15 ส.ค. 2022 เวลา 08:06 • กีฬา
ฟิลิปโป้ อินซากี้ ที่สุดในชีวิตคือคว้าแชมเปี้ยนส์ลีกในวัย 33
ถ้าหากวัดความยอดเยี่ยมของนักเตะคนหนึ่งจากการวัดจากถ้วยแชมป์ที่ได้มาครองล่ะก็เชื่อว่า “ฟิลิปโป้ อินซากี้” จะต้องติดอันดับด้วยอย่างแน่นอน
กองหน้าร่างบอบบางจนเหมือนแทบจะปลิวไปตามแรงลมได้ เป็นดาวยิงอิตาเลียนที่มีความแตกต่างกับศูนย์หน้าทั่วไป ไม่ใช่ดาวยิงที่สมบูรณ์แบบ แรงปะทะสู้กับกองหลังตัวใหญ่ๆ ไม่ได้ แต่มีจุดเด่นตรงความชาญฉลาด เอาตัวรอด และแค่พริบตาก็มักทำประตูได้เสมอ
จะเรียกว่าเป็น “เพชฌฆาต 5 หลา” ก็ว่าได้ เพราะในกรอบเขตโทษเขาเป็นตัวอันตรายอยู่เสมอ
“ฟิลิปโป้ อินซากี้” คว้าแชมป์กัลโช เซเรียอา 3 สมัย โดยเป็นแชมป์กับ ยูเวนตุส เมื่อฤดูกาล 1997-98 และกับเอซี มิลาน ในฤดูกาล 2003-04 และ 2010-11
นอกจากนั้นยังได้แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก 2 สมัยในฤดูกาล 2002-03 และ 2006-07
ยังไม่นับรวมกับการเป็นแชมป์อิตาเลียน คัพ 1 สมัย แชมป์อิตาเลียน ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพอีก 2 สมัย รวมไปถึงแชมป์เวิลด์ คัพ 2006
แต่หากถามถึงแชมป์ที่เป็นความทรงจำนอกเหนือจากการเป็น “แชมป์โลก” แล้ว อินซากี้ยอมรับว่าการคว้าแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีกในฤดูกาล 2006-07 คือหนึ่งในที่สุดของอาชีพค้าแข้ง
เหตุผลสำคัญก็คือเป็นการคว้าแชมป์ตอนที่เขามีอายุ 33 แล้ว แถมยังเป็นฤดูกาลที่เขาอยู่ในช่วงตกต่ำของอาชีพค้าแข้งเสียด้วย
แม้จะเป็นแชมป์โลก แต่ในฤดูกาลนั้นกับ “ปีศาจแดงดำ” ออกมาไม่ดีเอาเสียเลย เขาทำได้เพียงประตูเดียวในนัดเปิดฤดูกาลกับลาซิโอ แต่หลังจากนั้นจนถึงเดือนม.ค.ยิงประตูไม่ได้เลย โดยประตูที่สองที่ทำได้คือวันที่ 28 ม.ค..ในเกมที่เอาชนะปาร์มา 1-0
ฟอร์มที่ตกต่ำของดาวยิงทีมชาติอิตาลีทำให้คาร์โล อันเชล็อตติ หันไปให้โอกาสกับอัลแบร์โต จิลาร์ดิโน ในขณะที่ตัวหลักในเกมรุกยังเป็น โรนัลโด้ และ กาก้า สองดาวเตะทีมชาติบราซิล
หากแต่ฟอร์มในลีกอาจจะตกต่ำ แต่ “ปีศาจแดงดำ” ไปได้ดีในยูฟา แชมเปียนส์ลีก
ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย มิลานเอาชนะทีมสุดแกร่งอย่างบาเยิร์น มิวนิก ลงได้ด้วยประตูรวม 4-2 และผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือกเจอกับแมนฯยู นัดแรก “ผีแดง” เล่นในบ้านเอาชนะ 3-2 ประตู แต่เมื่อกลับมาเล่นที่มิลาน “ปีศาจแดงดำ” เอาชนะด้วยประตูรวม 5-3 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับลิเวอร์พูล
นัดชิงชนะเลิศเล่นกันที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ มิลานที่มีฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ ในเซเรียอา เอาชนะ “หงส์แดง” 2-1 ประตู โดยฟิลิปโป้ อินซากี้ เหมาทำคนเดียว 2 ประตูส่งให้มิลานเป็นเจ้ายุโรป
และมีผลงานยิงในแชมเปียนส์ลีกได้ทั้งหมด 6 ประตู (รวม 2 ประตูในรอบคัดเลือก)
“มันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากนะสำหรับกองหน้าที่ยิงได้ 2 ประตูในนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก และกับผมเองที่ยิงประตูตลอดฤดูกาลแทบไม่ได้เลย”
ความสำเร็จในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนั้นทำให้อินซากี้ค้าแข้งไปอีกหลายปีก่อนจะแขวนสตั๊ดในวัย 38 กับ “ปีศาจแดงดำ” และมีผลงานยิงให้มิลานทั้งหมด 126 ประตูกับอีก 34 แอสซิสต์ ในการลงเล่น 299 นัด
เป็นหนึ่งในกองหน้าขวัญใจแฟนบอลอิตาเลียนอีกคนหนึ่ง
โฆษณา