15 ส.ค. 2022 เวลา 02:39 • ท่องเที่ยว
การนำน้องข้าวต้ม(แมว)มาประเทศญี่ปุ่น
แรกเริ่มเลยผมขอสรุปกระบวนการคแบ่งเป็น 13 ข้อ ดังนี้นะครับ
1. ฝังไมโครชิป
2. ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าและในระหว่างปีให้วัคซีนอื่นๆ หยดยากันเห็บหมัดในทุกรอบนัด
3. รอครบกำหนดหลังรับวัคซีนจึงส่งเลือดไปตรวจที่แลป
4. ผลแลปผ่านรอ 6 เดือน
5. หลังจาก 6 เดือนพร้อมบิน(ถ้าหากจำไม่ผิดผลเลือดหลังรอใช้ได้ 6 เดือนครับ)
6. ผมใช้ช่องช่วงเวลานี้ในการซื้อตั๋วดูเวลาที่เหมาะสม และควรตรวจสอบสายการบินที่จะใช้บินก่อนว่ารองรับการโหลดสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องหรือไม่ เราจะทำการส่งแบบไหน(ส่วนผมนั้นโหลดใต้เครื่องเลย) จากนั้นจองตั๋วและจองที่ให้แมว
7. ก่อนบิน 40 วันส่งเอกสาร Import Permit ทางอีเมลล์ไปด่านกักกันสัตว์ที่สนามบินที่จะลง (ควรตรวจติดตามการตอบกลับของเจ้าหน้าที่หลังส่งอีเมลล์ ไม่เช่นนั้นอาจจะมีปัญหาในการนำเข้า กรณีผมเนื่องจากมีการแก้ไขเอกสารเล็กน้อยจึงต้องโทรไปที่สนามบินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบเร่งด่วน)
8. ก่อนเดินทาง 7 วัน พาไปทำ Health Certificate ที่ รพ.สัตว์ ที่ได้ทำ
9. ก่อนเดินทาง 1 วันพาน้องไปตรวจและทำเอกสาร Export ที่ด่านกักกันสัตว์สุวรรณภูมิ
10. วันบินพาน้องมาพร้อมกรงที่ขนาดเหมาะสม ไปเช็คอินจ่ายเงินซื้อพื้นที่เพิ่ม
11. เมื่อซื้อพื้นที่เพิ่มแล้วนำเอาใบเสร็จไปแสดงต่อเคาท์เตอร์สายการบินที่เราจะใช้บิน
12. เมื่อถึงเวลาก่อนบินประมาณ 1 ชั่วโมงพาน้องไปจุดที่เจ้าหน้าที่ใช้โหลดสัมภาระเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่ส่งน้องไปที่เครื่อง
13. ตัวเจ้าของสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องได้เลย
ส่วนด้านนี้เป็นรายละเอียดที่ผมจะเล่าช่วงดำเนินการนะครับ
แรกเริ่มเลยผมค้นหาจากอินเตอร์เน็ตว่ามีโรงพยาบาลสัตว์ไหนและบริษัทไหนที่รับทำการส่งออกสัตว์เลี้ยงบ้าง ซึ่ง ผมเจอโรงพยาบาลสัตว์แห่งนึงในพัทยารับทำและในส่วนของการส่งออกสอบถามจากอีกเพจหนึ่ง ซึ่งแปลว่าสองส่วนนี้คุณจะต้องแยกออกจากกันครับระหว่างด้านการส่งออกกับด้านสุขภาพของสัตว์เลี้ยง
เมื่อผมเจอแล้วผมจึงได้นัดทางโรงพยาบาลเพื่อเข้าไปทำ แรกเริ่มหมอก็จะนัดฝังไมโครชิป จากนั้นนัดให้วัคซีนพิษสุนัขบ้า และหลังจากให้วัคซีนแล้วรอประมาณ 1 เดือนถึงจะมาเจาะตรวจส่งไปตรวจที่แลปที่ได้รับการยอมรับจากประเทศญี่ปุ่นครับ ของผมส่งไปที่อังกฤษ หลังจากนั้นแล้วรอหมอนัดเพื่อฟังผลแลป
เมื่อผลแลปออกแล้วปรากฏว่าผ่านขั้นต่อไปก็จะเป็นการรอ 6 เดือนก่อนบิน และในระหว่างนั้นก็ต้องทำการหยดยากันเห็บหมัดและให้วัคซีนอื่นๆตามรอบที่กำหนดครับ และอีกด้านหนึ่งผมใช้ช่วงเวลานี้ในการวางแผนหาข้อมูลเรื่องการจองตั๋วรวมแมว ขนาดกรง และการส่งออกครับ
Certificate ของไมโครชิป
เอกสารผลจากแลปที่ประเทศอังกฤษครับ
ด้านการจองตั๋วผมใช้สายการบินญี่ปุ่นเจ้าหนึ่งครับ ส่วนด้านการส่งออกผมได้ใช้บริษัทที่มีเพจแนะนำมาโดยจากการ Inbox message ซึ่งล่วงหน้าประมาณ 1-2 เดือนได้ครับ โดยรบการบริษัทส่งออกทำการเตรียมและหากรงให้ และช่วยดำเนินการเรื่องเอกสาร Import Permit ครับ
สมุดบันทึกสุขภาพที่ผมใช้เป็นส่วนหนึ่งในข้อมูลให้แก่บริษัทที่ดูเรื่องการส่งออกครับ
ทำการจองตั๋วเครื่องบินโดยกะระยะเวลาให้เหมาะสมครับของผมหลังจากน้องผ่านระยะเวลากักได้เกือบๆ 2 เดือนครับ นำข้อมูลที่รวบรวมของขนาดกรงและน้ำหนักกรงรวมสัตว์เลี้ยง ในส่วนของเรื่องกรงผมจำขนาดเมื่อเทียบต่อสัตว์เลี้ยงไม่ได้แต่หากให้แนะนำคงต้องลองถามเรื่องนี้เพราะเขาจะมีข้อมูลที่ถูกต้องให้ครับ ซึ่งจะต้องทำการวัดจากความสูงจากพื้น ความยาวและหน้ากว้างครับ และที่สำคัญมากคือเราต้องรู้ขนาดกรงและน้ำหนักของสัตว์รวมกรงเพื่อที่จะใช้จองพื้นที่บนเครื่องบินด้วยนะครับ
ทำการจองตั๋วและโทรไปที่สายการบินเพื่อจองพื้นที่สำหรับน้องครับยังไงแนะนำว่าช่วงนี้ให้รีบดำเนินการนะครับ เพราะว่าพื้นที่มีจำกัดครับ
ในการทำเอกสาร Notification of import of animals under the rabies prevention law จะต้องทำก่อนเดินทาง 40 วัน เราก็ต้องรวบรวมเอกสารที่มีจากโรงพยาบาลสัตว์มากรอกข้อมูลและส่งไปที่ด่านกักกันสัตว์สนามบินที่เราจะลงครับ สำคัญมากที่ต้องหมั่นตรวจสอบด้วยนะครับว่าเจ้าหน้าที่ตอบกลับหรือไม่ แต่โดยมากที่ญี่ปุ่นจะตอบกลับไวครับ เพราะนิสัยการทำงานของเขาเป็นแบบนั้นนั่นเอง
เมื่อเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ทางฝั่งญี่ปุ่นตอบกลับแล้ว ขั้นต่อไปก็จะต้องรอก่อนวันบิน 7 วันไปทำ Health Certificate ที่โรงพยาบาลสัตว์ก่อนการบินครับ
ขั้นตอนต่อมาก่อนบิน 1 วันก็พาน้องไปตรวจที่ปศุสัตว์สนามบินสุวรรณภูมิครับ ในขั้นตอนนี้ให้โฟกัสให้ดีเรื่องความถูกต้องของเอกสาร อย่างเช่นสายพันธุ์ของแมว ส่วนใหญ่เอกสารผมให้บริษัทจัดการให้เลยง่าย แต่ถ้าทำเองก็ต้องใช้เวลาในการกรอกการเตรียมหน่อยครับ แนะนำให้วางแผนดีๆเลยครับ เพราะมันเป็นแค่วันเดียวก่อนบิน กรณีผม ปศุสัตว์กับโรงพยาบาลระบุสายพันธุ์ไม่เหมือนกันเลยต้องแก้เอกสาร ต้องส่งอีเมลล์ใหม่ผมเลยต้องโทรมาแจ้งฝั่งญี่ปุ่นว่าเป็นเคสเร่งด่วนครับ
เรื่องความถูกต้องของเอกสารที่สำคัญเพราะถ้าหากข้อมูลไม่ตรงอาจจะมีปัญหาเข้าประเทศไม่ได้หรืออาจจะต้องกักน้องที่สนามบินอีก 6 เดือนด้วยรึเปล่าผมไม่แน่ใจครับ
พอถึงวันบินพาน้องมาที่สนามบินแล้วไปเช็คอินแจ้งเจ้าหน้าที่เรื่องการจองที่เราจองไว้แล้วจึงไปจ่ายเงินเพิ่มครับ และเมื่อถึงเวลาพาน้องไปส่งที่จุดโหลดสัมภาระเพิ่มจากนั้นตัวคนก็สามารถไปขึ้นเครื่องบินได้ครับ
หลังจากบินมาถึงที่ญี่ปุ่นแล้วให้ทำการไปรับสัมภาระรวมถึงแมวเราจากนั้นพาน้องไปตรวจเอกสารและร่างกายที่ปศุสัตว์สนามบินครับ เมื่อน้องได้รับการรับรองแล้วเจ้าหน้าที่จะให้ตรวจสอบและให้เอกสารแก่เรามามาสำหรับน้องอยู่ในญี่ปุ่นครับ
เอกสาร Approve inspection of animal ครับ
เอกสารที่ทางด่านกักกันสัตว์ที่ญี่ปุ่นออกให้ครับ
เป็นอันเสร็จสิ้น จบแล้ว หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการนำแมวมาญี่ปุ่นนะครับ และถ้าผิดพลาดประการใดแจ้งให้แก้ไขได้เลยครับ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มได้เสมอนะครับ ผมยินดีที่จะให้ข้อมูลครับ ลากันด้วยรูปชีวิตชาวต่างชาติของน้องข้าวต้มแล้วกันนะครับ ขอบคุณครับ
โฆษณา