16 ส.ค. 2022 เวลา 03:05 • ธุรกิจ
เศรษฐกิจภาคกลางคืน สาหัสจริงๆนะ
ใครลงทุนทำอะไรตอนนี้ ก็บ่นเหมือนกันทุกคนว่ายากและเหนื่อยหนักมาก
ตัวผมเองในส่วนธุรกิจก่อสร้างนั้น เห็นไม่ค่อยชัดนัก เพราะบริษัทผมกินตลาดบนมากกว่า
1
แต่พอมาช่วยรุ่นพี่ทำร้านเหล้า อันนี้บอกเลยว่าเห็นชัดมาก
คือมันแย่จริงๆนะ ทุกวันนี้ถ้าไม่นับพรรคพวกกันมาอุดหนุนกันเอง ลูกค้าใหม่ๆที่เข้ามามันน้อยมากจริงๆ เงินหมุนร้านรุ่นพี่ผมตอนนี้ ก็มาจากพวกๆกันซะมากกว่า
แล้วมันก็ไม่ใช่ร้านเราร้านเดียวที่เป็นแบบนี้ จากการคุยกับพวกๆกันในวงการร้านเหล้า ก็อยู่ในชะตากรรมคล้ายกันหมด
1
...คือ เจ็บมาก เจ็บน้อย ก็เท่านั้น เรื่องกำไรตอนนี้ แทบไม่ต้องพูดถึงกัน วันขายดีมันถัววันขายไม่ดีแทบไม่ได้
แถมตอนนี้แทบทุกร้าน ลดราคาขาย หวังสร้างฐานลูกค้าใหม่หลังโควิดแข่งกันหมดซะอีก เลยยิ่งเจ็บตัวไปตามๆกัน....
บอกตรงๆ ผมก็สงสารรุ่นพี่ผมนะ แต่ถ้าส่วนตัวผมเอง ถือว่าผมคิดถูก ที่ไม่กลับมาเปิดร้านของตัวเอง ไม่งั้นก็คงเจ็บไม่ต่างกัน
ร้านเหล้านี่ ผมว่าที่มันเงียบเหงามันมาจากสองสามส่วน
อันแรกคือสภาพเศรษฐกิจ คนไม่กล้าใช้เงิน
...สมัยก่อนคนเงินเดือนสักสองหมื่น เที่ยว ดื่ม สัปดาห์ละครั้งสองครั้งก็พอไหว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว
และคนกลุ่มนี้คือคนกลุ่มใหญ่สุด พอหายไป มันก็เงียบ...
อีกอันคือ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากการผ่านโควิดมา
...พฤติกรรมคนดื่มปัจจุบัน ผมมองว่า ชินกับการกินที่บ้านไปซะแล้ว อันนี้คือผลจากโควิด ที่ทำให้เป็นแบบนั่น
...ในงานออกแบบบ้าน ปัจจุบันห้องสันทนาการ หรือแปลงบ้านเป็นที่ปาร์ตี้เล็กๆ กลายเป็นโจทย์ใหม่ ที่นักออกแบบเจอกันบ่อยมากกว่าเดิมเยอะเลย ตรงนี้เห็นได้ชัด ว่าพฤติกรรมคนดื่มเปลี่ยนไป
สุดท้ายคือปัจจัยเหนือการควบคุม คือฝนที่ตกแบบบ้าระห่ำทุกวัน จนคนไม่ออกจากบ้าน และช่วงเข้าพรรษา
...อันเข้าพรรษานี่ร้านเหล้าที่มีกลุ่มเป้าหมายลูกค้าผู้ใหญ่ จะกระทบหนักกว่าร้านวัยรุ่น เพราะผู้ใหญ่จำนวนมาก จะงดเหล้าในช่วงนี้...
ร้านเหล้าเงียบ ร้านข้าวต้ม ก็ไม่ใช่ว่าจะดีนะ
ในมุมนึงธุรกิจสองตัวนี้มันอิงกันอยู่ในที และเป็นคู่แข่งด้วยเช่นกัน
ร้านข้าวต้ม มักได้ลูกค้าหัวค่ำก่อน นักดื่มมักไปกินข้าว ดื่มเผาหัวเล็กน้อย ก่อนมาร้านเหล้าช่วงสามทุ่มไปแล้ว
อีกส่วนคือร้านเหล้าเลิก ก็ไปต่อร้านข้าวต้ม มันจึงพึ่งพากันอยู่ไม่นัอย
ทีนี้ พอคนไม่ออกจากบ้าน ทั้งร้านเหล้า ร้านข้าวต้ม ก็เลยเจ็บตัวทั้งคู่ มันเป็นแบบนั้น....
สุดท้ายคือแท็กซี่...
เชื่อไหม ทุกวันนี้แท็กซี่ช่วงดึกจะหายากมาก ถ้าไปยืนโบก แม้แต่ในถนนเส้นหลักอย่างรามอินทรายังหายากเลย บางครั้งรอกันครึ่งค่อนชั่วโมงทีเดียว
วันก่อนผมขึ้นกลับบ้าน ได้มีโอกาสคุยกับคนขับ เขาบอกว่ามันไม่คุ้มที่จะเอารถออกมาวิ่ง เพราะคนเที่ยวกลางคืนมันน้อยนี่แหละ
...เขาบอกว่าอยู่บ้านรอผู้โดยสารเรียกผ่านแอพมันดีกว่าสำหรับพวกเขา เอารถออกมาวิ่งวน น้ำมันที่แพง มันก็เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะไม่มีคน
นี่แหละครับ สภาพสถานประกอบการยามค่ำคืนตอนนี้
จะเห็นเลยว่า มันกระทบกันไปทั้งระบบ
ร้านเหล้า สถานบันเทิงนั้น โดยธรรมชาติมันก็เป็นสิ่งฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว เมื่อสภาพเศรษฐกิจไม่ดี จึงเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่คนจะตัดออกจากชีวิต โดยเฉพาะกับคนกินเงินเดือนระดับกลางๆ ซึ่งเป็นคนส่วนมากของประเทศ
...ที่จริงมันไม่ใช่ใช่แค่ภาพสะท้อนธุรกิจกลางคืนหรอก มันก็สะท้อนทั้งระบบนั่นแหละ....
สำหรับร้านเหล้า เท่าที่ทราบมา ร้านที่ยังไปได้จริงๆ คือร้านระดับสูงที่กินตลาดบนไปเลยเท่านั้นที่ยังไปได้ แบบไม่เจ็บตัวอะไรนัก
ส่วนร้านที่เล็กๆ นั้นมีสภาพแย่ ไม่ต่างกันนักแทบทุกที่
ส่วนตัว ผมมองว่าการปรับแผนธุรกิจของร้านพวกนี้ แทบไม่มีประโยชน์อะไร เพราะปัญหาใหญ่จริงๆ คือคนไม่กล้าใช้เงินมากกว่าที่จะเป็นปัญหาจากตัวแผนงานของร้านต่างๆ
...บางร้าน จ้างสาวๆสวยๆมาทำงาน ก็ช่วยอะไรไม่ได้นัก แถมกลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายอีกต่างหาก...
...ก็ไม่รู้จะยังไงแล้วเหมือนกันล่ะครับ กับปัญหาลักษณะนี้...
ใครทำร้านกลางคืน ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
แต่คำเตือนผมคือ เอาเท่าที่ไหว และอย่าหงุดหงิดจนเหวี่ยงใส่คนรอบตัว
....ไม่ไหวก็ต้องพอล่ะครับ อย่าไปเทจนหมดหน้าตัก....
...เพราะดูทรงแล้ว น่าจะซึมแบบยาวๆเลยล่ะ...
...เฮ้อ....😓😓😓😓😓.....
โฆษณา