14 ส.ค. 2022 เวลา 08:31 • ครอบครัว & เด็ก
1 Day trip พาเด็กน้อยนั่งรถไฟตะลุยเยาวราช
เมื่อลูกชายสุดที่เลิฟผู้ชื่นชอบรถไฟมากถึงมากที่สุด ขอแม่กับพ่อให้พาไปนั่งรถไฟ บอกว่า 4 ขวบควินน์ยังไม่ได้นั่งรถไฟเลยนะแม่ เดี๋ยวก่อนลู้กกกก เราไปมาแล้วตอนปีที่แล้ว พี่เค้าบอกนั้นมันตอน 3 ขวบ ตอนที่ควินน์ 4 ขวบยังไม่ได้ไปเลย
รอบนี้ไม่มีแพลนล่วงหน้าเลยจ้า แม่ปั่นงานเสร็จก็กระโดดขึ้นรถ แล้วหา MRT ที่ใกล้ที่สุด ที่มีที่จอดรถ เอาแบบไม่เข้าห้างเพราะคนน่าจะเยอะแล้ว เลยมาจบที่ MRT พระราม 9 และคิดว่างั้นทริปนี้ไปหากินที่เยาวราชละกัน แล้วปิดท้ายด้วยนั่งรถไฟปู๊นๆ กลับจากหัวลำโพงมาที่สถานีรถไฟอโศก ซึ่งจะอยู่ตรง MRT พระราม 9 พอดี
แพลนเราก็จะเป็นประมาณนี้ วางแผนบนรถนั้นแหละ ว่าจะไปที่ไหนบ้าง
MRT เพชรบุรี
ขับรถจากบ้านมาจอดรถที่ MRT เพชรบุรีเลย เราจะได้รับบัตรจอดรถมา แนะนำว่าให้ประทับตาบัตรจอดรถด้านในสถานีเพชรบุรีเลย เพราะว่าบัตรจอดรถนี้เป็นบัตรรุ่นเก่า ที่จะมีเครื่องประทับตราบัตรจอดรถที่สถานีเก่าเท่านั้น เราไม่สามารถไปประทับตราบัตรได้ที่สถานีวัดมังกร ค่าจอดรถเราจอดประมาณ 4 ชม. จ่ายไปประมาณ 30 บาท
แค่บันไดเลื่อนสูงมากๆๆ นางก็ตื่นเต้นแล้ว อยากเที่ยวแหละดูออก
เริ่มต้นทริปกันได้เลย เริ่มจากการซื้อบัตรให้พี่ควินน์ เพราะว่าพ่อแม่มีบัตรอยู่แล้วก็เหลือของพี่ควินน์ ถ้าเด็กๆ ที่สูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร จะไม่เสียค่าโดยสาร แต่พี่ควินน์สูง 108 เซนติเมตร เลยจะเสีย ค่าโดยสารในราคาลด 50% ของราคาค่าโดยสารปกติ
ภูมิใจอวดเหรียญของตัวเอง ความสุขของเด็กน้อย
รอบนี้ลูกโตกว่าครั้งก่อนมาก เมื่อก่อนต้องอุ้มเข้าไปเวลาผ่าน แต่แล้วนี้ขอแตะเหรียญแล้วเดินเอง คงเป็นประสบการณ์ใหม่ๆของพี่เค้า ที่พ่อแม่อย่างเราก็ได้แต่เฝ้ามองเค้าเติบโตไปทีละนิด
รถไฟจะมายังนะ รถไฟจะมาทางไหนนะ ไม่ต้องอุ้มเลยค่ะ อยากเดินเข้ารถไฟเอง ระหว่างที่รอรถไฟ เราก็แอบสอนสิ่งที่ควรทำเวลาที่จะขึ้นลงรถไฟไปในตัว เช่น ให้เค้ารอรถไฟหลังเส้น เวลารถไฟเปิดประตูแล้วให้คนด้านในรถออกไปก่อน เราค่อยเดินเข้า ตอนนี้เค้าอาจจะยังไม่ได้เข้าใจ 100 % แต่เชื่อว่าการพาเค้าเที่ยวบ่อยๆ แล้วสอนเค้าไปเรื่อยๆ วันนึงเค้าจะจำและนำไปใข้เอง
พบเด็กตื่นเต้น 1 อัตราค่ะคุณ เล่าโน่น เล่านี้ตลอดจนทางเราต้องบอกให้ลดเสียงลงหน่อยลูก เราอยู่บนรถไฟ เสียงดังไม่ได้ หูยยย รถไฟมันวิ่งเร็วมากเลยนะหม่าม้า มันวิ่งผ่านอุโมงค์มันเลยมืดๆนะแม่ แล้วเราจะลงสถานีอะไรอ่ะแม่ พอบอกว่า BL29 สถานีวัดมังกร ที่นี้ละ Countdown ใหญ่ ช่วยมากในการหากิจกรรมนี้ให้ทำ เพราะจะได้ไม่ถามว่า ถึงยังแม่ เมื่อไหร่จะถึงอ่ะแม่
มุ่งหน้าทางออกสถานีวัดมังกรกันเลย สถานีนี้ก็จะตกแต่งแนวจีนๆหน่อย ให้เข้ากับสถานีที่จะพาเราไปสู่ China Town
Zongter (ซงเต๋อ)
ออกจากสถานีวัดมังกรแล้วให้เลี้ยวมาทางขวาจะเจอทางม้าลายที่จะตรงกับทางเข้าตลาดเก่า เงยหน้ามองจะเห็นป้ายร้าน Zongter (ซงเต๋อ) ร้านแรกที่เราจะแวะกินข้าวกลางวันกัน
ร้านซงเต๋อจะเป็นร้านคาเฟ่สไตล์จีน ไม่ต้องบอกก็รู้เนอะ ดูจากการตกแต่ง ป้ายหน้าร้านจะทำเหมือน Backdrop ขนาดใหญ่ เหมาะกับการถ่ายรูปมาก สายถ่ายรูปต้องถูกใจสิ่งนี้ ส่วนสายกินอย่างเรามุ่งหน้าสู่การสั่งอาหารอย่างเดียวค่ะ ที่นี่จะมีที่ให้นั่งรับประทานอาหาร 2 ชั้น เมนูก็จะเป็นแนวติ่มซ่ำ ในราคาที่ไม่แรงเลย วิธีสั่งอาหารพนักงานจะให้ใบรายการอาหารเรามา เอามานั่งเลือกที่โต๊ะ แล้วก็เดินไปสั่งที่เคาเตอร์ จ่ายเงิน แล้วก็รออาหารมาเสิร์ฟได้เลย
อาหารน่ากินมาก น้ำเราสั่งเป็นน้ำเก๊กฮวยเผื่อคุณลูกทานด้วย แล้วก็น้ำชาจีน น้ำเก๊กฮวยหอมไม่หวานมาก อร่อย
เมนูที่เราสั่งก็จะมีกุ่ยช่ายทอด ทอดมาแบบกรอบไม่อมน้ำมัน น้ำจิ้มก็คือเปรี้ยวหวานกำลังดี หมูสามชั้นผัดไชโป้ว จานนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมข้าวสวยร้อนๆ เค้าผัดมาแบบสไตล์จีนเลย แห้งๆไม่มีน้ำมัน แต่หอมกระทะ เค้ามีพริกน้ำปลามาด้วย จัดพริกราดไปบนข้าวสวยร้อน กินพร้อมกับ หมูผัดไชโป้ว โอ๊ยฟินคะ
ซาลาเปาทอดลาวา จานนี้ต้องระวังลวกปาก เตือนแล้วนะ เพราะลวกปากมาแล้ว ขนมจีนก็ราดมาพร้อมน้ำจิ้มเลย คือลูกชอบขนมจีบมาก แต่กินแต่ไส้นะ แป้งไม่กิน แม่กับพ่อก็รับแป้งห่อขนมจีบไป เกี๊ยวกุ้งก็ดี ดีไปหมดเลย แต่ไม่กล้าสั่งเยอะ เพราะว่ามีร้านที่ 2 3 4 อีก เดี๋ยวจะจุกเกินไป
ทางเราก็ได้ถ่ายรูปครอบครัวเป็นที่ระลึก ลูกชายก็คือให้ความร่วมมือมากค่ะ ช่วงนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ หาหน้าดีๆในรูปแทบไม่มี ต้องมีหน้าอะไรแบบนี้ แต่ยังดีที่นางยอมถ่ายรูปนะ บางวันก็ติสแตกไปเลย ไม่เอาควินน์ไม่ถ่ายรูป
มุ่งหน้าสู่ร้านถัดไป ซึ่งต้องเดินผ่านตลาดเก่า ที่ร้านขายอาหารเยอะมาก จะโดนตกไปหลายร้านแล้วก็รอดมาได้ จนมาถึงร้านขายลูกชิ้นกุ้ง แล้วเราเป็นคนที่พ่ายแพ้ต่อลูกชิ้นกุ้งทุกชนิดมีหรือจะพลาด มีให้เลือก กุ้งเล็ก กับกุ้งใหญ่ ถ้ากุ้งใหญ่กุ้งจะเยอะกว่า จะรออะไร จัดกุ้งใหญ่ไปเลยค่ะ ครึ่งโล
Lhong Tou Cafe (หลงโถว คาเฟ่)
ร้านที่ 2 ของเราคือ Lhong Tou Cafe (หลงโถว คาเฟ่) ไปแอบหาข้อมูลมาชื่อ หลงโถว แปลว่า “หัวมังกร” เพราะร้านนี้ตั้งอยู่ตรงต้นถนนเยาวราช เลยเป็นที่มาของชื่อร้าน ร้านนี้ก็เป็นคาเฟ่สไตล์จีนอีกแล้ว แต่ว่าจะมาในแนวจีนโมเดิร์น จีนสมัยใหม่นิดนึง การจัดที่นั่งเป็นการใช้พื้นที่ร้านที่มีเพียง 1 ห้องแถวได้คุ้มค่ามาก โดยการมีโต๊ะ 2 ชั้น ให้ทายว่าลูกชายและสามีของช้านจะเลือกนั่งตรงไหน
ถูกค่ะ พวกเค้าเลือกที่จะนั่งที่ชั้น 2 โต๊ะมีตั้งเยอะทำไมต้องเลือกชั้น 2 เค้ารู้กันใช่ไหมว่าแม่กลัวความสูง แล้วๆๆ บันไดก็คือไม่ได้ปีนสะดวกนะ บันไดก็คือชันมาก พอขึ้นไปแล้วก็ได้แต่ใจสั่นว่า แล้วตอนนี้ลงแม่จะลงยัง จะรูดแล้วร่วงลงไปเลยไหม ฮาเลยนะ ถ้าเป็นอย่างนั้น
สามีบอกว่าร้านนี้ขอเบาๆ นะ ร้านเมื่อกี้ ข้าวมาแล้ว ก็เลยสั่งเกี๊ยวทอด กับ มินิเปาหมูแดง เครื่องดื่มก็จะเป็นชาเย็น แล้วก็กาแฟ Dirty ชาเย็นหอมชามาก แล้วก็ไม่หวานโดด กินได้แบบไม่มีเลี่ยนเลย ส่วนกาแฟ Dirty ก็อร่อย กาแฟเค้าใช้ได้เลย
กาแฟ Dirty เสิร์ฟมาพร้อมสิ่งนี้ รู้จักกันไหม ว่ามันคืออะไร มันคือน้ำอุทัยทิพย์ เด็กๆได้กินบ่อยมาก โตมาน้ำนี้ก็หายไปจากวังวนของชีวิตไปพักใหญ่ ได้กินวันนี้อีกรอบ ก็ทำให้คิดถึงวัยเด็กเหมือนกันนะ สมัยวัยรุ่นต้องมีอ่ะ เอาน้ำยาอุทัยทิพย์มาทาปาก ทาแก้ม ใช้แทน Tint สมัยนี้ ก่อน Tint จะดังน้ำยาอุทัยทิพย์เค้ามาก่อนกาลนะ
AS IS Cafe
อาหารเริ่มไม่ไหวแล้วร้านสุดท้ายขอปิดท้ายด้วยกาแฟ ร้านชื่อ AS IS Cafe เกือบเดินเลยร้านเพราะป้ายที่ใหญ่กว่าคือ โค้วเอียะฮง ถ้าไม่เห็นป้าย As is ที่จะกระจก ก็คงเดินผ่านไปแล้ว ร้าน ตกแต่งสไตล์ดิบๆ Industial นิดนึง เบาะที่นั่งจะเป็นเบาะหนังสีน้ำตาล เข้ากับบรรยากาศของร้าน
สั่งกาแฟเสร็จ ลูกบอกหม่าม้าถ่ายรูปให้ควินน์กับป๊าป๊าหน่อย ควินน์จะเป็น Monster เอาให้สบายใจไปเลยค่ะคุณ 2 คน หน้าเหมือนกันแล้วยังจะถ่ายรูปคู่ให้แม่อิจฉาอีก
จิบกาแฟ นั่งพักเหนื่อยเสร็จเราก็มุ่งหน้าสู่สถานีหัวลำโพง ด้วยการเดินอีกครั้ง เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ จริงๆ ก่อนถึงคลองผดุงกรุงเกษมมีร้านกาแฟตรงหัวมุมอีกร้านด้วยนะ น่านั่งด้วย แต่จุดนี้ร่างกายเริ่มบอกว่ากาแฟแก้วที่ 4 ของวันไม่ได้!!! เลยต้องพักแล้วจดเข้า List ไว้รอบหน้าเจอกัน เชื่อว่า 5 ขวบลูกช้านต้องขอมานั่งรถไฟอีก
ผ่านตรงแยกหัวลำโพงรถติด เลยคิดว่า คิดถูกแล้วที่ไม่ได้เอารถมาด้วย ไม่งั้นคงไม่ได้แวะหลายๆที่แบบนี้
สถานีรถไฟหัวลำโพง
ตอนมาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงก็มีลุ้นอยู่มาก ว่ามันจะเปิดให้บริการไหม เพราะเคยได้ยินข่าวว่าเค้าจะปิดสถานีรถไฟหัวลำโพง พอมาถึง ไม่ปิด ดีใจมากค่ะ ถ้าปิดจริงๆคงน่าเสียดายมาก มันอาจจะดูเก่า แต่มันก็เป็นสถานีที่มีเรื่องราวและอยู่คู่กับเรามาหลายยุคหลายสมัยแล้ว เดินเข้าไปรู้สึกได้ถึงความขลัง ความอลังการใหญ่โตของสถานีนี้
รีบวิ่งไปเข้าคิวซื้อตั๋วก่อนเลยค่ะ บอกพนักงานขายตั๋วว่าไปลงสถานีอโศก พนักงานขายตั๋วบอกว่าค่ารถไฟ 6 บาท นี่แบบถามซ้ำ เท่าไหร่นะคะ 6 บาทครับ นึกว่าคนละ 6 บาทไม่ใช่ค่ะ 3 คน อ่ะ 6 บาท ตกคนละ 2 บาทเท่านั้น หูยค่าปริ๊นท์ตั๋วยังไม่ได้เลย
ถามพนักงานขายตั๋วว่าต้องไปขึ้นที่ชานชาลาไหนคะ คำตอบที่ได้ชวนตกตะลึง เพราะเค้าบอกว่าให้เดินไปถามพนักงานรักษาความปลอดภัยข้างในครับว่าชานชาลาไหน งืออออ ทำไมไม่มีบอกไว้ในตั๋วเลย เหมือนที่อื่นเค้า จะได้ไม่ต้องมาถามให้เสียเวลา ลูกก็คือตื่นเต้นไปแล้วว่าเห็นรถไฟแล้วแม่ นี่ Classic train เลยนะ จ๊ะลูก Classic เลยจ้า เพราะแม่คิดว่าน่าจะอายุมากกว่าอายุแม่อีก
ก่อนจะขึ้นรถถามย้ำกับน่าจะนายสถานีแหละ ว่าคันนี้ใช่ไหมคะ เค้าถามว่าจะไปไหน บอกจะไปสถานีอโศก พนักงานบอก ไกลมาเลยนะนั้น แน่ะๆ มีแซวววว
ตื่นเต้นมากกับการเห็นหัวรถจักรรถไฟเยอะแยะมากมาย ระหว่างทางที่ไป ได้เห็นรถที่หยุดรอไม้กั้น ปกติก็นั่งอยู่บนรถแล้วดูรถไฟ วันนี้สลับกัน นั่งอยู่บนรถไฟแล้วดูรถแทน ลูกมีความสุขเล่าตลอดทางว่าเห็นอะไรบ้าง
ตื่นเต้นกว่ารถไฟ ก็คือการที่ลูกเห็นบ้านที่แทบจะติดกับทางรถไฟเลย ลูกบอกหลักคงเกือบจะถึงรถไฟเลยนะ แล้วทำไมขยะข้างนอกมันเยอะจังแม่ ทำไมเค้าไม่ทิ้งลงถัง ก็คือถือโอกาสสอนไปในตัว ว่าถ้าเราไม่ทิ้งขยะให้ลงถังมันจะสกปรกเป็นภาพแบบควินน์เห็นนั้นแหละลูก เราก็ควรทิ้งขยะลงถัง ไม่มีถังขยะเราก็ถือไว้ก่อน เจอถังขยะค่อยทิ้ง สอนเสร็จ พรึ่บเจอคนทิ้งต่อหน้า…….. โว๊ะ
ความพีคอีกอย่างคือตอนลงไม่มีการประกาศสถานีจ้ะ ใช้การดูเอาเอง ว่าถึงยังนะ ลุ้นมากแม่ กลัวว่าจะเลย ถ้าเลยนี่บันเทิงเลยนะ คงได้นั่งแท๊กซี่ย้อนกลับมาเอารถแล้วแหละ โชคดีที่ไม่เลย เพราะมีพี่บนรถไฟใจดี คงเห็นเราดูไม่มีประสบการณ์การนั่ง เลยช่วยบอกตอนถึงสถานี เค้ารู้ว่าเราจะลงสถานีอะไร เพราะคือนำทีมลงพลาดไปแล้วรอบนึง ไปลงสถานีมักกะสันค่ะ ลงก่อนไปป้ายนึง วิ่งขึ้นรถแทบไม่ทัน
ทริปสั้นๆ แค่เกือบ 1 วัน เพราะก่อนจะออกจากบ้านก็สายแล้วเกือบเที่ยง ก็น่าจะทำให้เจ้าเด็กน้อยได้สนองนี๊ดในการมาขึ้นรถไฟ รอบนี้แม่จัดให้จุกๆ 2 แบบเลย ไป MRT กลับด้วยรถไฟ Classic train (รถไฟไทย) แถมด้วยการกินอาหารอร่อยๆ ด้วย รอบนี้เราเที่ยวกันแบบไม่มีรถเข็น แบกของไปให้น้อยที่สุดเพื่อความคล่องตัวในการใช้รถสาธารณะ สำหรับเด็ก 4 ขวบกว่า แม่ถือว่าพี่ควินน์ทำได้ดีเลย ไม่มีร้องให้อุ้ม เดินเองตลอดทริป แม่ว่าเราเดินกันเยอะมาก แต่ลูกก็ไม่บ่นซักคำ เนี่ยเป็นเด็กดีขนาดนี้แม่เลยมีกำลังใจพาไปเที่ยวเลย
พิกัดทั้งหมดของ 1 Day trip พาเด็กน้อยนั่งรถไฟตะลุยเยาวราช
สามารถติดตามพูดคุยกับเราได้ทางช่องทางต่างๆ ดังนี้
Instagram : Travelling As A Couple

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา