19 ส.ค. 2022 เวลา 12:25 • หนังสือ
แฮร์รี่ พอตเตอร์ฉบับหัวขบถ [โหมดเอาจริง]
Ch01: อัลบัส ดัมเบิลดอร์
ผู้นำแห่งแสงสว่างกับศีลธรรมที่น่าสงสัย
อัลบัส ดัมเบิลดอร์คือคุณปู่ผู้มีภาพลักษณ์ราวกับพ่อมดในนิทานนี้เป็นตัวแทนของการเชื่อมต่อที่เตือนเราว่าแฮร์รี่ไม่ใช่เด็กธรรมดา--มีชะตากรรมอันยิ่งใหญ่รออยู่ คือความประทับใจแรกของเราต่อโลกเวทมนตร์ในฐานะพ่อมดคนแรกที่ปรากฏตัว เพราะแมวลึกลับใช้เวลานานเกินไปกว่าจะบอกเราว่าเป็นแม่มด และบางคนที่เดินไปกอดเวอร์น่อนแล้วพล่ามเกี่ยวกับการหายไปของโวลเดอร์มอร์เป็นใครก็ไม่รู้
แต่... กี่คนจะถามว่า "ทำไมตาแก่นี่จึงจากไปโดยไม่กดออดวะ?" เพราะโดยสามัญสำนึกปกติของคนที่ใส่ใจผู้อื่นควรทำให้แน่ใจว่าเด็กจะปลอดภัยในบ้านแน่ๆ นี่คือกลางฤดูใบไม้ร่วงในอังกฤษที่อากาศตอนกลางคืนเย็นมาก (ไม่ต้องเชื่อผม ไปค้นกูเกิ้ลเลย) "แฮร์รี่อายุหนึ่งขวบจึงไม่ได้เป็นแค่ทารกแบเบาะแต่กำลังตั้งไข่" ถ้าใครเคยเลี้ยงทารกหรือมีทารกที่บ้านย่อมจินตนาการถึงความน่าสยดสยองที่อาจเกิดขึ้นได้ไม่ยาก คือ:
A: เด็กตื่นกลางดึกแล้วคลานออกไปที่ถนน โดนหมาคาบไปหรือโดนรถเหยียบ หรือไปนอนขดที่หน้าบ้านหลังอื่น
B:เด็กหนาวตาย
C:โอเค ผมคิดมากไป ("- -)
JK Rowling ไม่ได้โง่แน่ๆ เพราะเธอเป็นแม่คน ดังนั้นเปิดมาตอนแรกจึงบอกอะไรเรามากทีเดียวขึ้นอยู่กับว่าเราจะยอมให้ตัวเองเห็นรึไม่? เธอเผยว่าดัมเบิลดอร์มีพฤติกรรมต่อทารกแฮร์รี่ 'ฉาบฉวยราวกับจะไม่ได้เห็นเขาเป็นเด็ก' ซึ่งพอเล่ม 7 ก็เฉลยว่าเขาเป็นเครื่องมือและเลี้ยงไว้เพื่อให้ตายในเวลาที่เหมาะสม แม้ว่าภายหลังเขาได้พัฒนาความรู้สึกต่อแฮร์รี่เป็นความรักความห่วงใยอย่างแท้จริงแต่ก็ไม่เคยเปลี่ยนแผนที่วางไว้
มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล ซึ่งดูจะเป็นผู้หญิงที่ละเอียดรอบคอบก็ยอมทำตามด้วย!? นี่ไม่เพียงชี้ว่าดัมเบิลดอร์เป็นคนที่มีบารมีขนาดชักจูงคนให้ทำตามที่เขาต้องการได้ แต่ยังได้บอกเราล่วงหน้าเลยว่าจากนี้ไป 7 เล่ม เราไม่เพียงไม่เห็นมักกอนนากัลยืนหยัดสู้กับเขาแต่เชื่อเขามากกว่าจะใช้สติปัญญาคิดวิเคราะห์ แม้แต่แฮร์รี่และเซเวอรัสก็อยู่ในโอวาสของเขาอย่างเคร่งครัด
ทีซื้อหวยทำไมไม่ถูกนะ ("- -)
OK สมมติว่าเราผ่านเรื่องนี้ไปเพราะปู่อาจจะร่ายคาถา บลาๆๆๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กจะปลอดภัยจนถึงเช้า
ต่อมา พฤติกรรมอันน่าฉงนของดัมเบิลดอร์เพิ่มขึ้นอีกคือเมื่อควีเรลล์วิ่งแตกตื่นเข้ามาในห้องโถง ตะโกนว่ามีโทรลล์ในคุกใต้ดิน แทนที่ดัมเบิลดอร์จะให้นักเรียนปักหลักในห้องโถงและทิ้งอาจารย์ 2-3 คนไว้ดักโทรลล์ เขาดันสั่งให้เด็กๆ กลับไปที่หอพัก ฉากดูธรรมดามากจนกว่าเราจะพบว่าหอสลิธีรีนมีทางเข้าที่คุกใต้ดินในเล่มสอง พูดง่ายๆ ภายในสองเล่ม JK Rowling บอกเราด้วยว่าสลิธีรีนคือบ้านที่ถูกโดดเดี่ยวโดยคณาจารย์
และข้อบ่งชี้นี้ก็ถูกยืนยันเมื่อดัมเบิลดอร์ลดแลกแจกแถมคะแนนในเล่มแรกกลางห้องโถงโดยเจตนาที่จะทั้งหักหน้าและปล้นชัยชนะจากสลิธีรีนไปให้กริฟฟินดอร์ แทนที่จะให้คะแนนไปเลยแล้วค่อยมากล่าวชื่นชมและอธิบายว่าคะแนนนี้มีที่มาที่ไปยังไง ดูเหมือนเขาไม่คิดถึงความรู้สึกของสลิธีรีน ไม่คิดถึงความรู้สึกของเซเวอรัส และเมื่อเวลาผ่านไปเราจะพบว่าเขาเหยียบย้ำความรู้สึกของเซเวอรัสเรื่อยๆ
'Tom Cat' เอ้ย! 'ทอม ริดเดิ้ล' บอกเราว่าดัมเบิลดอร์คอยจับตาดูและเอาแต่จ้องจับผิดเขาจนน่ารำคาญในเล่ม2 แต่พอเล่มหกมีการเปิดเผยภาพสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ย่ำแย่เราต้องจำให้ได้ว่าปีที่ห้องแห่งความถูกเปิดออกปี 1943 ซึ่งอยู่ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองตามประวัติศาสตร์(1939-1945) ที่อังกฤษก็ถูกโจมตีจนมีพลเรือนเสียชีวิตมากกว่าหกหมื่นคนและบาดเจ็บอีกนับแสน อาหารขาดแคลน เด็กๆ ต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งทรัพยากร
ลูปินระบุในเล่ม3 ว่าเซเวอรัสถูกห้ามไม่ให้บอกใคร แล้วลิลี่ไปรู้มาจากไหนว่าเจมส์ช่วยชีวิตเซเวอรัส!? คือเล่ม7 ทั้งหมดทั้งปวงก็ถูกเปิดให้เราเห็นอีกว่าเขาไม่ใช่อาจารย์ใหญ่ที่เที่ยงธรรมแบบที่ "เพจแฮร์รี่ พอตเตอร์" ทั้งหลายชอบบอกเรา เพราะเหยื่อไม่มีสิทธิ์พูดอะไรเลย แต่เจมส์และตัวกวนสามารถแต่งเรื่องยังไงก็ได้เหรอ!?
มิน่า ซิเรียสไม่รู้สึกผิดที่เปิดเผยความลับเพื่อนสนิทและทำให้เซเวอรัสเกือบถูกฆ่า เพราะโดนให้ท้ายขนาดนั้น
ไม่เพียงเท่านั้น การจ้างแฮกริดเป็นอาจารย์สอนวิชาสัตว์วิเศษถือเป็นหายนะ เล่ม3 นี่พอไหวอยู่นะ แต่เล่ม4 นี่หัวจะปวดละ เล่นเอาสกรู๊ตประทุไฟมาสอนแล้วมีการบอกว่าไม่รู้ว่ามันกินอะไร ลองให้ตับไก่ดูก่อนละกัน (ทำไมไม่ทำการบ้านมาก่อนวะ!?) กว่าคนอ่านจะตระหนักก็ตอนที่มีอาจารย์อีกท่านมาสอนชั่วคราวในเล่ม5 แล้วนักเรียนได้ความรู้อย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในวิชานี้ แต่แฮร์รี่ของเราแม่งเย่อหยิ่งและอคติเกินกว่าจะคิดได้
นี่ยังไม่นับการเฉลยเพิ่มในบทสัมภาษณ์อีกว่า "กิลเดอร์ลอยด์ ล๊อคฮาร์ทถูกเลือกเพราะมีมันมาสมัครอยู่คนเดียว" นั่นโกหกทั้งเพ ดัมเบิลดอร์ตั้งเลือกมันมาเพราะต้องการเปิดโปงว่าล๊อคฮาร์ทเป็นคนลวงโลก
ลองคิดว่า ผอ. โรงเรียนท่านผู้อ่านหรือลูกท่านผู้อ่านจ้างคนเก่งคณิตศาสตร์ปลอมๆ มาสอน ปีนี้เลยไม่ต้องเรียนเหี้ยอะไรเลย แบบนี้คนกำลังจะสอบเข้ามหาลัยแล้วมีวิชาเลขเป็นวิชาหลักคงจะโอเคมั้ง
ดัมเบิลดอร์ไม่ใช่คนยุติธรรม เขาฉาบฉวยและเต็มไปด้วยอคติอย่างเหลือเชื่อ เขาเลือกคนของเขาเสมอโดยไม่สนผลที่ตาม ไม่สำคัญว่าแฮกริดจะไร้ความสามารถ หรือลูปินจะไร้กระดูกสันหลัง เขาจะเลือกคนที่ไม่ใช่คนของเขาก็ต่อเมื่อคนๆ นั้นมีประโยชน์หรือจำนนอย่างสมบูรณ์ ใน "เรื่องเล่าของเจ้าชาย" เขาเย็นชาและขาดความเห็นใจจนกว่าจะตระหนักว่าเขาต้องขอเซเวอรัสในสิ่งที่มากเกินไป
เราคงพอหยวนๆ ที่เขากระดี๊กระด๊าเมื่อแฮร์รี่สารภาพว่าเขาได้อยู่กริฟฟินดอร์เพราะเขาขอไม่ไปสลิธีรีนตอนเล่มสอง แต่การชื่นชมความกล้าหาญและเสียสละของเซเวอรัส สเนปและบอกว่า "เราคัดสรรกันเร็วเกินไป" มันคืออะไร? สลิธีรีนกล้าไม่ได้เหรอ? ภักดีไม่ได้? ซื่อสัตย์ไม่ได้ใช่มั้ย? หรือถ้าสลิธีรีนสามารถมีทุกสิ่งที่กล่าวมาได้ ทำไมพูดเหมือนเสียดายที่เซเวอรัสอยู่สลิธีรีน
บางคนคิดว่าหมวกมันเก่าแล้วเลยผิดพลาด แต่ JK Rowling ยืนยันหนักแน่นที่ Edinburgh, Scotland วันที่ 16 กรกฎาคม 2005 ว่า "หมวกคัดสรรไม่เคยผิดพลาด"
เจเค โรว์ลิ่งยืนยันว่าหมวกคัดสรรไม่เคยผิด
และยังบอกด้วยว่าสลิธีรีนไม่ได้แย่ไปทั้งหมด ผู้เสพความตายมีทุกบ้าน เมื่อผู้สัมภาษณ์ถามย้ำว่ามีผู้เสพความตายในบ้านอื่นน้อยกว่าใช่มั้ยสองครั้งติดกัน เธอจึงบอกว่า "อาจจะ" แล้วก็เฉไปพูดเรื่องอื่นซึ่งแปลว่าไม่ต้องให้พูดซ้ำ
JK Rowingพยายามอธิบายทุกบ้านมีผู้เสพความตายและผู้เกี่ยวข้องพอๆ กัน
แต่สำหรับดัมเบิลดอร์ เขาตัดสินคนจากอะไร เขาคิดว่าการที่คนจะเป็นคนดีหรือเลวขึ้นอยู่กับตัวของคนใช่หรือไม่? ถ้าไปอยู่สลิธีรีนยังไงก็เลวแน่ๆรึเปล่า? ดังนั้นเขาไม่สนใจว่าเด็กแต่ละคนมีองค์ประกอบมากมายที่ ดัมเบิลดอร์เห็นทั้งหมดแต่ไม่สนใจที่จะทำอะไรซักอย่างเพื่อสวัสดิภาพของทอม กลายเป็นคำอธิบายว่าทำไมเขาไม่สนใจที่จะตรวจสอบความเป็นอยู่ของ เซเวอรัส และ แฮร์รี่
เล่ม5-6-7 ดัมเบิลดอร์ใช้ประโยชน์จากแฮร์รี่มากกว่าที่ใครจะคาด เราไม่เห็นภาพรวมจนกว่าความจริงจะเปิดเผยใน "เรื่องเล่าของเจ้าชาย" จึงพบว่าดัมเบิลดอร์รู้มาแต่ต้นว่าโวลเดอร์มอร์จะกลับมา รู้ว่าควีเรลล์ไม่สามารถไว้ใจได้แต่กล้าจ้าง! และนำศิลานักปราชญ์มาไว้ในโรงเรียน ซึ่งไม่ควรทำเลยเพราะคนสติดีจะไม่เอาสิ่งที่คนร้ายต้องการมาเก็บไว้ในโรงเรียนที่มีเด็กๆ อยู่แม้จะจ้าง 'เจมส์ บอนด์' มาพิทักษ์ของสิ่งนั้นก็ตาม
นี่ทำให้เรานึกถึงเล่ม4 อีกครั้งที่ดัมเบิลดอร์ฉายประกายแห่งชัยชนะในดวงตาและถามมาด้วยความเหนื่อยใจและเล่มแรกที่เขาบอกว่าจะไม่ทำอะไรกับแผลเป็นเพราะมันอาจมีประโยชน์ เขารู้อยู่แล้วว่าแฮร์รี่เป็นฮอร์ครักซ์! เขาคิดจริงๆ ว่าเซเวอรัสจะเล่นเป็นครูจอมโหดเพื่อฝึกนักเรียนให้เข้มแข็งโดยแสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่า "เด็กๆ ต้องพบเจอหลายสิ่งเพื่อให้เติบโตเป็นคนที่ดีกว่า ครูโหดๆ ก็เป็นหนึ่งในนั้น"
ดังนั้นเขานำศิลานักปราชญ์มาไว้ในโรงเรียน เขาจ้างล๊อคฮาร์ทมาแม้จะรู้ว่าไร้ความสามารถ จ้างลูปินมาแม้จะมีข้อกังขา เขาไม่พยายามหาวิธีใดๆ ในการแทรกแทรงหรือแก้ไขกรณีที่แฮร์รี่มีชื่อออกจากถ้วยอัคนีไม่ใช่เพราะทำไม่ได้ แต่เขาปล่อยให้มันเป็นไปเพื่อฝึกฝนแฮร์รี่และสอนเขาให้ไปในทิศทางที่เขาต้องการ
เมื่อเวลาผ่านไป เขาเริ่มรักแฮร์รี่(ใช่) แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาพยายามจะถอดฮอร์ครักซ์ออกจากเด็กชายเพื่อให้เขาปลอดภัยทั้งๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านยาและศาสตร์มืดอยู่ข้างๆ เขายังคงแน่วแน่ที่จะนำทางแฮร์รี่ไปสู่ความตายในเวลาที่เหมาะสม เช่นเดียวกับ "หม่าม้า อิซาเบลล่า" ในเรื่อง "The Promise Neverland" ที่แม้จะรักเหล่าปศุสัตว์เด็กที่เลี้ยงดูมามากแค่ไหนก็ยังคงยืนกรานที่จะส่งพวกเขาไปสู่ความตาย
สิ่งเหล่านี้ฟังดูน่ากลัว เจตนาของดัมเบิลดอร์ที่รักษาสภาพฮอร์ครักซ์ของแฮร์รี่ไว้เพื่อเอาชนะเกมเดิมพันที่ใหญ่มาก ทำให้น่าคิดว่าหากไม่มีเซเวอรัสที่จะนำคำพยากรณ์ไปบอกแต่แรก ดัมเบิลดอร์ก็จะเผยแพร่คำพยากรณ์อยู่ดี ที่เขาไม่ออกไปตามหาและจัดการโวลเดอร์มอร์แต่แรกก็อาจเพราะเขาเคยทำแล้วและมันล้มเหลว เพราะเขาไม่สามารถชนะคนที่ไม่สามารถฆ่าให้ตายได้
เขาจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่จะจัดการสิ่งนี้  เขาเลือกรับสมัครทหารเด็กที่มีความสามารถ--กริฟฟินดอร์ โดยเฉพาะเจมส์ พอตเตอร์ และถึงขนาดให้ท้ายเจมส์สุดๆ เพื่อให้ได้รับความภักดี ก็โวลเดอร์มอร์ลงทุนเชิญเจมส์และลิลี่กลุ่มด้วยตัวเองและถูกปฏิเสธทั้งสามครั้งย่อมยืนยันว่าทั้งคู่เป็นจอมเวทย์แถวหน้าที่เด็กชายสเนปเทียบไม่ติดอยู่แล้ว ทำไมเขาต้องสนใจวิญญาณซีดๆ ผมมันเยิ้มที่ลอยผ่านไปอย่างเซื่องซึม
แต่การที่ดัมเบิลดอร์เป็นคนที่น่ากลัว น่าขยะแขยงเบอร์นี่ไม่ได้ทำให้เขาเป็นคนชั่ว เพราะเขาทำทั้งหมดเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่--นั่นคือการปกป้องโลกเวทมนตร์ เพียงแต่ดัมเบิลดอร์แค่ไม่ได้มองโลกอย่างที่คนทั่วไปมองหากแต่มองจากบนฟ้าและเห็นภาพรวมทั้งหมด เหมือนเล่นหมากรุก จึงไม่ได้สนใจการล้มตายของเบี้ย ความทุกข์ของควีนหรือความคับข้องใจของคิง เขาไม่ใช่คนมีมนุษยธรรมแต่เป็นคนที่วิ่งไล่ตามอุดมคติแห่งคุณธรรมเพื่อส่วนรวม
ถ้ายังจำได้เขาบอกเซเวอรัสน่าขยะแขยงที่คิดถึงแต่ลิลี่ เขาไม่ได้แคร์ว่าเซเวอรัสไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อรองกับโวลเดอร์มอร์ด้วยซ้ำ เขาคิดแค่ 'คนดีจะต้องพยายามช่วยเหลือทั้งครอบครัว' ซึ่งนั่นอุดมคติที่เป็นไปไม่ได้ในทางปฎิบัติสำหรับผู้เสพความตายปลายแถว จะขอชีวิตเด็กจอมมารตั้งใจแน่วแน่ว่าจะฆ่าได้ไง? ขอชีวิตเจมส์จะให้อ้างว่ายังไง? ขอชีวิตลิลี่ยังโดยอ้างว่าผมหลงใหลผู้หญิงคนนี้มานานแล้วยังง่ายกว่า!
ผมพยายามคิดนะ ที่บอกว่าเซเวอรัสน่าขยะแขยงอาจเป็นเพียงจิตวิทยาเพื่อจะกดเด็กหนุ่มให้ติดพื้นจนไม่สามารถต่อรอง แต่เมื่อเขาขอร้องให้เขาปกป้องทุกคนแทนดัมเบิลดอร์ก็พูดขึ้นทันทีว่าถ้าทำแบบนั้นแล้วเด็กหนุ่มจะให้อะไรเขาเป็นการตอบแทน? ผมนี่แบบ "ฮะ!?" ขึ้นมาทันที แสดงว่าเขาไม่สนใจความปลอดภัยของพวกพอตเตอร์(คนของตัวเอง)เหรอ!? ถึงเรียกร้องการรับใช้จากคนที่เสี่ยงตายคาบข่าวมาบอก??
ทำไมไม่แค่ "ฉันไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้ตลอดไปตราบเท่าที่เจ้านายของเธอยังมีอำนาจ ทำไมเธอไม่ช่วยฉันล่ะ ช่วยฉันต่อสู้กับเขา ช่วยฉันปกป้องคนที่เธอรัก" ผมว่าแค่นี้เซเวอรัสก็ถวายชีวิตแล้ว ไม่เข้าใจว่าจะเหยียบย่ำเขาเพื่ออะไร งงว่าเซเวอรัสแม่งต้องโง่และซื่อขนาดไหนที่ยอมได้วะ?
ต่อมาเลยได้ข้อสรุปว่าหมอนี่เป็นควายน้อยแสนโรแมนติกที่วางเธอคนนั้นไว้บนแท่นและบูชาราวกับพระเจ้า ("- -)
และอีกครั้ง--ใครตั้งข้อสังเกตว่าดัมเบิลดอร์ไม่อ้างเรื่อง "หนี้ชีวิต" กับทารกผู้เสพความตายคนโปรดของเรา นั่นทำให้น่าสงสัยว่าการที่เจมส์ช่วยชีวิตเซเวอรัสอาจจะไม่มีผลผูกมัด? ถ้าเช่นนั้นเป็นไปได้ว่าเจมส์ไม่ได้ตั้งใจช่วยเซเวอรัสแต่ตั้งใจช่วยซิเรียสและรีมัสจากปัญหา และเซเวอรัสเป็นแค่ผลพลอยได้ ดังนั้นหนี้ชีวิตจึงไม่มี ถ้างั้นที่เขาบอกแฮร์รี่เกี่ยวกับวีรกรรมของเจมส์คืออะไร?
ผมพบสิ่งที่น่าสนใจว่าดัมเบิลดอร์ไม่ใช่คนขี้โกหก เมื่อแฮร์รี่ถามเกี่ยวกับเซเวอรัสว่า "he hated my father" ดัมเบิลดอร์บอก "not unlike yourself and Mr. Malfoy"
*ดู grammatically นี้ครับ มันไม่ใช่ "Mr. malfoy and yourself" ที่จะสมเหตุสมผลมากกว่าถ้าคิดว่าเจมส์เป็นเหมือนแฮร์รี่ เซเวอรัสควรเป็นเดรโกใช่มั้ย? ดัมเบิลดอร์เลือกใช้ "yourself and Mr. Malfoy"
เซเวอรัสไม่ชอบเจมส์แต่แรกเจอด้วยเหตุผลเดียวกับที่แฮร์รี่ไม่ชอบเดรโก!!
น่าตกใจที่มันจริง เซเวอรัสและเจมส์พบกันบนรถไฟ เจมส์โอ้อวดบ้านกริฟฟินดอร์แล้วดูหมิ่นซิเรียสเมื่อเขาบอกว่าครอบครัวเขาเป็นสลิธีรีนก่อนจะเป็นเพื่อนกันภายหลังเมื่อซิเรียสบอกว่าตั้งใจจะแหกคอก เช่นกันแฮร์รี่ไม่ชอบเดรโกทันทีที่ได้ยินเขาอวดสลิธีรีนและดูหมิ่นฮัพเฟิลพัฟ ดังนั้นถ้าเราเปลี่ยนคำว่าสลิธีรีนในปากของเจมส์เป็นฮัพเฟิลพัฟ เราก็จะเข้าใจว่าเซเวอรัสไม่ชอบเจมส์แต่แรกเจอเพราะอะไร
กูอยากอยู่สลิธีรีนแล้วหนักอะไรของมึง?
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เมื่อแฮร์รี่คุยกับเดรโกครั้งแรกเขารู้สึกว่าเดรโกเหมือนดัดลี่ย์ คำบรรยายเกี่ยวกับเจมส์บนรถไฟนั้นฟังดูเหมือนจะเป็นลักษณะของเดรโก--เด็กชายผอมบางที่ได้รับการดูแลอย่างดี และดัดลี่ย์มีเพื่อนสนิท(ใกล้ชิด)ชื่อPiersซึ่งเป็นรูปแบบเก่าของชื่อPeter เด็กผู้ชายคนนี้มีลักษณะเหมือนหนู
สิ่งนี้บอกใบ้เกี่ยวกับเจมส์ที่เป็นอันธพาลตัวเอ้แล้วมีคนใกล้ชิด(ผู้รักษาความลับ)ชื่อปีเตอร์ซึ่งเป็นแปลงร่างเป็นหนู แล้วสิ่งนี้ก็ถูกเล่นซ้ำในเล่ม3 โดยคำพูดของซิเรียสที่ดูจะพูดออกไปโดยลืมว่าแฮร์รี่ยืนฟังอยู่ ก่อนจะเป็นภาพสมบูรณ์ในเล่ม5 เพราะแฮร์รี่โง่เกินกว่าจะเห็น  JK Rowling เลยจัดเต็มให้ในฐานะพระเจ้าของเรื่องราว
ซิเรียสยอมรับอ้อมๆ ว่าเจมส์เป็นอันธพาลระหว่างดูหมิ่นปีเตอร์
ขณะที่คนมากมายพูดถึงเจมส์ในทางบวกสุดๆ เพราะคงไม่มีใครใจร้ายพอจะบอกเด็กกำพร้าว่าพ่อมึงเลว(ยกเว้นครูเคมีจอมอาฆาต) ดัมเบิลดอร์คือคนเดียวที่พูดกับแฮร์รี่ว่าพ่อของเขาเหมือนเดรโก และตลอดทั้งเล่มเขาไม่ได้ยกยอเจมส์ให้บริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งๆ ที่ตั้งเจมส์ขึ้นมาเป็น headboy แท้ๆ แถมบอกเป็นนัยย์ๆ ด้วยว่าเจมส์ชอบก่อเรื่อง แค่แฮร์รี่ตาบอดเกินกว่าจะเข้าใจ
นั่นรึเปล่านะที่ดัมเบิลดอร์เห็นเดรโกแล้วนึกถึงเจมส์รึเปล่า? หรือบางที การพูดเพื่อเดรโกในปี6 เป็นการพยายามซื้อใจเซเวอรัส เพราะเขารู้ว่าเซเวอรัสรักเด็กคนนี้ เขาพยายามจริงๆ ที่จะแก้ไขความรู้สึกไม่ดีของเซเวอรัสเพื่อให้ครูหนุ่มยอมเสียสละอีกครั้ง เขาเคยทำมาแล้วเมื่อเซเวอรัสตัดสินใจจะตายเพื่อชดใช้ เขาก็ลากแฮร์รี่เข้ามาในวงโคจรของเซเวอรัสเพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป
ดังนั้นเขาจึงพูดสิ่งนี้กับแฮร์รี่ 'เจมส์ทำสิ่งที่เซเวอรัสยกโทษให้ไม่ได้คือการช่วยชีวิตเขา' ก็เซเวอรัสควรตายเพื่อชดใช้ให้ครอบครัวพอตเตอร์แต่กลับตายไม่ได้ เพราะเจมส์ดันทะลึ่งทำแฮร์รี่ไว้ให้ดูต่างหน้า จะทิ้งก็ไม่ได้เพราะมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ลิลี่เหลือไว้ในโลก เลยจำใจดูแลเด็กชายผู้เป็นสำเนาคาร์บอนของอดีตอันธพาลที่ทำลายชีวิตของเขาทั้งชีวิต
ผู้อ่านคิดว่าไงครับ?
โฆษณา