สิ่งสำคัญที่คนรีวิวรถไม่ (คิดจะ) บอก🤫
พักเรื่องหนักๆ อย่างเทคโนโลยี แล้วมาคุยเรื่องใกล้ตัวที่ใครๆ ก็เข้าใจได้ไม่ยากกันบ้างครับ
ไม่ว่าคนยุคไหนเวลาจะซื้อรถใหม่ ก็ต้องมีการหาข้อมูลกันบ้างตามความถนัด สมัยก่อนก็อาศัยอ่านเอาจากหนังสือรถ ซึ่งต้องใช้เวลารอให้รถเปิดตัวก่อน รอคนเขียนเค้าไปสัมผัสรถจริง รอเค้าเขียนต้นฉบับ รอจนพิมพ์ออกมาเป็นเล่มแล้วค่อยซื้อมาอ่าน ซึ่งคนยุคนั้นเค้ารอกันได้😁
แต่เดี๋ยวนี้นอกจากวันเงินเดือนออก กับวันหวยออก ก็ไม่ค่อยมีอะไรที่เราอยากทนรอ เพราะเราเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้แทบจะตลอดเวลา แน่นอนว่าส่วนใหญ่จะหันไปพึ่งพาข้อมูลจากรีวิวรถสารพัดช่องทาง คนรีวิวรถก็เพิ่มจำนวนขึ้นแทบจะทุกเดือน เพราะอาชีพนี้แค่มีกล้องตัวเดียวก็เปิดช่องรีวิวรถของตัวเองได้แล้ว
หลายคนก็มีหลายสไตล์ของตัวเอง ใครสะดวกตามดูคนไหนก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัวครับ แต่วันนี้คลินิกเราจะมากระซิบว่า ต่อให้มีคนรีวิวเยอะ ข้อมูลที่ได้ก็มักไม่หนีกันมาก เพราะถูกกำหนดโจทย์มาจากผู้ผลิตรถก่อนยื่นกุญแจให้อยู่แล้ว
ยังมีหลายประเด็นที่คนรีวิวบอกเราไม่ได้ และเป็นสิ่งสำคัญเวลาจะซื้อรถใหม่ด้วย หรือบางคนก็ไม่คิดจะบอก เพราะเกรงใจบริษัทรถยนต์ เดี๋ยวโดนแบน ไม่ส่งรถมาให้ลอง ไม่เชิญมางานเลี้ยงประจำปี ไม่มีของขวัญวันเกิด ฯลฯ
📌📌📌 ราคาขายต่อ - ตลาดรถใหม่กับตลาดมือสอง จะว่าไปก็เหมือนคนละโลก สมรรถนะดีกับราคามือสองดีมันคนละเรื่องกัน ส่วนยี่ห้อไหนราคาขายต่อเป็นยังไง ผู้อ่านคงพอทำการบ้านกันเองได้ บางคนบอกว่าซื้อมาขับใช้งาน ไม่ได้ซื้อมาขายต่อ อันนี้เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ สมัยนี้รถอะไรราคาก็ร่วงทั้งนั้น นอกจาก Rare item จริงๆ
แค่เราระวังยี่ห้อแปลกๆ ที่อาศัยดีไซน์แปลกตา ของเล่นในรถเยอะ แต่ราคาถูกเว่อร์ ถึงเวลาอยากขายต่อ อย่าว่าแต่ราคาตกเลยครับ หาคนรับซื้อต่อยังลำบาก
📌📌📌 ค่าบำรุงรักษา - ประเด็นนี้กระทบกับเงินในกระเป๋าเราเต็มๆ เวลาเข้าศูนย์เช็กระยะ เสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ค่าแรงแพงมั้ย ถามคนที่เคยใช้ก็ไม่ได้แปลว่าจะได้คำตอบ เพราะคำว่าแพงแต่ละคนไม่เหมือนกัน เรื่องนี้ลองเช็กกับศูนย์บริการยี่ห้อนั้นดูได้ สมมุติว่าถ้าเราซื้อ เราจะเข้าศูนย์ไหน ก็ลองโทรไปถามศูนย์นั้นดู จำไว้เสมอว่า รถราคาถูกไม่ได้แปลว่าค่าดูแลจะถูกตาม
เดี๋ยวนี้บางยี่ห้อแถมแพกเกจบำรุงรักษาฟรี คือเข้าเช็กระยะฟรีหมด แบบนี้น่าสนใจ เพราะใครจะไปรู้ว่าอีกหน่อยเราจะตกงานมั้ย มีรายได้พอจะดูแลรถเหมือนวันนี้มั้ย อย่างน้อยก็ตัดปัญหาไปเรื่องนึง
📌📌📌 ความพร้อมของอะไหล่ - เรื่องนี้ค่อนข้างแปลก สังเกตว่าคนซื้อรถยุคนี้ไม่ค่อยนึกถึงเรื่องอะไหล่ ผิดกับสมัยก่อนที่เคยเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ และที่ผมอยากเน้นคือ แต่ละยี่ห้อลงทุนกับเรื่องนี้ไม่เท่ากันแน่ๆ ยี่ห้อที่ขายรถมานานจะมีนโยบายชัดเจนว่าถ้ารถรุ่นไหนเลิกขายไปแล้ว อย่างน้อยจะมีอะไหล่รายการหลักๆ สำรองอยู่ในคลัง 10 ปี
ผิดกับยี่ห้อหน้าใหม่ ที่จะไม่พยายามเจียดเงินมาลงทุนอะไรแบบนี้ สู้เอาไปโหมการโฆษณาและจ่ายค่าตอบแทนดีลเลอร์ เพื่อกระตุ้นให้ขายได้เยอะๆ ดีกว่า แต่คนที่รับกรรมคือลูกค้าเต็มๆ ดังที่เราเห็นข่าวคราวเสมอว่าซื้อรถมาใหม่ พอเสียขึ้นมาต้องจอดรออะไหล่นานเป็นเดือน ใครไม่เจอกับตัวเองจะไม่รู้ว่าการเสียเงินผ่อนรถทุกเดือน แต่เอามาขับไม่ได้ มันจุกแค่ไหน😭
📌📌📌 ความทนทาน - เทคโนโลยีเยอะไม่ได้แปลว่าต้องเสียง่ายเสมอไป อยู่ที่ความเข้มงวดในขั้นตอนการทดสอบ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็ไม่เหมือนกันอีก ประเด็นนี้คนซื้อไม่มีทางรู้แน่ชัด นอกจากอาศัยข้อมูลของคนที่ซื้อไปแล้ว ไม่มีรถรุ่นไหนไม่มีปัญหา และไม่มีรถรุ่นไหนทนมือทนเท้าลูกค้าได้ทุกประเภท ต้องดูว่าปัญหาที่เกิดนั้น เรารับได้มั้ย? แก้ยากมั้ย? หรือเป็นเพราะคนใช้ผิดจุดประสงค์หรือเปล่า?
เรื่องความทนทาน ถามว่าคนรีวิวรู้มั้ยว่ายี่ห้อไหนที่ชอบเกเร แน่นอนว่ารู้อยู่เต็มอก ให้เลือกก็คงไม่ซื้อเองแน่ แต่ใครจะทุบหม้อข้าวตัวเอง
อย่างที่บอกว่าข้อมูลที่จะสื่อนั้นถูกกำหนดมาก่อน แต่ตลอดเส้นทางในชีวิตจริงของคนที่ซื้อรถสักคัน เป็นสิ่งที่เราต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเอาเอง เอาเข้าจริงคนรีวิวรถเวลาจะออกรถเอง ก็ไม่ได้เดินเข้าโชว์รูมหรือทักหาเซลขายรถแบบเรานะครับ เค้ายกหูหาบริษัทแม่ขอราคาพิเศษกันตามสะดวกอยู่แล้ว ถ้าใช้แล้วมีปัญหาก็ดูแลกันอย่างดี ไม่มีให้ต้องโวยวาย อันว่าน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ใช้ได้กับทุกวงการ
ถ้าคิดว่าคลินิกนี้มีประโยชน์ ฝากช่วยกันแชร์นะครับ ยิ่งมีคนอ่านมาก ก็มีความรู้มาก จะได้ลดการกระจายข้อมูลแบบปากต่อปากที่ผิดเพี้ยน
#mycarclinic
#เลือกรถที่ใช่
#เลือกรถอะไรดี
#เลือกรถไฟฟ้า
#เลือกรถไฮบริด
#ดูแลรถด้วยตัวเอง
#besmartdriver
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
