11 ส.ค. 2022 เวลา 02:44 • ไลฟ์สไตล์
ร่วมเดินทางไปกับพี่ใหญ่- เสกสรร สุริยะ ไบค์เกอร์ผู้รักในการเดินทาง
ทุกครั้งที่ได้ออกเดินทางก็เหมือนการพาตัวเองไปสัมผัสเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระหว่างทางไม่ว่าจะดีหรือร้าย มันจะกลายเป็นบทเรียนที่ทำให้ได้เติบโตขึ้น
เอพพิซเต้ ชวนทุกคนมาร่วมเดินทางไปกับพี่ใหญ่- เสกสรร สุริยะ ไบค์เกอร์ผู้รักในการเดินทางที่จะพูดคุยวิถีไบค์เกอร์เมืองไทยแล้วเราจะแว้นมอเตอร์ไซค์ไปด้วยกัน
ว่ากันว่าการพักผ่อนที่ดีสุดคือการได้ใช้เวลาไปกับสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข และช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอแต่ก็คงจะเร็วเท่ากับไมล์บนรถมอเตอร์ไซค์ของหนุ่มๆ ไบค์เกอร์ อย่างพี่ใหญ่ไบค์เกอร์เชียงใหม่พี่ใหญ่เล่าให้ฟังว่า "พี่รักในการขี่รถซึ่งพี่เริ่มขี่รถตั้งแต่อายุ 25
ตอนนั้นซื้อรถฮอนด้าเอามาแต่งตีโครงให้กลายเป็นรถช็อปเปอร์ตอนหลังมาก็เลิกขี่รถช็อปเปอร์ เพราะว่าอยากลองขี่รถไต่เขา พี่เคยเข้าแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยด้วยแต่พี่ได้รับอุบัติเหตุเอ็นเข่าฉีก ทำให้พี่ต้องเลิกขี่รถไต่เขาเพราะมันอันตราย แต่ไม่รู้เป็นอะไรเห็นคนอื่นขี่รถแล้วเรารู้สึกอยากขี่บ้างก็เลยกลับมาขี่รถอีกครั้งและ ด้วยความที่พี่อายุเยอะขึ้นเก็บหอมรอมริบได้เลยตัดสินใจซื้อรถฮาเลย์มาขี่
มันไม่เหมือนที่คิดไว้
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบทำอะไรร่วมกัน แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนพฤติกรรมย่อมเปลี่ยนตามจะเห็นได้ว่าเรามักชอบทำคนเดียวไม่ชอบทำอะไรที่เป็นกลุ่มใหญ่เพราะมากคนก็มากความ แต่ยังไงสุดท้ายเราก็อยากจะใครมีสักคนที่อยู่เคียงข้างในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ก็คงจะเหมือนกับพี่ใหญ่ที่ในตอนแรกเริ่มต้นขี่รถเอง พี่ใหญ่เล่าให้ฟังว่า พี่ไม่อยากขี่รถเป็นกลุ่มเพราะคิดว่าถ้าเข้ากลุ่มแล้วมันจะยุ่งยาก กฎระเบียบมันอาจจะเยอะก็เลยเลือกที่จะขี่เอง
แต่พอหลังๆ มามีคนชักชวนให้เข้ามาในกลุ่ม พอเข้ามาแล้วปรากฏว่ามันไม่เหมือนที่คิดไว้เลยเพราะทุกคนมีความสามัคคี รักกัน ไปไหนไปด้วยกัน แชร์กันหารกัน ไม่มีการเอาเปรียบกันมีเท่าไหร่ก็เลยเริ่มเข้าใจว่าขี่เป็นกลุ่มมันดีเป็นยังไง
ต้องเข้าไปรู้จักลึกๆ แล้วจะรู้ว่าไบค์เกอร์คืออะไร
คนเรามักชอบตัดสินคนอื่นเพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอกหรือการแต่งกาย แต่ถ้าหากเรามองให้ลึก ลึกไปจนถึงภายในเราก็จะรู้ว่าการแต่งกายเป็นแค่เปลือกที่ห่อหุ้มเราไว้ พี่ใหญ่บอกว่า ทีแรกคิดว่าไบค์เกอร์มันไร้สาระ ขี่รถไปวันๆ แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ ถ้าเข้าไปรู้จักลึกจริงจะรู้ว่าการเป็นไบร์เกอร์คือการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมนะ อย่างช่วงปีใหม่ไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่
ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เรียกว่าทำบุญจะไปผ้าป่าเกือบทุกอาทิตย์ กลุ่มนั้นกลุ่มนี้ไปเราก็จะไปช่วยเขาเราจะไปทำบุญเดียวกันตลอดเลย ไปบริจาคเสื้อผ้าบ้าง เครื่องคอมพิวเตอร์บ้าง ไม่ก็ลูกฟุตบอลให้เด็กบนดอย
Harley-Davidson คือสุดๆ แล้ว
ไอเทมลับสำหรับชาวเอพพิซเต้ก็คือ การแชร์เรื่องราวดีๆ ให้กัน แต่สำหรับพี่ใหญ่ก็คงจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ แต่จะเป็นรถธรรมดาคงไม่ได้ พี่ใหญ่บอกว่าต้องเป็น ฮาร์เลย์ เดวิดชันเท่านั้น เพราะมันเป็นรถที่ว่าสุดๆ ของลูกผู้ชายละ เด็กวัยรุ่นที่เกิดมาต้องใฝ่ฝันอยากมี 1.รถช็อปเปอร์ 2.พอโตขึ้นได้ทำงานก็อยากจะมีปืน แต่สุดท้ายมาปืนมันอันตรายเล่นไม่ได้ แล้วสุดๆ ของรถฮาร์เลย์ก็คือเดวิดชัน พี่ก็เหมือนกับทุกคนนั้นแหละ พี่ก็เริ่มขี่จากรถเล็กก่อนขยับมาทีละนิดละหน่อย
แต่ยี่ห้อรถอื่นซื้อมาขี่แล้วมันจะไม่จบแต่ถ้าเป็นฮาร์เลย์คือมันจะจบเราจะไม่อยากซื้อรุ่นอื่นแล้ว ส่วนใหญ่รถฮาเล่เดวิสันราคาค่อนข้างไม่ตก สามารถซื้อมาขายไปจะไม่ค่อยขาดทุนเพราะเป็นรถยอดนิยมและ เป็นรถในตำนาน
โรดิโอคาวบอย
พี่ใหญ่เล่าให้ฟังว่า กลุ่มไบค์เกอร์มันมีมานานแล้ว ก็จะมีกลุ่มคนไทย กลุ่มเมืองนอก แล้วคนไทยก็มาตั้งกลุ่มกันเป็นกลุ่มๆ แต่น้องในแต่ละกลุ่มน่ารักมากถ้ากลุ่มในเชียงใหม่รถมอเตอร์มีสามถึงสี่ร้อยคัน แต่สำหรับกลุ่มพี่ “โรดิโอคาวบอย” จะมีสมาชิกประมาณสามสิบกว่าคน
แต่กว่าที่สมาชิกจะได้เสื้อได้อาร์มเราจะดูว่า คุณขี่รถมากี่ปีแล้ว ได้เดินทางไปไหนบ้าง มันมีกติกาในกลุ่มไม่ใช่ว่าคุณมาแล้วเราจะรับเข้ากลุ่มนะ เราจะดูนิสัย ดูพฤติกรรมว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ถ้าคุณทำดีช่วยเหลือสังคมบ่อยๆ เราก็จะให้เสื้อและอาร์มกับคุณ
ความสุขทุกครั้งที่ได้เดินทาง
สุขไหนคงไม่สุขเท่าได้ใช้เวลากับสิ่งที่ชอบ พี่ใหญ่บอกว่า พี่ชอบทุกครั้งที่ได้ขี่รถเดินทาง ความสุขของพี่คือการได้นั่งขี่หลังรถ ขี่ไปเรื่อยๆ แวะหาของกินอร่อยๆ ชีวิตนี้ของแค่ได้ขี่รถแล้วกลุ่มรถฮาร์เลย์ เดวิดชัน เป็นกลุ่มที่แบบว่าไม่ถือชนชั้นวรรณะทุกคนเท่ากันหมด เราจะรักกันจะไม่มีการทะเลาะกันในกลุ่ม
น้องๆ ทุกคนจะมีสัมมาคารวะพวกไบค์เกอร์พวกรถใหญ่จะไม่มีการทะเลาะกัน ที่สำคัญคือว่ากลุ่มรถพี่อะจะไม่จำกัดรถ จำกัดยี่ห้อ ขอแค่ให้เป็นสองล้อแต่สำหรับบางกลุ่มอาจจะจำกัดว่าจะเป็นรถยี่ห้อนี้เท่านั้นถึงจะเข้ากลุ่มได้
มิตรภาพที่ได้เจอกัน
คำว่า เพื่อน ถึงจะมีแค่พยางค์เดียวดูแล้วเป็นคำสั้นๆ แต่ความจริงแล้วเพื่อนคือความผูกพันที่เชื่อมโยงตัวเขาและตัวเราเข้าด้วยกัน พี่ใหญ่บอกว่า การเป็นไบค์เกอร์มันได้มิตรภาพที่ดี ได้รู้จักคนเยอะ ไบค์เกอร์ที่เห็นกันนะเขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่กันทั้งนั้น เป็นตำรวจ ทหารมีทุกอาชีพที่ขี่ กลุ่มของพี่ส่วนมากค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ ถ้าอายุน้อยสุดก็คงจะเป็นลูกของพี่ ที่ให้เขาขี่ก็เพราะว่าเวลาไปไหนเราจะได้ไปด้วยกัน
สุดท้ายนี้พี่ใหญ่ได้พูดทิ้งท้ายว่า ถ้าคุณได้ลองมาสัมผัสไบค์เกอร์โดยตรง คุณจะรู้ว่ากลุ่มคนพวกนี้คือคนดีคนหนึ่งและ เป็นคนมีมีสัมมาคารวะจะไม่มีเลยว่ารุ่นพี่รุ่นน้องเราจะนับถือกับเป็นสเต็ปไปเลย เราเป็นกลุ่มที่ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมเพื่อแค่เราไม่ได้เปิดเผย ถึงแม้ภายนอกเราจะดูแบดบอยหรืออะไรก็ตามแต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่
เพราะเดินทางเป็นเหมือนบทเรียนบทใหม่ที่รอให้เราเข้าไปเรียนรู้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ว่างเปล่าบนหนังสือที่เราถืออยู่ เอพพิซเต้เชื่อว่าทุกครั้งที่เราออกท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่คุ้มค่า เพราะระยะทางจะสอนเราให้เข้มแข็งและทำให้เราเอาตัวรอดบนโลกที่กว้างใหญ่ใบนี้
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จาก พี่ใหญ่- เสกสรร สุริยะ ไบค์เกอร์ผู้รักในการเดินทาง
สามารถติดตามพี่ใหญ่ได้ที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100000330495806
โฆษณา