15 ส.ค. 2022 เวลา 01:49 • ไลฟ์สไตล์
หางานทำที่ญี่ปุ่น
ในประเทศญี่ปุ่นมีร้านอาหารร้านหนึ่ง
ชื่อแปลกดี #ร้านรวมอาหารสั่งผิด
ทำไมถึงชื่อนี้ ก็เพราะว่าร้านนี้
#จ้างเฉพาะคนที่มีปัญหาความจำเสื่อม
#ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนแก่ให้มาเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหาร
เมื่อลูกค้ามาที่ร้าน พนักงานเหล่านี้
จะไปรับคำสั่ง (รับออร์เดอร์) จากลูกค้า
ว่าต้องการอะไร
แต่พนักงาน หรือบริกรเหล่านี้มักจำผิด
เพราะมีปัญหาเรื่องความจำอยู่ก่อนแล้ว
ดังนั้นอาหารที่ลูกค้าได้รับบ่อยครั้ง
จะไม่ตรงกับที่สั่ง สถิติคือผิดร้อยละสี่สิบ
หมายความว่า ลูกค้า ๑๐๐ คน
จะได้อาหารไม่ตรงตามที่สั่ง ๔​๐ คน
แต่ปรากฏว่าลูกค้าเกือบจะร้อยทั้งร้อย
พอใจในบริการของร้าน ทั้งที่โดยปกติ
หากได้อาหารไม่ตรงกับที่สั่งคนส่วนใหญ่
ก็จะไม่พอใจหงุดหงิด โวยวาย
ยืนกรานว่าจะต้องได้อาหารตามที่สั่งให้ได้
แต่ลูกค้าร้านนี้ เกือบทุกคนกลับพออกพอใจ
.....อันนี้น่าคิด
.
แต่ว่าก่อนจะถึงตรงนั้น ว่าทำไมเป็นอย่างนั้น
ประเด็นที่น่าสนใจคือทำไมร้านนี้
จึงเจาะจงจ้างคนที่ความจำไม่ดี
หรือความจำเสื่อมให้มาเป็นบริกร
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเจ้าของร้าน
อยากช่วยเหลือคนกลุ่มนี้
ซึ่งปัจจุบันมีมากขึ้นเรื่อยๆ
ในญี่ปุ่นคนอายุยืนมาก มีคนแก่เยอะ
พออายุมากความจำก็มักจะเสื่อม
ถ้าอาการหนักก็คือเป็นอัลไซเมอร์
แต่หลายคนไม่ได้มีอาการหนักขนาดนั้น
ความจำเสื่อมแต่ก็ยังรู้เนื้อรู้ตัว
ดูแลตัวเองได้ แต่เนื่องจากความจำเสื่อม
จึงจำผิดๆ ถูกๆ และมักจะถูกรังเกียจจากคนทั่วไป
ถ้าเป็นพ่อแม่
ลูกก็มักกักตัวให้อยู่แต่ในบ้าน
ไม่ให้ออกไปไหน กลัวว่าจะหลงทางบ้าง
กลัวว่าจะไปทำอะไรเสียหายบ้าง
คนเหล่านี้จึงใช้ชีวิตอย่างหงอยเหงา
ถูกตัดขาดจากสังคม รู้สึกว่าตัวเองไร้คุณค่า
ซึ่งทำให้อาการแย่ลง มีความทุกข์มากขึ้น
.
เจ้าของร้านเป็นคนหนุ่ม
อยากเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้
ได้ออกมามีสังคม ได้ทำงาน มีบทบาท
โดยเฉพาะเข้ามาเกี่ยวข้องปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น
เพราะคนเหล่านี้ถ้าถูกตัดขาด
จากผู้อื่นและไม่มีอะไรทำ ไม่ได้ใช้สมอง
จิตใจก็จะหงอยเหงาห่อเหี่ยว
อย่าว่าแต่คนความจำเสื่อมเลย
คนเฒ่าคนแก่ที่ความจำเป็นปกติ
แต่วันหนึ่งๆ ไม่ได้พบเจอใคร
อยู่แต่ในบ้าน
ลูกหลานก็ไม่ค่อยได้เจอะเจอ
แถมไม่มีอะไรให้ทำ
ก็ย่อมรู้สึกว่าตัวเองไร้คุณค่า
ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม
คนเรานั้น
ถ้าหากเตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆ
ว่าอาจจะต้องเจออะไรบ้าง
แม้เป็นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกใจ
ไม่ตรงกับความคาดหวัง
พอได้เจอเข้าจริงๆ ก็ทุกข์น้อย
.
เจ้าของร้านอยากจะช่วยสงเคราะห์
คนกลุ่มนี้ให้มีงานการ ไม่ใช่เพื่อหารายได้
แต่เพื่อให้มีความสุข ให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า
ว่าได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์
เขาจึงเจาะจงเลือกจ้างเฉพาะ
คนที่มีปัญหาด้านความจำ
อย่างที่บอกคือ พอจ้างคนเหล่านี้
มาเป็นบริกร ทั้งๆ ที่ลูกค้าได้อาหาร
ไม่ตรงตามที่สั่ง แต่ลูกค้าก็ยังพอใจ
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เหตุผลหนึ่งก็คือ
เพราะเขาเตรียมใจไว้แล้วว่า
อาจจะได้อาหารไม่ตรงกับที่สั่ง
ดังนั้นพอเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นจริงๆ
ก็ยอมรับได้ ไม่ทุกข์ ไม่โมโห ไม่หงุดหงิด
 
#พื้นที่ว่างจากความคาดหวัง
คนเรานั้น ถ้าหากเตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆ
ว่าอาจจะต้องเจออะไรบ้าง
แม้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกใจ
ไม่ตรงกับความคาดหวัง
พอได้เจอเข้าจริงๆ ก็ทุกข์น้อย
เช่นเดียวกับการเดินทางในกรุงเทพฯ
ถ้าเตรียมใจว่าอาจจะเจอรถติด
พอเจอรถติดจริงๆ
ก็ไม่หงุดหงิดหรือเป็นทุกข์เท่าไร
ในทำนองเดียวกันถ้าเตรียมใจ
ไว้ก่อนว่าการทำงานอาจมีอุปสรรคบ้าง
มีความล้มเหลวบ้าง ต้องเจอสิ่งที่ไม่ถูกใจบ้าง
หรือเตรียมใจไว้ก่อนว่าชีวิตนี้
ย่อมมีความไม่ราบรื่น
บางครั้งก็ต้องเจอความพลัดพรากสูญเสีย
ต้องเจอความเจ็บป่วย ถ้าเรารู้จักทำใจอย่างนี้
พอเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นเข้า ก็จะไม่ทุกข์มากนัก
ไม่โวยวายตีโพยตีพาย
.
การรู้จักเตรียมใจล่วงหน้าว่า
อาจต้องเจอสิ่งที่ไม่ถูกใจ
ไม่เป็นไปดังหวังนั้นมีประโยชน์
มันช่วยทำให้เราไม่ทุกข์
เมื่อเจอเหตุการณ์นั้นเข้าจริง
นี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าไม่หงุดหงิด
แม้จะได้อาหารไม่ตรงตามที่สั่ง
.
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ลูกค้าไม่ถือสาบริกร
เพราะรู้ว่าบริกรความจำเสื่อม
อาจจะจำผิดๆ ถูกๆ เมื่อไม่ถือสา
ก็ไม่หงุดหงิด ไม่ทุกข์
เวลาเขาเอาอาหารที่ไม่ได้สั่งมาให้
เช่นเดียวกับเวลามีคนเมามาด่าว่า
ถ้าเราไม่ถือสาเพราะรู้ว่าเขาเมา เราก็ไม่โกรธ
ถ้ามีคนบ้าเดินมาชนหลังเรา
ตอนแรกเราอาจจะโกรธ
แต่พอหันกลับไปแล้วเห็นว่า
เขาเป็นคนบ้าเป็นคนเสียสติ เราก็ไม่ถือสา
พอไม่ถือสาก็ไม่โกรธ
ร้านนี้ก็เช่นกัน ลูกค้าเขาไม่ถือสาบริกร
เพราะรู้อยู่แล้วว่าบริกรเป็นคนความจำเสื่อม
ได้อาหารผิดก็ให้อภัย ไม่โมโหโกรธา
.
อันนี้เป็นแง่คิดว่า
ถ้าเรารู้จักเตรียมใจล่วงหน้า
เข้าใจไม่ถือสา เจออะไรก็ไม่ทุกข์
แต่ที่ทุกข์ก็เพราะว่าเราไม่เข้าใจ
เรายึดติดถือมั่นกับความคาดหวัง
หรือสิ่งที่ควรจะเป็น
มองข้ามความเป็นจริงไป
ก็เลยเกิดความทุกข์ขึ้นมา ถ้าคิดดูให้ดีๆ
ความทุกข์อยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่ว่ามีอะไรมากระทบเรา
.
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ
ลูกค้าร้านนี้นอกจากจะไม่โกรธแล้ว
เขามีความสุขด้วย ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
เพราะว่าพอมาร้านนี้แล้ว
ก็ได้ลุ้นว่าจะเจออาหารอะไรบ้าง
การได้ลุ้น ทำให้เกิดความตื่นเต้น
รู้สึกสนุกขึ้นมาซึ่งก็ความสุขอย่างหนึ่ง
ซึ่งหาไม่ได้จากร้านอื่นๆ
มันเป็นประสบการณ์ที่ดึงดูดลูกค้า
หลายคนให้มาร้านนี้ ทำให้ร้านนี้มีชื่อเสียง
.
ถ้ามีร้านอย่างนี้มากๆ ก็จะช่วยคน
ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความจำให้เขามีบทบาท
ได้ทำสิ่งที่มีคุณค่า
ต่อไปอาจจะมีร้านสำหรับคนพิการ
หรือร้านสำหรับคนหูหนวกก็ได้
ซึ่งจะช่วยให้คนเหล่านี้มีที่ยืนในสังคม
รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า
ลูกค้าก็จะมีความสุขไปด้วย
เพราะนอกจากจะได้รับ
ประสบการณ์แปลกใหม่แล้ว
ยังได้ช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์
เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ระหว่างคนที่แตกต่างหลากหลาย
ซึ่งทุกวันนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ
“ได้ของผิดแต่จิตไม่ขุ่น”
ธรรมก่อนฉันเช้า วัดป่าสุคะโต
วันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔
โฆษณา