14 ส.ค. 2022 เวลา 03:00 • ไลฟ์สไตล์
คนที่น่าอิจฉาที่สุด
ถ้าเลือกได้ ใครหลายคนคงอยากมีหลายตัวเลือก ยิ่งเยอะยิ่งดี เพื่อที่จะได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับ "ตัวเอง" แต่แล้วทำไมการมีตัวเลือกมากมายนั้น ยิ่งทำให้เราตัดสินใจยากขึ้นกว่าเดิม หรือเป็นเพราะแท้จริงแล้วเรายังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่
ในปัจจุบันนี้ที่คนเราไม่ให้ค่ากับตัวเอง จะทำอย่างไรให้เรารู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองและเพิ่มคุณค่าของตัวเองได้..
คนที่น่าอิจฉาที่สุด
คำนิยามของคำว่า คุณค่า ?
คุณค่าคือคุณลักษณะ คุณลักษณะอันมีค่า
มีค่า แปลว่าต้องเป็นของดี
ไม่มีใครบอกของมีค่าไม่ใช่ของดี เพราะฉะนั้นแปลว่าคุณค่าคือคุณลักษณะอันดี
แล้วดีคืออะไร ?
ขึ้นชื่อว่าดี ดีย่อมต้องมีประโยชน์เพราะฉะนั้นว่าคุณค่าย่อมแปลว่าบุคคลอาจมีคุณค่า คือบุคคลผู้มีคุณลักษณะอันเป็นประโยชน์ต่อตนเอง หรือผู้อื่น
กว่าที่เราจะเริ่มคิดถึงคำถามเนี้ยคำถามที่ว่าเรามีคุณค่ามากน้อยแค่ไหน เคยถามตัวเองไหมว่าทุกวันนี้ฉันมีค่ามากน้อยแค่ไหน
เริ่มคิดตอนอายุเท่าไหร่กันครับ 5 ขวบคิดไหม 6 ขวบคิดไหม 7 ขวบคิดไหม 18 ขึ้นไหม มีบ้างหนักสุดก็ตอน 30 เมื่อทำงานเป็นสักพักก็เริ่มถามตัวเองว่าเรามีค่ามากน้อยแค่ไหน
คุณลักษณะอันเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นนั้น ย่อมมีพื้นฐานมาจากความรู้ความเข้าใจที่เรามีอยู่ เมื่อการที่เราประกอบความรู้ประสบการณ์ทั้งชีวิตของเรา เราเรียนรู้เพื่อที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่งในชีวิต เมื่อมีความรู้จึงสร้างประโยชน์ได้ อย่างน้อยที่สุดคุณก็ผ่านการศึกษาภาคบังคับมา
แล้วทำไมเราจะต้องให้คุณค่าตัวเองในเมื่อมีความรู้เราก็น่าจะมีค่าอยู่บ้าง
แต่มีมากหรือมีน้อยนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะฉะนั้นทำไมจึงต้องให้คุณค่าตัวเองเพราะการให้ค่านั้นอาจจะเป็นอุปทานก็ได้ เราอาจจะให้คุณค่าตัวเองสูงกว่าที่เป็น หรือให้คุณค่าตัวเองต่ำกว่าที่เป็นก็เป็นได้
การให้คุณค่าตัวเองจึงเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยง
งั้นเรามารู้จักตัวเองดีกว่า เรายืนตรงไหนในเรื่องนี้ เราเป็นใครในเกมนี้ เกมที่เรียกว่าชีวิตของเรา
ทุกคนล้วนมีจุดหมาย ตอนเกิดมาเราว่างเปล่า เราไม่มีความรู้เรายังไม่มีความชอบยังไม่มีรสนิยม เพราะฉะนั้นความรู้ความต้องการความสามารถของเรานั้น รสนิยมของเรานั้นสะท้อนจากการที่ตัวเราสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมโดยเสมอ
เราเกิดมาว่างเปล่าล้วนไม่มีสิ่งใดเป็นของเราทุกอย่างล้วนเป็นอุปทานความหมายนั้นก็คือ เมื่อเราได้สัมผัสกับความรู้ต่าง ๆ ในชีวิตเราจึงเริ่มเลือกสิ่งที่ชอบ
บางคนชอบกินเผ็ดบางไม่ชอบกินเผ็ด
คนที่ไม่ชอบกินเผ็ดก็เพราะเคยกินแล้ว เรารู้ว่าเราชอบเพลงร็อคก็เพราะว่าเราเคยฟังเพลงป๊อป เพลงอาร์แอนด์ดี เพลงร็อคแล้ว จึงบอกได้ว่าฉันชอบแบบนี้มากที่สุด
เราต้องมีประสบการณ์ก่อนเราจึงเลือกได้ว่าเราเป็นสิ่งใด เราล้วนสร้างความคิดเกี่ยวกับตัวเราขึ้นมาจากสิ่งที่เราไปสัมผัส เพราะฉะนั้นความรู้ที่เรามีย่อมเป็นความรู้เมื่อเราได้สัมผัสมาก เรียนรู้มากทดลองมาก เข้าไปสัมผัสมาก เราย่อมจะเลือกเอาสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีสิ่งที่เป็นจริตของเราไว้กับตัวเรา จนสร้างขึ้นมาเป็นตัวเราในที่สุด
สิ่งที่อยากจะเน้นย้ำ มีอยู่ใน 2 ประเด็น
ประเด็นที่ 1 คือเราจะรู้คุณค่าของตัวเองได้อย่างไร
ประเด็นที่ 2 ก็คือเราจะสร้างคุณค่าของตัวเองเพิ่มได้อย่างไร
ทุกคนอยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้นดีขึ้นและดีขึ้น เพราะฉะนั้นรู้จุดยืนของตัวเองและหาจุดหมายให้เจอ ทีนี้เราจะรู้จักตัวเองได้อย่างไร ?
เคยได้ยินที่เขาบอกว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ แต่แท้จริงนั้น ไม่เคยมีใครมีจินตนาการเพียงอย่างเดียวแต่ไม่มีความรู้ไปรอด พื้นฐานสิ่งสำคัญการเรียนรู้พื้นฐานจึงสำคัญ
มีกระจกอยู่ข้างหน้าข้างหลังซ้ายขวาหน้าหลังเพื่อให้รู้ว่าเราควรรู้ตัวว่าเราทำอะไรอยู่ จึงเป็นการง่ายมากถ้าเราจะรู้จักตัวเองด้วยการเอาภาพสะท้อนของคนอื่นมาสะท้อนตัวเราเอง
บางครั้งเราเองก็เคยเข้าใจว่าเราเก่งเรื่องบางเรื่อง เข้าใจว่าตัวเองเก่งมาก คิดว่าตัวเองทำได้ดีในเรื่อง ๆ หนึ่งเพราะว่าคนรอบตัวในแถวบ้านหรือเพื่อนฝูงก็ไม่ได้เก่งเรื่องนี้ไปกับเรา จนกระทั่งเราอาจจะเข้าไปในพื้นที่ใหม่สังคมใหม่ ๆ เราอาจจะเจอคนที่เก่งกว่า เราคิดว่าเราเก่งแต่ในบรรดาคนเก่งมันก็มีคนเก่งยิ่งกว่า
การเปรียบเทียบจึงง่ายมันทำให้เรารู้ตัวว่าเราอยู่ตรงไหนแล้วเราต้องสร้างตัวเองอย่างไร
เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนใช้เวลาในการสังเกตเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่น เราคิดแต่เรื่องของเรา เราทำงานของเราเองคนเดียวหลายคนบอกว่าผมอยากเป็นตัวของตัวเองเลยไม่เคยให้ความสำคัญกับการศึกษาสิ่งรอบตัวอันเป็นความรู้พื้นฐาน
สิ่งที่ง่ายที่สุดในการที่จะทำให้ตัวเองรู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหน
ก็คือมองไปรอบ ๆ เมื่อคุณมองไปรอบ ๆ
คุณจะรอดคุณจะเริ่มสร้างภาพได้ว่าอะไรจุดยืนของเรา เราอยู่ที่ไหน เรามีความสามารถระดับไหน และเริ่มมาประเมินตัวเองได้เรามีความสามารถระดับนี้ เราเหมาะสมกับสิ่งใด
ทุกอย่างที่เราทำลงไปมันใช้เวลาและเวลาเป็นทรัพยากรที่แพงที่สุดในโลก ถ้าคุณทำสิ่งใดและไม่มีประโยชน์ทำไมต้องทำ
1
ชีวิตเนี่ยมีทางเลือกเยอะมาก เราเคยคิดว่าทางเลือกที่เยอะมาก หรือความรู้ที่เยอะมาก หรืออินเทอร์เน็ตจะช่วยเราได้มากในการที่เราจะแสวงหาตัวเอง
แต่จริง ๆ เมื่อทางเลือกมันเยอะไปหมดเนี่ย บางครั้งการที่เราไม่รู้ใจตัวเองดีพอมันกลับทำให้เราเลือกอะไรไม่ได้เลย
เหมือนกับการเลือกหนังภาพยนตร์สักเรื่อง เราเคยไหมตั้งใจจะดูหนังกลับบ้านเราจะดูหนังเอาป๊อปคอร์นมาตั้งถังหนึ่งเอาน้ำมาแก้วหนึ่งนั่งลงบนโซฟาหย่อนขาปุ๊บหยิบรีโมท เลือกหนังดู 30 นาทีผ่านไปเลือกหนังดูไม่ได้
นี่คือปัญหาของตัวเลือก เพราะเรารู้จักตัวเองไม่มากพอ บางคนบอกว่าก็ไม่เป็นไรฉันก็หาไปเรื่อย ๆ แต่เราลืมไปอย่างหนึ่งว่าสุดท้ายเราเสียเวลาไป 30 นาที กับการใช้ความคิดอย่างเดียว
แล้ว 30 นาทีนั้นทำอะไรได้ต้องมากมาย เพราะฉะนั้นการรู้ตัวเองจึงสำคัญ !
เพราะฉะนั้นจงเรียนรู้ให้มากที่สุดอย่าละเลยพื้นฐานอย่ามองข้ามขั้นตอนทางสู่ความสำเร็จ ไม่มีลิฟท์ มีแต่บันได
เพราะฉะนั้นเราต้องเดินพื้นฐานให้แน่นใช้เวลาให้คุ้มค่า ได้ทดลองทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะประสบการตรงด้วยตัวเองและเลือกว่าสิ่งใดดีที่สุด วิธีเลือกก็ง่ายมากดูว่าตัวเองเหมาะสมกับสิ่งใด
เมื่อเรากำหนดเป้าหมายเราแล้ว เรารู้ว่าเราอยู่ระยะห่างกับเป้าหมายเท่าไร มันจึงเป็นการง่ายที่เราจะเดินทาง
เปรียบง่าย ๆ เหมือนกับเราอยากไปเชียงใหม่ แต่เราอยู่กรุงเทพฯมันห่างกัน 700 กิโลเมตร เรามีรถอยู่คันหนึ่ง เราต้องใช้น้ำมันประมาณ 2 ถังเพราะถังนึงไปได้ 350 กิโลเมตร สมมุติแล้วน้ำมันถังละ 1,000 บาท เราก็ต้องเตรียมเงิน 2,000 บาท เรารู้ว่าต้องใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 7 ชั่วโมง เราก็ต้องแวะกินข้าวระหว่างทาง เราก็ต้องเตรียมเงินกินข้าวไปด้วย
นั่นคือเสบียงของเราเพื่อจะไปถึงจุดหมาย
วิธีง่าย ๆ ก็คือเมื่อเรารู้เมื่อเราสังเกตตัวเองว่าเรายืนตรงไหนในเรื่องนี้แล้วเป้าเราอยู่ตรงนี้ก็แค่เปลี่ยนเสบียงที่พอที่ตัวเองจะไปก็แค่นั้นเอง
ในชีวิตมันเป็นไปไม่ได้ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จในแบบที่ตัวเองต้องการ
อย่างที่หลาย ๆ คนเคยได้ยินว่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ความพยายามนั้นเพียงแต่เพิ่มโอกาสในการที่คุณจะสำเร็จได้มากขึ้นแต่ไม่การันตีผลสำเร็จ
นอกจากรู้ตัวเองตัวเองต้องการอะไรการรู้ว่าตัวเองยืนตรงไหนและจะอยู่ยังไงในสถานการณ์ที่ไม่ชอบใจเป็นยังไงบ้าง
จงเลือกให้เป็นว่าอะไรจำเป็นต้องอยู่กับมันและอะไรไม่จำเป็น
เปรียบเทียบง่าย ๆ กับเรื่องเพื่อนมีเพื่อนชั่ว ๆ อยู่คนหนึ่งซึ่งรักกันมานาน แล้วอยู่มาวันนึงมันก็เดินไปชั่วคือมันดีกับเรามาตลอดนะ ไม่รู้มันไปเห็นอะไรมาแล้วชีวิตมันอยู่ ๆ มันก็ชั่ว
อีกอย่างหนึ่งเปรียบเทียบกับเจ้านายที่ชั่วเหมือนกัน แต่ ณ ขณะนั้นสถานการณ์นี้คือตลาดงานแย่มาก ถ้าเราลาออกจากที่ทำงาน เราจะตกงานแล้วเราจะเลี้ยงชีพตัวเองไม่ได้คำถามคือ อะไรจำเป็นกว่ากัน การอยู่กับเจ้านายคนนี้หรือการอยู่กับเพื่อน
แน่นอนว่าการอยู่กับเจ้านายย่อมจำเป็นกว่า เพราะการทำงานจุดมุ่งหมายของการทำงานคือการยังชีพ เราต้องมีชีวิตอยู่เราอยู่ด้วยเงินจริง ๆ แล้วอยู่ด้วยปัจจัย 4 ซึ่งปัจจัย 4 ก็ต้องใช้เงินซื้อ ก็เลยต้องมีเงินเพราะถ้าไม่มีเงินก็ซื้อปัจจัย 4 ไม่ได้
เพราะฉะนั้นการรู้ตัวคือต้องรู้ด้วยว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบไหนและต้องจัดการยังไงกับมันอะไร จำเป็นตัองเก็บไว้ อะไรไม่จำเป็นตัดออกไป มันไม่ใช่แค่เราเพราะว่าการพูดถึงการรู้ตัวเรามักจะพูดแค่ความต้องการของเรา ครับเราต้องการอะไรบ้างในชีวิตแต่เรามักจะลืมไปว่าเราต้องรู้ด้วยอะไร อยู่ในฐานะอะไร
เรามีความสามารถที่จะเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเราได้ เรามีความสามารถที่จะยอมรับความจริงได้ จริงแต่บางครั้งเรารู้สึกว่ามันยากเหลือเกิน
เพราะฉะนั้นมองสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง อย่าให้ค่าตัวเองสูงไป อย่าให้ค่าตัวเองต่ำไป จงมองจงเรียนรู้ให้มาก และเอาสะท้อนกลับมามองตัวเอง
1
จงทำตัวให้เป็นคนที่ถูกสอนได้ง่ายและในขณะเดียวกันก็สอนตัวเองได้เช่นเดียวกัน"
1
#Wasabi ขอเพียงมีส่วนเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คุณ!
"เจริญเติบโต ก้าวหน้า สำเร็จ อย่างภาคภูมิใจ"
แหล่งที่มา / แหล่งอ้างอิง
#สาระจี๊ดจี๊ด #Wasabi #ความรู้ขึ้นสมอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา