17 ส.ค. 2022 เวลา 03:00 • สุขภาพ
ฉลากโภชนาการที่อยู่ด้านหน้าซองหรือหลังซองมีข้อมูลทางวิชาการที่หลายคนอ่านแล้วชวนปวดหัวพอสมควร ซึ่งหากคุณเป็นคนรักและใส่ใจสุขภาพแล้ว ฉลากทางโภชนาการนี้มีความสำคัญมาก และไม่ใช่แค่ผู้ผลิตแปะฉลากมาเพื่อให้ถูกกฎหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ข้อมูลในตารางจะบอกถึงปริมาณสารอาหารต่าง ๆ ข้อแนะนำในการบริโภคไม่เกินเท่าไรต่อวัน ซึ่งทั้งหมดมีผลต่อภาวะสุขภาพของแต่ละคน วันนี้เมืองไทยประกันชีวิตมีเคล็ดลับการอ่านฉลากโภชนาการมาฝากกัน
📍 ฉลากโภชนการคืออะไร ? สำคัญแค่ไหน
หลายคนอาจมองข้าม หรือไม่เห็นความสำคัญของฉลากโภชนาการ ซึ่งขอบอกเลยว่าฉลากโภชนาการนั้นมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างเรา ๆ มาก เพราะมีข้อมูลระบุรายละเอียดของชนิดและปริมาณสารอาหารเพื่อให้ได้ทราบก่อนเลือกรับประทาน โดยฉลากโภชนาการแบ่งออกได้ 2 แบบดังนี้
1. ฉลากโภชนาการแบบเต็ม : เป็นฉลากที่แสดงชนิดและปริมาณสารอาหารที่สำคัญ 15 รายการ สำหรับฉลากที่มีความสูงจำกัด สามารถแสดงฉลากโภชนาการเต็มรูปแบบในลักษณะแบบแนวนอนหรือแบบขวางตามที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้
2. ฉลากโภชนาการแบบย่อ : ใช้ในกรณีที่มีสารอาหารตั้งแต่ 8 รายการ จากจำนวนที่กำหนดไว้ 15 รายการนั้น มีปริมาณน้อยมากจนถือว่าเป็นศูนย์ จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องแสดงให้เต็มรูปแบบ
ดังนั้นฉลากโภชนาการถือได้ว่าเป็นข้อมูลชั้นยอดสำหรับการบริโภคอาหารของเราทุกคน ว่าจะได้รับสารอาหารตามความต้องการหรือไม่ และที่สำคัญเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ หรือผู้ที่เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง โรคหัวใจและโรคอ้วน เป็นต้น
📍 ฉลากโภชนาการแบบ GDA
ฉลากโภชนาการแบบ GDA (Guidline Daily Amounts : GDA) หรือเรียกสั้น ๆ ว่าฉลากหวานมันเค็ม ที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้า คุ้นตา แต่ไม่คุ้นใจ โดยฉลากประเภทนี้จะแสดงปริมาณสารอาหารที่สำคัญอยู่บนฉลากด้านหน้าบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ข้อมูล พลังงาน น้ำตาลไขมัน และโซเดียม เพื่อให้ผู้บริโภคพิจารณาก่อนซื้อและหลังซื้อ ซึ่งฉลาก GDA ประกอบด้วยข้อมูล 4 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 บอกให้ทราบถึงคุณค่าทางโภชนาการต่อหนึ่งหน่วยบรรจุภัณฑ์
ส่วนที่ 2 บอกให้ทราบถึงปริมาณที่เหมาะสมในการแบ่งรับประทานต่อ 1 ครั้ง
ส่วนที่ 3 บอกให้ทราบว่าเมื่อทานทั้งหมดจะให้พลังงานเท่าไร
ส่วนที่ 4 บอกถึงปริมาณ พลังงาน น้ำตาล ไขมัน โซเดียม เป็นร้อยละ ต่อปริมาณที่แนะนำต่อวัน
เราสามารถพบฉลากโภชนาการแบบ GDA ได้ในกลุ่มอาหาร 5 กลุ่ม คือ กลุ่มอาหารขนมขบเคี้ยว กลุ่มช็อกโกแลต กลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมอบ กลุ่มอาหารกึ่งสำเร็จรูป และกลุ่มอาหารมื้อหลักแช่เย็นแช่แข็ง
📍 อ่านฉลากโภชนาการ เคล็ดลับเพื่อสุขภาพที่ดี
อยากมีสุขภาพที่ดี อย่ามองข้ามฉลากโภชนาการ โดยคุณสามารถดูคุณค่าทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์ได้ทันทีจากตัวเลขด้านหน้าเพื่อนำไปปรับใช้ในการบริโภคอาหารให้สมดุลเหมาะสมกับสุขภาพของตนเอง ดังนี้
- คุมน้ำหนัก ควรเลือกที่มีปริมาณพลังงานน้อย และมีไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 5% เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรค NCDs โดยในหนึ่งวันไม่ควรได้รับพลังงานเกิน 2,000 กิโลแคลอรี
- กลัวน้ำตาลเกิน หรือเป็นโรคเบาหวาน เลือกที่มีปริมาณน้ำตาลน้อย ไม่เกิน 24 กรัม/วัน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์
- กังวลไขมัน หรือมีภาวะไขมันในเลือดสูง ควรบริโภคไม่เกิน 20 กรัม/มื้อ เพื่อลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
- เลี่ยงโซเดียม หรือมีภาวะความดันโลหิตสูง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัม/วัน เพื่อลดความเสี่ยงการเป็นโรคไตและความดันโลหิตสูง
ฉลากโภชนาการถือได้ว่ามีประโยชน์ต่อผู้บริโภค เสียเวลาอ่านสักนิดก่อนหยิบลงตะกร้าหรือก่อนบริโภคก็จะดี เพราะข้อมูลโภชนาการเหล่านี้มีผลต่อร่างกายและสุขภาพของเรา แค่พลิกฉลากก่อนซื้อ สุขภาพก็ดีได้แน่นอน
📌 เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่าย เลือกเมืองไทยประกันชีวิต
รายละเอียดเพิ่มเติม bit.ly/3vFQnLk
☑️ โทร.1766 ตลอด 24 ชั่วโมง
☑️ ติดต่อสาขา ธนาคารกสิกรไทย และ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
Whatever’s Next, MTL’s NEXT to You
พร้อมพัฒนาในทุกด้าน เพื่อก้าวเดินไปพร้อมคุณ
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 02/08/65
🔖 สสส. (ข้อมูล ณ วันที่ 08/06/60)
🔖 Lovefitt
🔖 Nestle
🔖 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ติดตามสาระดี ๆ และข่าวสารน่ารู้จากเมืองไทยประกันชีวิต ได้ที่
- Facebook: @muangthailife
- Twitter: @MuangThaiLife
- IG: @muangthailife
- Blockdit: muangthailife
โฆษณา