18 ส.ค. 2022 เวลา 23:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปไอเดียร์จากคลิป วิวัฒนาการของเจ้ามีหุ้น ที่รายย่อยต้องรู้ทัน
โดยพี่ซัน กระทรวง Supertrader Infinite และ
1
คุณอิก ถามอีก กับอิก Tam-Eig
ฟังคลิปเต็มได้ใน comment นะครับ
📌เจ้ามือ = คุณที่ควบคุมเกมส์ ต้องมี 2 อย่างก็คือเงินกับหุ้น
1
เค้าก็เป็นคนสิ่งที่ของเค้าต้องการคือกำไร แต่วิธีการมันเปลี่ยนไปพอสมควรจากสมัยก่อนเพราะทุกวันนี้มีเรื่องใหม่ๆหลายเรื่องเช่น T1 T2 T3 มีทั้งใจดีให้เรามีกำไรบ้าง ทุบก็อาจจะไม่โหด แต่แบบพวกจัดหนักเลยก็มี
4
📌แต่บางที่ก็อาจจะมีวัตถุประสงค์อื่นเช่น
1
- การเอาหุ้นไปจำนำ โดยคิดส่วนลดจากมูลค่าหุ้น (50-70 % ของมูลค่า)บางทีเค้าต้องการเงินแต่เค้าขายหุ้นไม่ได้ เค้าก็จะใช้ Market maker ทำราคาให้มันนิ่งๆ เพื่อให้มูลค่ามันเสถียร ไม่จำเป็นต้องลากขึ้นลากลงก็ได้
- ลากขึ้นไปเพื่อทำ Big lot ให้นักลงทุนหรือกองทุน ไม่ได้ต้องการขายให้รายย่อย
- ลากขึ้นไปเพื่อเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง หรือ Private placement (PP) เพิ่มเอาเงินเข้าบริษัท
📌 ประเภทของเจ้ามือ มี 3 แบบ
5
- เจ้ามือปลอม : ใครที่มีเงินหรือมีหุ้นจำนวนหนึ่ง ไม่ได้โคกับเจ้าของบริษัท เค้าจะทำ Tricker ล่อรายย่อย พวกนี้เวลาเม่าไล่ก็จะออกของหมด พี่ซันเรียกว่า "กุ๊ยข้างทาง" กินเงินรายย่อนไปวันๆ
- Market maker มืออาชีพ : เลือกหุ้นดี คุยกับเจ้าของ ว่างแผนการทำราคาพร้อมกับการทำการบ้าน strategy ของธุรกิจ
3
- เจ้าของมาเล่นเอง : ก็จะถือว่าเป็นเจ้าจริง แต่การทำราคาก็จะมีผิดพลาดเหมือนกัน ติดดอยซะเอง
ต้องแยกก่อน ‼️ เพราะเจ้าบางประเภทเช่นเจ้าปลอม พวกนี้จะไม่เล่นนาน มาแล้วก็กระตุกแล้วก็จบ ถ้าเรามีของทุนได้เปรียบ ก็ปาใส่จบ แต่ถ้าทุนไม่ได้เปรียบก็ไม่เล่น
📌พี่ซันมองบวกกับการมี "เจ้ามือ" เพราะบางทีหุ้นดี PE ต่ำ ปันผลดี ลงทุนได้ แต่คนไม่สนใจ ราคามันก็จะไม่ไป การมี Market maker มันก็จะทำให้ราคามันสะท้อนตัวผลประกอบการ การเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
2
📌เราไม่สามารถซื้อหุ้นพวกนี้ถูกจังหวะได้ตลอดเวลา แต่เราต้องศึกษาพฤติกรรมพวกนี้ และคาดการของมันได้ พร้อมทั้งวางแผน ควบคุมความเสี่ยงก็ลงทุนได้ เพราะบางที่มันขึ้นไปได้หลาย 100 หรือหลายพัน %
📌 หุ้นที่พี่ซันจะดูจะเป็นกลุ่ม Market maker มืออาชีพหรือเจ้าของ
📌 พี่ซันจะเริ่มด้วยการดู Free float มันต้องน้อย และต้องมีเจ้าของถืออยู่ในปริมาณพอสมควร
📌ต้องมี Story หรือผลประกอบการดี หุ้นจะขึ้นได้เสถียรกว่า เพราะถ้ามันไม่มีพวกนี้มันจะยืนไม่ได้
ดู Free float
ผบห ถือหุ้นเยอะไหม ?
พื้นฐาน
Business model
📌พี่ซันชอบหุ้นที่ค่อยๆขึ้น ข่าวน้อย ไม่ชอบตัวที่ออกข่าวตลอด เพราะบางที่การที่ออกข่าวบ่อยๆ มันเหมือนการเรียกรายย่อยมาซื้อ มันอาจจะเป็นการกระจายของ
📌พี่ซันแนะนำให้ศึกษาเรื่อง
"ทฤษฎี Wyckoff Logic"
หุ้นมี 4 ระยะ
ระยะสะสม (Accumulation)
ระยะขาขึ้น (Mark up)
ระยะแจกจ่าย (Distribution)
ระยะขาลง (Mark down)
ระยะสะสมมันจะกินเวลา ค่อยเก็บของ volume ไม่เยอะ แต่เราต้องดูกรอบให้ดี เพราะถ้ามันเบรคกรอบได้ มันก็จะเข้าสู่ระยะที่ 2 หรือระยะ ขาขึ้น
พอมันเข้าระยะที่ 2 มันก็จะเป็นการรันเทรนละ ขึ้นไปเรื่อยๆ (พวกนี้มักจะมาพร้อมผลประกอบการ หรือ Story)
จนกระทั้งมันไม่ทำขาขึ้นละ (เริ่มไม่ทำ high)เค้าก็จะกระจายของละเป็นกรอบราคาที่อยู่ด้านบน (Distribution) บางตัวถ้ายืนได้ก็จะเป็นสะสมรอบใหม่ แต่บางตัว งบไม่มา Story จบก็จะลงแรงเข้าสู่แนวโน้มขาลง เมื่อหยุดทำ Low ก็จะเข้าสู่สะสมรอบใหม่
📌ช่วง Accumulation มีทริกในการเก็บหุ้นเข้า Watchlist
- มี Votility มี Vol เพิ่มขึ้น แต่ยังเคลื่อนที่ในกรอบ
- มี BIGLOT
- มี Volume เพิ่มมากขึ้นในโซนล่างๆ
- บางตัวอาจจะเริ่มไต่ขึ้น แต่ Volume หายอันนี้ถ้าเบรคกรอบได้ก็จะแรง
- มี Story เตรียมลุ้น
- ออก PP (private placement) จากโซนล่าง
พวกนี้พี่ซันบอกว่าถ้าใช้ประสบการณ์แล้วน่าสนใจจะมีหยอดๆไปบ้าง แต่บางทีเราก็อาจจะรอนานถ้าเอาให้ไวก็จะเป็นตอนเบรคกรอบสะสม แต่เราต้องดูดีๆจังหวะที่ผ่านต้นทุนเราต้องได้เปรียบ
📌 กรอบ Distribution สำคัญ ถ้าหลุดก็ต้องยอมเพราะมันกำลังจะเข้าสู่ช่วงขาลง ถ้าทนถือ จะกลายเป็นยิ่งขาดทุน เราอย่าไปมโนเองว่าเราคามันจะกลับมาที่เดิม หุ้นปั่นหลายๆตัวมันดอยแล้วดอยเลย ไม่กลับมาอีกรอบก็เป็นได้
1
"หลุดกรอบล่างแล้วต้องมีวินัย"
📌 รายย่อยเราจะเห็นหุ้นช้ากว่าแต่ก็มีข้อที่ได้เปรียบคือ Size ของเราน้อยกว่า ออกของง่าย
1
📌 ผลประกอบการที่เติบโตขึ้นเป็นเบาะรองชั้นดีพวกนี้เวลาที่ราคามันสูงขึ้น และมี เหตุผลด้าน Fundamental support ราคาก็สามารถยืนได้ก็มี
📌วิวัฒนาการของ Market maker ที่พี่ซันเห็นคือช่วงหลังเค้าจะเลือกหุ้นที่มีผลประกอบการดี + Story support ไม่ได้เอาหุ้นมามั่วๆ
📌กรณีโดน เช็คชื่อ หรือทุบให้หลุดแนวรับเพื่อเอาของคืน พวกนี้พี่ซันจะใช่สูตร Price overlap คือคือหลุดก็คืนของแต่ถ้ากลับมายืนได้ก็ต้องเอาคืน แต่บางทีถ้าหุ้น Zone ล่าง แล้ว Downside ภาพใหญ่ไม่สูงมาก บางทีก็อาจจะถือทนต่อ (โดยเฉพาะตัวที่หลุดแต่มี Volume น้อยๆ)
📌BID OFFER ถ้าบางๆ อาจจะไม่น่าสนใจ พี่ซันชอบ BID OFFER หนาๆต้นรอบ หรือ อาจจะมี OFFER หนาๆ แต่คนขายยังไงก็จะมี BID มาเติมอันนี้ก็น่าสนใจ
แต่ช่วงหลัง มันก็มีเปลี่ยนไปบ้างตามความรู้ที่นักลงทุนเริ่มรู้เหมือนกัน มันหลอกได้ง่ายในตัว BID OFFER พี่ซับแนะนำให้ดู Cycle Wyckoff ให้ดีเสียก่อน
📌เวลาขึ้น Volume ต้องมา เวลาลง Volume แห้ง "Volume confirm trend" ถ้าเจอแบบนี้พี่ซันจะหาแนวรับแล้วเข้าซื้อ แต่ถ้าหลุดแนวรับก็ต้องยอมนะ
📌 ทุกอย่างในโลกการลงทุน มันมีวิวัฒนาการมันมีการเปลี่ยนแปลง เราต้องปรับตัวให้ทัน เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
1
📌Money management คือเรื่องสำคัญ ถ้ามันยังไม่ชัดเราอย่าเพิ่งซื้อในสัดส่วนที่เยอะ เพราะบางทีเราโดนสะบัดเราจะไม่ไหว พยายามดู size ที่เราควบคุมอารมณ์และวินัยได้ให้ดีๆ
📌คริปโต คือเกมส์ระดับโลก ถ้าเหรียญใหญ่ๆจะไปตาม Demand - Supply แต่เหรียญเล็กๆมีโอกาสเป็นไปได้ แต่อย่าลืมข้อแตกต่างเรื่องต้นทุน ถ้าหุ้นเรายังพอดูได้ ว่าทุนเจ้าอยู่ Zone ประมาณไหน เราได้เปรียบ เสียเปรียบเพียงใด แต่เหรียญบางทีเจ้าต้นทุนก็เป็น 0 อันนี้เราเสียเปรียบจัดเลย พี่ซันมองคริปโตอ่านเกมส์ยากกว่า
1
📌กรณีเจอจังหวะ BID หายมักจะอยู่แล้วในช่วงขาลง แล้วเราจะขายไม่ทัน กรณีเทรดสั้นพี่ซันแนะนำแบ่งขาดในจุดที่เราพอใจ ณ จุดที่ราคาพี๊ค Volume peak
ไม่ต้องกลัวขายหมูจนเกินไป การขายหมูมันก็คือกำไร มันเป็นไปได้ยากมากๆที่จะไปซื้อในจุดที่ต่ำที่สุด และขายในจุดที่สูงที่สุด
"คิดซะว่าเรากำไรแล้วก็คือจบ ทำการบ้าน หาหุ้นตัวใหม่ กำไรไปเรื่อยๆ ไม่ต้อง perfect ก็โอเคแล้ว
🙏ขอบคุณพี่ซันและคุณอิกมากนะครับ
โฆษณา