19 ส.ค. 2022 เวลา 04:51 • ปรัชญา
ในวันที่ไม่เหลืออะไร...
เพื่อน ร้าน บ้าน รถ
และคนที่บอกว่ารักกันจนตายแทนได้
ในวันที่ต้องนอนกอดกระเป๋าใบเดียวนอนข้างถนน
ในวันที่เหลือสมบัติติดตัวเพียงโทรศัพท์เครื่องเดียว
ในวันวานที่เคยมองฟ้าอันแสนจะสดใส
แต่วันนี้มันกลับมืดมนด้วยมรสุมชีวิตที่ถาถมมาอยากไม่หยุด
ในวันที่ล้ม
ไม่มีแม้กระทั่งใครอยู่เคียงข้าง
แต่ในความโชคร้ายของผม
ก็ยังพอมีสิ่งดีๆในเข้ามาในชีวิตอยู่บ้าง
ชายหญิงอายุกลางคนคู่นึงยกมือไหว้สวัสดีผมมาแต่ไกล
เฮียสวัสดีจ้า เฮียสวัสดีครับ
ผมก้มยกมือไหว้ตอบด้วยความนอบน้อมเหมือนเดิมทุกครั้งเพราะผมมีอายุน้อยกว่า
สวัสดีครับ
เฮียพวกหนูสองคนเดินมาจากบ้าน (ระยะทาง 5 กิโล)
หนูไม่มีอะไรมาฝากนอกจากข้าวไข่เจียวถุงนี้
ข้าวสวยพร้อมไข่เจียว
ถูกใส่มาในถุงร้อนที่แม่ค้าเขาใส่แกงขาย
ทำให้น้ำตาผมแทบไหล
อย่างน้อยๆในวันที่ไม่มีใคร
ก็ยังมีลูกน้อง 2 คนที่ไม่เคยทิ้งผมไปไหนเลยเหมือนกับที่ผมไม่เคยทิ้งเขาทั้งสองคนเช่นกัน
แต่ด้วยบาปหรือกรรมไม่ทราบได้เรือที่เรานั่งมาด้วยกันดันอับปางอยู่กลางทะเลมรสุมชีวิตถากถมเข้ามาจนผมรับไม่ไหว
ทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันไปตามระเบียบ
ผมยกมือไหว้แล้วยื่นมือไปรับข้าวไข่เจียวมา
ผมถามกับลูกน้อง 2 คนว่าตาดำกับพี่กานสบายดีไหมครับ
ตอนนี้พวกหนู 2 คนไม่มีงานทำอาศัยอยู่บ้านญาติ
แล้วเฮียสบายดีไหมครับ
ผมก็อยู่ตามอัตภาพผมต้องขอบคุณตาดำกับพิการมากนะครับที่ยังคิดถึงผมอยู่
ต่อไปไม่ต้องเรียกผมว่าเฮียแล้วนะ
ตอนนี้ผมว่าผมเป็นเฮี่ยมาก
กว่า
เฮียก็ยังเป็นเฮียอยู่วันยังค่ำล่ะครับพวกผม 2 คนยังรักเฮียเหมือนเดิมพวกเราสองคนยังนับถือเฮียเหมือนเดิมครับ
ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ช่าง....
ผมพูดอะไรไม่ออกพูดได้แค่คำว่าขอบคุณ
มันทำให้ผมคิดย้อนไปเมื่อไหร่ปีที่แล้ว
ผมเคยบอกกับลูกน้องผม 2 คนนี้ว่ามีลูกน้องดียิ่งกว่าถูกรางวัลที่ 1
ในวันนี้ผมถึงได้รู้ว่ารางวัลที่ 1 ที่ผมได้มันคือน้ำใจ
โฆษณา