12 ส.ค. 2022 เวลา 09:54 • การศึกษา
หมองูมิจฉาทิฏฐิ
หมองู มิจฉาทิฏิฐิ
"สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง" ทุกครั้งที่บริกรรมภาวนา ระลึกถึงพระพุทธคุณออกมาจากใจ เราจะรู้บ้างหรือไม่ว่า ความเป็นสิริมงคลมากมายเหลือคณนา ได้บังเกิดขึ้นในใจของเราแล้ว
ชายผู้หนึ่งกว่าจะได้ตระหนักถึงอานุภาพแห่งการระลึกถึงพระพุทธคุณ ก็ในยามที่เขาแทบจะเอาชีวิตไม่รอด
เมื่อครั้งพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นในโลก ได้ทรงยังสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ข้ามพ้นจากห้วงวัฏทุกข์ เข้าถึงฝั่งความสุขเป็นอันมาก ทรงยังพุทธกิจทั้งปวงให้สำเร็จแล้ว ก็เสด็จปรินิพพาน ดุจดั่งดวงตะวันลับขอบฟ้าไปฉะนั้น
ชาวชมพูทวีปผู้มีความเลื่อมใส ในพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงพร้อมใจกันสร้างพระเจดีย์ทอง ประดับประดาด้วยรัตนะ ๗ ประการ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แล้วทำการสักการะครั้งยิ่งใหญ่
คราวนั้น มีหมองูคนหนึ่งมีอาชีพแสดงงูให้คนดู เขาเดินทางร่อนเร่แสดงไปตามบ้านเมืองต่างๆ เรื่อยไป โดยอาศัยเงินรางวัลจากชาวบ้านเป็นเครื่องเลี้ยงชีวิต
หมองู
ครั้งหนึ่งหมองูได้เปิดการแสดงขึ้น ณ หมู่บ้านที่คนส่วนมาก นับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง พอตกกลางคืน เขาได้ยินเสียงชาวบ้านท่องคำภาวนา นึกถึงพระพุทธคุณ ด้วยคำว่า "นโมพุทธายะ"
หมองูเป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิ ไม่รู้จักคุณของพระพุทธเจ้า เมื่อได้ยินคำภาวนาของชาวบ้านเช่นนั้น ก็แสดงอาการเยาะเย้ย และกล่าวท่องเชิงล้อเลียนว่า "นโม พุทธายะ" เช่นกัน
อยู่มาวันหนึ่ง เขาเที่ยวไปหางู เพื่อใช้ประกอบอาชีพ ครั้งนั้น มีนาคราชตัวหนึ่งไปยังพระเจดีย์ เพื่อนอบน้อมบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วจึงเลื้อยไปยังจอมปลวกแห่งหนึ่ง หมองูเห็นเข้าพอดี จึงร่ายมนต์หวังจะจับนาคราชนั้น
พอนาคราชได้ยินเสียงมนต์ให้รู้สึกโกรธ ใคร่จะฆ่าหมองู จึงเลื้อยตามไป หมองูเห็นนาคราชตามมา ก็รีบหนีด้วยความกลัว ขณะที่วิ่งหนีนั้นเขาพลาดล้มลงที่แผ่นหิน เกิดความหวาดกลัวจนแทบสิ้นสติ เพ้อพูดว่า "นโม พุทธายะ"
ด้วยความคุ้นเคย ที่กล่าวเป็นคำล้อเลียนมาก่อน คำของหมองูนั้น เปรียบดั่งน้ำอมฤตที่แผ่ช่านไปยังนาคราช ยังใจของนาคราชให้ชุ่มชื่นเบิกบาน ความโกรธที่มีแต่เดิมก็พลันมลายหายไปทันที
ด้วยความเคารพในพระพุทธเจ้า นาคราชจึงกล่าวว่า "เพื่อนเอ๋ย ! อย่ากลัวเราเลย บัดนี้เราถูกมนต์ คือ คุณของพระพุทธเจ้าอันเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกอันสูงสุดเข้าแล้ว มนต์นั้นยังใจของเราให้เลื่อมใสเบิกบานยิ่งนัก พร้อมทั้งเกิดความเลื่อมใสต่อท่านด้วย วันนี้เราจะให้เครื่องบรรณาการแก่ท่าน ขอท่านจงรับเถิด"
ครั้นนาคราชพูดจบแล้ว ก็เลื้อยเข้าไปเอาดอกไม้ทองคำ ๓ ดอกมามอบให้ พร้อมกับกล่าวว่า "ดอกไม้ทั้ง ๓ ดอกนี้ ดอกแรกจงนำไปบูชาพระพุทธเจ้าเพื่อเป็นบุญของท่าน ดอกที่สองจงบูชาพระพุทธเจ้าเพื่อเป็นบุญของเรา ส่วนดอกที่สาม ให้ท่านนำไปขายเพื่อเลี้ยงชีวิตให้อยู่เป็นสุขเถิด
ท่านอย่าได้ประมาทในบุญทั้งหลายซึ่งมีการให้ทานเป็นต้นเลย จงดำรงชีวิตที่ชอบธรรมด้วยความดี ละกรรมอันเลวทรามต่ำช้าเสีย และเลิกจากมิจฉาอาชีวะด้วย" กล่าวจบแล้วนาคราชก็เลื้อยจากไป
หมองูมีความสุขโสมนัสยิ่งนัก ได้ทำตามที่นาคราชบอกไว้ เลิกอาชีพหมองูซึ่งเบียดเบียนสัตว์ สะสมตั้งมั่นในบุญกุศลอย่างเดียวตลอดชีวิตเขาละโลกไปด้วยใจที่เชื่อมั่นในพระพุทธคุณ จึงเป็นผู้เพียบพร้อมไปด้วยสมบัติอันเป็นทิพย์
พระพุทธคุณนั้น เป็นพระคุณอันสะอาดบริสุทธิ์ กว้างขวาง ไร้ขอบเขต จึงมีอานุภาพยิ่งนัก ใจที่มืดดำด้วยความอาฆาตของนาคราชเพียงได้ยินคำกล่าวระลึกถึงพระพุทธคุณ กลับพลันเบิกบาน ชุ่มชื่น เต็มไปด้วยความเมตตาปรานี ใจที่มีดบอดด้วยมิจฉาทิฏฐิของหมองู ในที่สุดก็พบความกระจ่าง และตระหนักในพระพุทธคุณ
ระลึกถึงพระพุทธคุณ
ใจของเรา ซึ่งภาวนาคำสรรเสริญพระพุทธคุณว่า "สัมมาอะระหัง" อย่างเทิดทูนและนอบน้อม ย่อมได้รับผลอันน่ามหัศจรรย์เช่นกัน
เมื่อใดที่เราปรารถนาความสุข พึงระลึกถึงพระพุทธคุณเมื่อนั้น ระลึกถึงเพียงหนึ่งนาที ย่อมเป็นนาทีแห่งความสุข ระลึกถึงหนึ่งชั่วโมง ย่อมเป็นชั่วโมงแห่งความสุข หากแม้นระลึกถึงอย่างมิวายเว้นชีวิตจะเป็นสุขสักเพียงใด
 
ภาวนาธรรม หน้า 37-43
ภาพจาก เพจการบ้าน, pixabay
1
โฆษณา