถึงความทุกข์ ความเดือดร้อน
40. อย่าเลียนแบบผู้อื่น จงนับถือตัวเอง และเป็นตัวของตัวเอง
41. สิ่งที่ดีที่สุดเป็นสิ่งที่จะได้มาอย่างลำบากที่สุด
42. ความมหัศจรรย์ของมนุษย์ คือ ความสามารถที่จะใช้อำนาจจิตเปลี่ยนลบให้เป็นบวก
43. เมื่อเผชิญกับความทุกข์ยาก จงเปลี่ยนมันเป็นพลัง
44. วิธีหายทุกข์ภายใน 14 วัน คือ พยายามคิดทุก ๆ วันว่า เรามีวิธีใดบ้างที่จะทำให้ใครสักคนได้รับความสุข
45. การทำให้คนอื่นมีความสุข จะช่วยทำให้เราลืมคิดถึงตัวเอง ซึ่งการคิดถึงแต่ตัวเอง เป็นบ่อเกิดแห่งความวิตกกังวล หวาดกลัว และทุกข์
46. สร้างการตระหนักรู้ว่า ตัวเราเองเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ที่ไม่ได้มีความหมายเลิศล้ำไปกว่าไดโนเสาร์ที่เคยอาศัยอยู่บนโลกใบนี้เช่นเรา เมื่อสอง 200 ล้านปีเลย
47. ความอ่อนเพลียเป็นต้นตอในการเกิดทุกข์ได้ จงพักผ่อนบ่อย ๆ และพักผ่อนก่อน จะรู้สึกเหนื่อย
48. พักผ่อนเป็นระยะ ๆ แทนจะทำงานติดต่อกันไปโดยไม่หยุดพัก
49. สมองของเราเป็นสิ่งที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และอ่อนเพลีย แต่ความเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียมาจากความผันแปรแห่งจิตใจและอารมณ์
50. เราจะไม่ค่อยจะเหน็ดเหนื่อย เมื่อเรากระทำในสิ่งที่เราสนใจ และตื่นเต้นในสิ่งนั้น ๆ
51. สิ่งสำคัญที่สุด ในการรักษาคนที่มีทุกข์ คือ คำพูด
52. เมื่อมีทุกข์ จงเผยความในใจแก่ใครสักคนที่ไว้วางใจ ให้คนอื่นมีส่วนรู้เห็น ความทุกข์ของเรา เพราะจะสบายใจ เมื่อมีผู้ยินดีฟังเรื่องของเรา และเห็นอกเห็นใจเรา
53. การพูดกับตัวเองในเรื่องที่รู้สึกดี ทุก ๆ ชั่วโมง ทุกวัน สามารถบังคับเราให้ใช้ความคิดในทางที่จะนำมาซึ่งกำลังใจ และความสุขได้
54. ความจำเป็นสิ่งแรกที่สุดสำหรับการนอนหลับสบาย คือ ความรู้สึกอันปราศจากห่วงใย และกังวล
55. วิธีแก้ทุกข์จากการนอนไม่หลับ คือ การสวดมนต์ พูดกับตนเองย้ำ ๆ และการออกกำลังกายให้เหนื่อย
56. ความทุกข์ 75% ของเรามาจากเรื่องเงิน และฐานะของเราจะดีขึ้นหรือเลวลงอยู่ที่การใช้เงิน
57. เรียนรู้ประวัติศาสตร์ จะช่วยให้นึกถึงความเป็นไปของโลกสมัยอดีต แล้วจะพบความจริงว่า เมื่อเปรียบเทียบกับทุกข์ของเราในปัจจุบัน เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยเท่านั้น
58. การให้คนอื่น เป็นยาแก้ความทุกข์
59. วิธีแก้ปัญหา แก้ทุกข์ ด้วยการตอบ 4 คำถาม
1. ฉันกำลังเป็นทุกข์เรื่องอะไร?
2. ฉันจะแก้ไขอย่างไร?
3. ต่อไปนี้คือวิธีที่ฉันตกลงใจจะแก้ไข
4. ฉันจะลงมือปฏิบัติเมื่อใด?
60. ความทุกข์ยากในอดีต ล้วนสอนให้เรารู้จักรสชาติของชีวิต แม้มันจะขม แต่เป็นบทเรียน เป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างมากต่อเรา
👋 บทสรุป
“ความทุกข์” เป็นเพียง “ความคิด” ที่ผ่านกระบวนการปรุงเรื่องราวให้เกินหรือไม่ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
.
เรามักจะทุกข์เกินความเป็นจริงเสมอ นั่นคือ วิธีที่สมองของเราวิวัฒนาการมา
.
หน้าที่ของเรา คือ ต้องคอยหลีกเลี่ยงให้ความคิดเหล่านี้ ไม่ให้อยู่ในหัวเรานานมากเกินไป
.
ต้องหาอะไรให้ตัวเองมีเวลาคิดสิ่งเหล่านี้ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
.
แล้วอยู่กับปัจจุบัน ลงมือทำในส่วนที่สามารถทำได้ให้เต็มที่ ส่วนที่เหลือปล่อยวางและยอมรับมัน
.
โฆษณา