12 ส.ค. 2022 เวลา 16:26
ชีวิตผันเปลี่ยนในวัย 20 เรียนจบมาได้พักอยู่บ้านแค่ 2 เดือน แล้วก็เร่งหางานเพราะเพื่อนได้งานก็เยอะแยะไปหมด
เห็นเพื่อนมีบริษัทรับสัมภาษณ์ มีสมัครงาน ได้งาน บ้างก็เปิดธุรกิจของตัวเอง บ้างก็อยู่บ้านเพราะที่บ้านไม่อยากให้ทำงาน แต่เราเองก็เกิดการอยากทำงานขึ้นมาบ้างเพราะเพื่อนได้งานกันเยอะแล้ว
ความอยากเกิดขึ้นเพราะเราไถ่ฟีดบ่อย ไม่ว่าจะอินสตาแกรม เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ แต่ละแอพก็เปลี่ยนอารมณ์เรา ณ ขณะนั้นตลอด ไม่ว่าจะขำ ดีใจ เครียด ซึ้ง หัวร้อน
แต่เพราะเราเกรดไม่ค่อยดี มหาลัยไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แถมยังฝึกงานที่โรงงานเริ่มต้น สุดท้ายก็ได้ทำงานที่ฝึกงานมา
**เรียน food sci มา อาชีพหรือที่ทำงานก็ไม่ได้หลากหลายเลย**
ย้อนนิดนึงว่า ที่บ้านไม่ได้มีแรงซัพพอร์ตเราเหมือนเพื่อนๆ ที่เรารู้จัก นอกจากจะต้องกู้เงินมาเรียนแล้ว ยังต้องทำงานพาร์ทไทม์อีก เพราะค่าครองชีพมันไม่พอน่ะนะ ฉะนั้น ตั้งแต่ ปี 2 เป็นต้นมาเราหางานพาร์ทไทม์ทำอยู่ตลอดเวลา
การเรียนก็ไม่ค่อยได้สนใจ เพราะไม่มีความฝัน มีความคิดแค่ว่าเรียนไปให้จบๆ
- สุดท้ายมานั่งซึมเพราะเกรดห่วยแตก
5 เดือนแรกของการทำงานเป็นพนักงานรายวัน แต่เข้าโครงการของรัฐบาลเลยได้ย้ายชื่อไปอยู่ในหมวดของรายเดือน (แต่ก็ทำงานงกๆ เหมือนรายวันอยู่ดี)
เราไม่เคยมีความคิดว่าเราเก่งเลย จนทำงานที่โรงงาน ทำงานในฐานะของพนักงานรายวันที่ jop description ของงานรับเริ่มตั้งแต่วุฒิ ม.6
พยายามหว่านสมัครงานไปทั่วทั้งประเทศ แต่เพราะ CV เราไม่ค่อยมีอะไร ไม่แปลกใจถ้าไม่มีการตอบกลับมา
จนวันหนึ่งเหมือนสวรรค์เข้าข้าง บุญบารมีที่มีน้อยแต่มีนะ นอนตอนพระบิณฑบาตบ่อยๆ ก็แสดงอำแดงออกมา
เราได้งานใหม่เป็นผู้ช่วยวิจัย
พี่ๆ ที่โรงงานเก่าก็พยายามเสนอตำแหน่งใหม่ให้เรา คิดว่าเค้าคงไม่อยากให้เราไปเพราะเริ่มสนิทกันแล้ว
ช่วงเวลาประมาณ 10 วัน เราคิดไม่ตก เราชอบความสัมพันธ์ของพี่ๆ ที่ทำงานเก่ามาก เรารู้จักกันมามากกว่า 9 เดือน รวมตอนฝึกงานด้วย แต่เพราะเนื้องาน เวลาของงาน ทำให้เราไม่มีชีวิตของตัวเองที่เราอยากมีมาตลอด แค่สักนิดก็ไม่มี
สุดท้ายเราก็ย้ายงานมาทำงานที่เชียงใหม่
เชียงใหม่ไม่เคยอยู่ในหัวเรามาก่อน เพราะห่างจากบ้านมากๆ ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะได้มาเพราะค่าครองชีพที่สูง และคนกรุงเทพช่างชอบมาอาศัยอยู่ในเชียงใหม่เหลือเกิน การกินอยู่ สภาพสังคมมันจะต้องหรูหราเกินกว่าเราจะเข้าใจได้
อาทิตย์แรกได้แต่ขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ กับพี่ผู้ช่วยวิจัยคนก่อน เรื่องเชียงใหม่เรา = 0
ช่วงแรกเราไม่เคยย่างกรายออกจากอาณาเขตเกิน 3 กิโลเมตรนับจากหอพักเลย จนมีพี่แนะนำมาว่าถ้ามีเวลาก็ลองไปดู ไม่ไกลจากหอพักมากนัก แถมมันยังตระการตาอีก แล้วเราก็ไป แต่ก็พับเก็บไปเพราะกลัวรถ และเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยเลยสักนิด
ในหัวเรากลัวมากกับการต้องหางานใหม่อีก เพราะการย้ายที่พัก 1 ครั้งใช้เงินเยอะพอสมควร
นับจากวันที่ตัดสินใจย้าย จนวันนี้อีก 45 วันจะครบ 1 ปีที่ทำงานเป็นผู้ช่วยมา
เงินเดือนก็คือเงินเดือนพื้นฐานของป.ตรี ตามกำหนดของรัฐบาล ใช้จ่ายแบบเดือนชนเดือน แถมในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้เราต้องแบ่งเงินให้กับครอบครัวด้วย เพราะเกิดมาไม่เคยมีเดือนที่ได้กินอย่างที่อยากได้กินเต็มเดือน ไม่เคยได้เที่ยวอย่างที่ครอบครัวอื่นมีไปเที่ยวบ้าง ไม่มีรถยนต์ใช้ ได้แต่อาศัยคนในหมู่บ้านออกไปในวันที่ไม่มีรถสาธารณะ
เราเลยกลัวการไม่มีเงินเก็บมากๆ ในตอนที่เราต้องเริ่มทำงานตั้งแต่ ปี 2
หวังว่าชีวิตการทำงาน ที่เริ่มต้นเป็นต้นอ่อนเล็กๆ ด้วยการทำงานพาร์ไทม์มาตั้งแต่เรียน จนถึงตอนนี้ที่ต้องทำงานเต็มตัว จะมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่กล้าขอให้ร่ำรวยล้นฟ้าเหมือนอย่างตอนเด็ก แต่แค่ไม่อยากให้ตัวเองต้องอดอยากก็พอ
โฆษณา