14 ส.ค. 2022 เวลา 16:42 • กีฬา
“ซักฟอกหลังเกม ผี ไร้ทรงเรียกพี่ โดนผึ้งน้อยระเบิดถังขี้ 4-0 ลุ้นแชมป์ (เปี้ยนชิพ) เต็มตัว"
(AFTER MATCH BRE 4-0 MUN)
1
ถ้าวันนี้ทั้งวัน คุณรู้สึกว่าถนนมันโล่ง ห้างสรรพสินค้าไม่มีคน ผู้คนในเมืองดูจะโหวงเหวงแปลกๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุโศกนาฏกรรม ผึ้งน้อย “ระเบิดถังขี้” ปีศาจแดง แบบไม่ยั้ง 4-0
นั่นจึงเป็นสาเหตุ ที่ผู้คนทั้งเมืองกว่าครึ่งที่เป็นแฟนบอล เร้ด อาร์มี่ ได้ทำการ “หดหัว นอนคุดคู้” อยู่บนที่นอน ไม่กล้าที่จะออกไปพบปะพบเจอเพื่อนฝูง หรือคนรัก ทั้งที่เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แท้ๆ
โศกนาฏกรรมที่เจ้าผึ้งน้อย เบรนท์ฟอร์ดได้ฝากไว้ครั้งนี้ เป็นเรื่องที่แฟนผีส่วนใหญ่ “รับไม่ได้” กับฟอร์มการเล่นของทีมรัก ที่ดูแล้ว “ทรงเดิม” หรือจะเรียกอีกอย่างว่า “ไร้ทรง” ก็คงจะไม่ผิดแปลกอะไร
เกมการแข่งขันเมื่อคืนที่ Brentford Community Stadium เป็นฝั่งเจ้าบ้านที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในแง่ของรูปแบบการเล่น ที่เน้นเข้าเพรสซิ่งเร็วในแดนกลาง ซึ่งเป็นจุดอ่อนเดิมของยูไนเต็ด (ที่ไม่คิดจะแก้)
การเปลี่ยนจังหวะบอลอย่างรวดเร็ว และมุ่งโจมตีจากลูกกลางอากาศไปที่กองหลังคนใหม่เจ้าของส่วนสูง 5 ฟุต 9 นิ้ว อย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ คือแทคติกที่ โธมัส แฟร้งค์ กุนซือของผึ้งน้อย ได้ออกมาเปิดเผย ว่าได้ลอกเลียนแทคติกนี้มาจาก ไบรท์ตัน ในเกมที่ “บุกมาล่อ” ยูไนเต็ดได้ถึงที่บ้าน
1-0 | 2-0 | 3-0 | 4-0 | คือลำดับสกอร์ของเบรนท์ฟอร์ดที่ทำได้แบบ “ไหลเป็นน้ำ” จากทั้งความผิดพลาดส่วนบุคคลของผู้เล่นยูไนเต็ด และความผิดพลาดจากแผงหลังและแผงกลางทั้งแผง
1
เมื่อฟอร์มของทีมตอนนี้อยู่ในระดับ “ลุ้นแชมป์ (เปี้ยนชิพ)“ เต็มตัว ก็อดไม่ได้ที่จะต้องมานั่ง “ซักฟอก” หลังเกมที่แสนสุดห่วยนี้ อีกเช่นเคย
และนี่คือการ “ซักฟอก 5 ข้อหา” ของปีศาจแดง หลังบุกไปให้เบรนท์ฟอร์ด ระเบิดถังขี้ 4-0
“ซักฟอกหลังเกม ผี ไร้ทรงเรียกพี่ โดนผึ้งน้อยระเบิดถังขี้ 4-0 ลุ้นแชมป์ (เปี้ยนชิพ) เต็มตัว"
ซักฟอก ข้อหาที่ 1 | นักเตะกระจอก บอกโค้ชไม่เก่ง |
ลักษณะนิสัย หรือ “สันดาน” ประเภทที่ว่า ชอบสมาธิสั้น เช่น เล่นเป็นระบบได้เพียงแค่ชั่วครู่เดียว ก็กลับมาเล่นไร้ระบบอีก หรือชอบช๊อตไปดื้อๆ เมื่อโดนคู่แข่งออกนำไปก่อน ไม่สามารถทวงประตูคืนกลับมาได้ ทั้งที่ยังมีเวลาเหลืออยู่อีกเยอะ
สันดานเดิมพวกนี้ เรายังคงได้เห็นอยู่มาตลอด ทั้งฤดูกาลก่อนๆ รวมมาถึงในฤดูกาลนี้ ที่เพิ่งจะเปิดสนามมาได้เพียงแค่ 2 นัด จนเอริก เทนฮาก ทนไม่ไหว ได้ออกมาสัมภาษณ์อย่างหัวเสียหลังเกมถึงเหล่านักเตะเหล่านี้ว่า
"เราเล่นกันเหมือนเด็ก สองประตูที่เราเสียไปในเกมนี้มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อคุณผิดพลาดแบบนี้ คุณก็ไม่อาจชนะเกมได้ คุณมีแผนการเล่นแน่นอน แต่เกมนี้เรากลับเอาแผนทิ้งลงถังขยะ มันไม่เกี่ยวอะไรกับแทคติกเลย มันชัดเจนว่าเป็นฟอร์มการเล่นที่เลวร้าย มันเป็นเรื่องของสภาพจิตใจ และการตัดสินใจ"
เอริก เทนฮาก
จากบทสัมภาษณ์นี้ แสดงให้เห็นได้ชัด ว่าหัวเรือใหญ่แห่งปีศาจแดง ไม่ได้รู้สึกพอใจกับผลการเข่งขันและฟอร์มการเล่นของลูกทีมเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเปลี่ยนหัวเรือใหญ่มาแล้วกี่คนต่อกี่คน แต่สิ่งที่เห็นตรงกัน และยังคงเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการทีมคนไหนๆ ก็คือ ประสิทธิภาพและลักษณะนิสัยเดิมๆของผู้เล่น ที่มีมาอยู่ตลอด! และยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ สามารถ “ตัดสันดาน” เหล่านี้ ทิ้งไปได้เสียที!
1
เมื่อคุณเสียบลำโพง ชิ้นแล้ว ชิ้นเล่า เข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้วไม่ติดเลยสักอัน แต่เมื่อคุณนำลำโพงเหล่านั้น ไปเสียบกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ลำโพงเหล่านั้น ติดทุกอัน นั้นแปลว่า “ลำโพงมันไม่ได้เสียครับ คอมพิวเตอร์คุณต่างหาก ที่เสีย!”
ซักฟอก ข้อหาที่ 2 | หรือว่า ต้องล้างไพ่! |
“บางที่เราอาจจะต้องมีผู้เล่นที่เข้ามาใหม่ 6,7,8,9 หรืออาจจะ 10 คน ที่จะต้องนำเข้ามาในซัมเมอร์นี้”
นี่เป็นคำสัมภาษณ์ของ ราล์ฟ รังนิก ที่พูดส่งสัญญาณไปถึงบอร์ดบริหารว่า ในตลาดซัมเมอร์นี้ แมนฯยูไนเต็ด ควรที่จะต้องเสริมผู้เล่นมากถึง 10 คน หรือเรียกง่ายๆว่า “ล้างไพ่” ยกทีมกันเลยทีเดียว
1
เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เจ้าของฉายา “ลาบ รังสิต” ได้กล่าวไว้นั้น เป็นที่ประจักษ์จริงอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ยูไนเต็ด ต้องเสริมผู้เล่นเข้ามาเพิ่มให้มากกว่านี้ แม้ว่าจะเสริมมาถึง 3 คนแล้วก็ตาม แต่ในตำแหน่งที่ขาดอย่างกองกลางเบอร์ 6 นั้น ยังไม่สามารถปิดดีลใดได้
การที่ปักใจรักและต้องการเพียงแต่แฟร้งกี้ เดอ ยอง นั้น ยิ่งจะเท่าให้ปีศาจแดงเสียโอกาสและเสียเวลาที่จะไปเดินดีลอื่น ที่มีโอกาสจะได้ตัวมากกว่า และที่สำคัญ จะได้มีผู้เล่นมาอุด “รูรั่ว” ในแผงแดนกลางได้อย่างทันท่วงที เพราะอย่าลืมว่า ฤดูกาลเปิดมาแล้วถึง 2 นัด
บางที หรือเราจะหันไปหาตำแหน่งกองกลางเบอร์ 6 อาชีพอย่าง รูเบน เนเวส เลยจะดีกว่าหรือไม่ ไม่ต้องไปทนรอฝังใจกับแฟร้งกี้ เพราะพูดตามตรง “ถ้าคนจะมา เค้ามานานแล้ว”
1
นอกจากผู้เล่นในแผงแดนกลางแล้ว ยังมีผู้เล่นในตำแหน่งอื่นๆ ที่ยังต่ำกว่ามาตราฐาน ของทีมที่จะก้าวไปลุ้นไปสู่ความสำเร็จ อย่างเช่น กองหน้าตัวเป้า ที่อาจจะต้องมาสแตนด์บายต่อจาก โรนัลโด้ ที่อาจจะย้ายหนีไป
1
รวมไปถึงปีกซ้าย ที่กำลังมีข่าวกับ โคดี้ กักโป ของ PSV ที่ควรจะต้องเอาเข้ามากระตุ้นฟอร์มของ ดร.แรชฟอร์ด ที่อยู่ในช่วงออกทะเลไปไกล
อีก 1 ตำแหน่งที่สำคัญแต่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง คือ “ฟูลแบ็ค” เห็นได้ชัดว่าฟูลแบ็คสำหรับฟุตบอลสมัยใหม่ มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการขึ้นเกมจากแดนหลังและทำเกมรุก และมีส่วนสำคัญในการช่วยทีมทำประตู
ทีมลุ้นแชมป์อย่าง แมนฯซิตี้และ “พวกพรี่ๆ” ล้วนแล้วแต่มีฟูลแบ็คที่มีเทคนิคดี มีจุดเด่น ที่อยู่ในระดับสูง แต่เมื่อเราลองหันมามองย้อนดูฟูลแบ็คของปีศาจแดง บางคนถึงกับต้อง “หลุดสบถ” กันเลยทีเดียว
แฟนผีคงจะเห็นฟอร์มของ ลุค “เดินเล่น” ชอว์ และ ดิโอโก “เปิดมั่ว” ดาโลต์ มาหลายปีแล้ว และคงเข้าใจดีว่า ทั้ง 2 คนนี้ รวมไปถึง อารอน วานบิสซาก้า ทั้งหมด ไม่มีความสม่ำเสมอ เทคนิคไม่ค่อยดี และไม่ค่อยมาช่วยซัพพอร์ตเพื่อนยามขึ้นเกม
1
เห็นทีว่าผู้เล่นเหล่านี้ คงพัฒนาต่อได้อีกไม่มากแล้ว ดังนั้น ตำแหน่งฟูลแบ็ค ก็เป็นอีกตำแหน่ง ที่ปีศาจแดงควรจะนำเข้ามาสู่ทีม
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ เห็นได้ชัด ว่ายูไนเต็ด มีจุดอ่อน “แทบจะทั้งทีม” ดังนั้น มันถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่จะต้อง
“ล้างไพ่ยกชุด” อย่างที่รังนิกได้เคยบอกไว้ เสียที
แมนฯยูไนเต็ด อาจจะถึงเวลาที่จะต้อง "ล้างไพ่" จริงๆจังๆ แล้วเสียที่
ซักฟอก ข้อหาที่ 3 | ยูไนเต็ด ก็แค่ทีมกลางตาราง |
“Just like Brighton, your city is blue”
Brighton
นี่คือทวีตของทีมไบรท์ตัน หลังบุกมาล่อ แมนฯยูไนเต็ด คาบ้าน ชัดเจนว่าคำพูดนี้ แสดงถึง “ความไม่เกรงกลัว” ต่อแมนฯยูไนเต็ด อีกต่อไป แม้ว่าไบรท์ตันจะเป็นทีมกลางตารางก็ตาม
1
ดูจากผลการแข่งขันและรูปเกมทั้ง 2 นัดชี้ชัดแล้วว่าระดับการเล่นของปีศาจแดง ไม่ได้อยู่ในระดับท๊อปที่ทีมอื่นๆในลีก จะเกรงกลัว อีกต่อไป
1
การที่ไม่สามารถแกะและเพรสซิ่งทีมเล็กได้ การที่เจอทีมเล็กแล้วยังชอบสะดุด การที่โดนนำ แล้วกลับมาไม่ได้ คือหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด ว่าพวกเขา เป็นเพียงแค่ “ทีมกลางตาราง” เท่านั้น
สิ่งที่ทีมอื่นๆในพรีเมียร์ลีกเกรงกลัวอย่างจริงจัง คงจะเหลือเพียงแค่ แมนฯซิตี้ และ ลิเวอร์พูล เท่านั้น ไม่ใช่ทีมที่กำลังอยู่ในอันดับ “ทีมบ๊วย” เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี อย่างแน่นอน ในปัจจุบัน
เกมล่าสุด ที่โดนเบรนท์ฟอร์ด “ระเบิดถังขี้” นั่นก็เป็นการชี้ชัด ความเกรงกลัวของทีมเล็กที่มีต่อยูไนเต็ด ได้จบสิ้นลงไปแล้ว ตอนนี้ ปีศาจแดงเป็นเพียงแค่ “ตัวตลก” และ “ทีมคอนเท้น” เน้นสร้างความขำขันให้กับแฟนบอลประจำสัปดาห์
ทุกทีม มองยูไนเต็ดเปลี่ยนไปแล้ว ทุกทีม มองยูไนเต็ดเป็นเพียงแค่ “ทีมกลางตาราง” เท่านั้น และถ้าฟอร์มยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ มีหวัง ได้ลดระดับกลายเป็น “ทีมท้ายตาราง” อย่างแน่นอน
“อะไรที่ไม่เคยได้เห็น ก็ได้เห็น” ไม่แน่บางที ฤดูกาลนี้ เราอาจจะได้เห็นยูไนเต็ดลุ้น “หนีตกชั้น” ก็เป็นได้
3
ซักฟอก ข้อหาที่ 4 | เอริก เทนฮาก ไหวมั้ย? |
1
ถึงขนาดมี #SAVETENHAG และ #TENHAGOUT มาแล้วในกลุ่มแฟนบอลกลุ่มหนึ่ง แต่ก็เข้าใจได้ เพราะผลการแข่งขันใน 2 นัดที่ผ่านมาทำให้ทีมหล่นไปอยู่บ๊วย ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องปรกติที่แฟนบอลบางกลุ่มจะรับได้
เรื่องผลการแข่งขันก็ส่วนนึง แต่เรื่องที่น่าหนักใจและน่ากังวลไม่น้อยไปกว่ากันคือ รูปแบบการเล่น หรือ “ทรงบอล” ที่นายใหญ่แห่งปีศาจแดงยังไม่สามารถแสดงให้เหล่าแฟนบอลเห็นได้เลย
ตลอด 2 เกมที่ผ่านมา ทรงบอลของ ยูไนเต็ด ถูกไบรท์ตันและเบรนท์ฟอร์ด ลักพาตัวหายไปในกลีบเมฆ ไม่เหลือวี่แววให้เห็น จนอดคิดไม่ได้ว่า รูปแบบการเล่นของ เทนฮาก ในช่วงพรีซีซั่นนั้น “หายไปไหน”
หรือแม้กระทั่งว่าจะมองหา ความดุดันในการคุมทีมข้างสนามของเอริก เทนฮาก ที่ทำได้ดีในช่วงพรีซีซั่น กลับไม่เห็นในเกมลีก กระนั้น การที่จะกล่าวคำว่า “หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม” ก็คงจะไม่เกินจริง
เราควรที่จะให้เวลา เทนฮาก ในการทำทีมก็จริง แต่ตัวกุนซือยูไนเต็ดเอง ก็ต้องแสดงศักยภาพให้เห็นชัดออกมาในสนามด้วยเช่นกัน รวมไปถึงบอร์ดบริหาร ที่จะต้องสนับสนุนเรื่องการซื้อนักเตะในตำแหน่งที่ขาดให้เต็มที่และรวดเร็ว
เพราะแฟนผีอย่างเราๆ ก็คงจะกลัวว่า ถ้าอะไรๆมันช้าเกินไป มันอาจจะเกิดเหตุกาณ์ซ้ำรอย เหมือนอย่างเหล่ากุนซือที่ผ่านมา เมื่อถึงครานั้น
“เทนฮาก ก็คงต้องจากไป และแมนฯยูไนเต็ด ก็ต้องกลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง”
นายใหญ่แห่งปีศาจแดง เจองานที่ไม่ง่ายแล้วในลีกอังกฤษ
ซักฟอก ข้อหาที่ 5 | เป็นแฟนผี ต้องอดทน สิบล้อ 10 คันชน ต้องไม่ตาย! |
1
เรื่องของฟุตบอลว่าแย่แล้ว แต่เรื่องจิตใจของแฟนบอลอย่างเรา ยิ่งแย่กว่า เมื่อต้องมานั่งทนดูทีมรัก “โดนกระทำชำเรา” ด้วยเนื้อมือของทีมกลางตารางอย่าง ไบรท์ตัน และ เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งขออนุญาตเรียนตามตรง “โคตรทุเรสเลยหวะ”!
สกอร์ 1-2 และ 4-0 รวมไปถึงอันดับตารางคะแนน และรูปใบหน้าของนักเตะ ถูกนำมาเป็นมีมล้อเลียนในโลกโซเชียล ที่มีอยู่ในทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งต่อให้คุณไม่ได้อยู่ในวงการฟุตบอล คุณก็ยังจะต้องได้เคยเห็นการล้อเลียนเหล่านี้อย่างแน่นอน ไม่มาก ก็น้อย
แฟนปีศาจแดงบางคนอาจจะยังรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สำหรับบางคน เมื่อได้ผ่านการถูกล้อเลียนจากทีมอื่น จนมาอยู่ในจุดที่ “หมดอะไรตายอยาก” ก็ยินดีที่จะให้ทีม “โดนล้ออย่างเต็มใจ” ไปแล้ว และเผลอๆ จะช่วย “ด่าทีมตัวเอง” เป็นอีกกำลังด้วย
1
เมื่อผลของการแข่งขันของทีมใดๆ ออกมาไม่ดี ก็มักจะเกิดกระแสวิจารณ์และล้อเลียนเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นแมนฯยูไนเต็ด มันจะโดนเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ ซึ่งอาจจะพูดได้เต็มปากว่า เป็นทีมที่ “โดนด่าหนักที่สุดในโลก” ก็ว่าได้
สิ่งเหล่านี้ โทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเอง ฟอร์มการเล่นของตัวเอง การบริหารจัดการทีมของตัวเอง ที่ทำได้แย่มากๆ
ทีมอื่น ก็มีช่วงเวลาที่ตกต่ำ ที่แตกต่างกันไป แต่เชื่อผมเถอะ
“ผมดูทีมอื่นที่ตกต่ำมา ยังไม่เคยเห็นมีทีมไหน ตกต่ำเท่าแมนฯยูไนเต็ดชุดนี้มาก่อนเลย!!”
เรียบเรียง : Mr.เอเวอร์ดีน
#MANUTD #BREMUN
โฆษณา