เกมแข่งขันฟุตบอลในโลกใบนี้มีมากมายหลายแมตซ์นับไม่ถ้วน แต่ในชีวิตคนดูบอลอย่างเราๆท่านๆคงมีไม่กี่แมตซ์ที่มีความถวิลหาอยากจะรับชมเป็นพิเศษ นอกจากจะเป็นดาร์บีแมตซ์ประจำเมืองต่างๆ อาทิ มิลานดาร์บีแมตซ์, โรมดาร์บีแมตซ์, ลอนดอนดาร์บีแมตซ์ ฯลฯ ยังมีศึกที่ไม่ใช่คู่แข่งร่วมเมืองเดียวกันเช่น เอล กราซิโก้ เป็นการพบกันระหว่าง รีล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า หรือจะเป็นศึก แดร์ คลาสสิกเคอร์ เป็นการปะทะกันระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค กับ ดอร์ทมุน
หากถามถึงผมผู้เรียกได้ว่าเป็นแฟนฟุตบอลมาตั้งแต่ปลายยุค 90 ที่ได้สถาปนาตนเอง โดยที่ไม่ได้กรีดเลือดสาบานให้เจ็บตัวเองว่าเป็นสาวกหงส์แดง ตั้งแต่ช่วงปลายปี 1996 เป็นต้นมา แน่นอนว่าจะต้องเป็น “ศึกแดงเดือด” ระหว่าง ลิเวอร์พูล พบกับ แมนฯยูไนเต็ด เป็นเกมการแข่งขันที่ผมชื่นชอบ โหยหาอยากที่จะรับชม ยืนหนึ่งมาตลอดในชีวิตการติดตามทีมรักทีมนี้
แดงเดือด แม้จะไม่ใช่เกมดาร์บีแมตซ์คู่แข่งร่วมเมือง แต่ทว่าเป็นเกมประวัติศาสตร์ที่ถือกำเนิดมายาวนาน ที่มีความเป็นมามากกว่าเกมฟุตบอลในการแย่งชิงความเป็นหนึ่งในสมรภูมิศึกลูกหนังของประเทศ ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากการแข่งขันด้านวัฒนธรรม การค้าขาย ด้านการอุตสาหกรรม ของทั้งสองเมือง ระหว่างเมืองลิเวอร์พูล กับเมืองแมนเชสเตอร์ ตั้งแต่สมัยอดีตนานมา โดยที่ “ศึกแดงเดือด” (The Red Wars) ถือกำเนิดเกิดขึ้นเป็นหนแรกในปี 1894
วันที่ 19 เมษายน 1997 เป็นแดงเดือดครั้งแรกที่ได้ติดตามแต่ยังไม่ได้รับชม เพราะขณะนั้นหารับชมยาก ซึ่งเป็นแดงเดือดที่ไม่น่าจะจดจำเท่าไหร่สำหรับ เดอะค็อป เพราะเป็นการพ่ายแพ้คารังให้แก่ ยูไนเต็ดไป 1-3 ความรู้สึกในขณะนั้นเท่าที่จำความได้ก็ไม่ได้มี อินเนอร์อะไรเป็นพิเศษกับแมตซ์ๆนี้ กับวัยเพียงแค่ 10 ขวบเศษเท่านั้น
17 ธันวาคม 2000 เป็นแดงเดือดที่ตราตรึงในหัวใจของผมมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะเป็นการเอาชนะอริตลอดกาลเป็นครั้งแรกในสายตาคู่นี้ของผมนับตั้งแต่ตามเชียร์ลิเวอร์พูลมา ซึ่งเกมในวันนั้นตะบันแข้งที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยประตูชัยเพียงประตูเดียวของ ลิเวอร์พูล เกิดขึ้นในนาทีที่ 43 จากจังหวะฟรีคิกของ แดนนี่ เมอร์ฟี่ ยิงเข้าไปอย่างสวยงาม แน่นอนว่าเป็นแมตซ์และประตู ที่ผมระลึกและจดจำมาได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นอีกหนึ่งแมตซ์ที่อยู่ในความประทับใจของผมมาโดยตลอด
การชนะต่อคู่ปรับตลอดกาลในเกมนั้น ทำให้ผมประทับใจ ชื่นชอบ เกมแดงเดือด และเป็นจุดเริ่มต้นในการ ปรารถนา ถวิลหา อยากที่รับชมเกมนี้มานับตั้งบัดนั้นเป็นต้นมา
ขึ้นชื่อว่า “แดงเดือด” เป็นที่การันตีของความเดือดอยู่แล้ว แม้ว่าบางปีจะเดือดอยู่ฝั่งเดียวก็ตาม หรือบางช่วงเวลาจะเป็นการผูกขาดชัยชนะของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอยู่บ้าง ทว่าในเกมยังคงมีความเดือด มีเรื่องราวต่างๆมากมายให้พูดถึง ที่สำคัญ “แดงเดือด” มักจะอยู่เหนือการวิจารณ์ใดๆ เพราะแม้ว่าบางปี จะมีทีมใดทีมหนึ่งที่ฟอร์มย่ำแย่ สถานการณ์ต่างๆดูไม่ดี พอมาถึงเกมนี้ ราวกับว่าทิ้งเรื่องราวต่างๆไปจนหมดสิ้น หลายครั้งที่ทีมเป็นรองแต่ชนะได้ในเกมๆนี้ นี่จึงเป็นเสน่ห์ของคำว่า “แดงเดือด”
ศึกแดงเดือดที่กำลังจะเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ ได้เดินทางมาถึงอย่างรวดเร็วเพียงแค่เกมที่ 3 ของฤดูกาลเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นแดงเดือดที่เกิดขึ้นไวที่สุดตั้งแต่ที่ผมจำความได้ โดยที่จะเตะกันในมันเดย์ไนท์ คืนวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม น่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่อุณหภูมิความร้อนสูงถึงขั้นจุดเดือด
ด้วยเป็นเกมที่มีความคาดหวังในชัยชนะด้วยกันทั้งคู่ หลังจากที่ทั้งคู่เปิดฤดูกาลแบบน่าผิดหวังต่อบรรดาแฟนบอลของตนเอง แมนฯยูไนเต็ด พ่ายให้คู่แข่งมาทั้งสองเกมยังไม่มีแต้ม ส่วน ทีมจากถิ่นแอนฟิลด์ ยังคลำหาชัยชนะในฤดูกาลนี้ไม่เจอ พลาดถ้าเสมอทั้งสองเกมทำแต้มหล่นไป 4 คะแนน เพราะฉันนั้นแล้วเกมนี้ต่างฝ่ายต่างต้องการ 3 คะแนนแน่นอน เพื่อกอบกู้สถานการณ์ของตัวเองกลับคืนมา กอปรกับเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ที่ไม่มีใครยอมใคร จึงเชื่อและหวังว่าเกมนี้จะเป็นเกมระดับจุดเดือดความร้อนแรงเกิน 212 องศาฟาเรนไฮต์
แม้ในพักหลังมานี้ตั้งแต่ เยอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียนจะมีแมตซ์อื่นๆที่มีความเดือด เร้าใจ กว่าศึกแดงเดือดในหลายๆเกม โดยเฉพาะการดวลกับ ทัพเรือใบสีฟ้า โดยมี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นกุนซือที่เจอกันทีไรมีครบทุรสชาติไม่ว่าจะเป็นความมันส์ คุณภาพเกิน 5 ดาว แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว แดงเดือดก็ยังคงเป็นแดงเดือด ที่ยังคงเป็นที่นิยม เป็นที่รอคอยแก่แฟนบอล และมักจะเสน่ห์ในตัวของมันเสมอ
ตลอดชีวิตการติดตามทีมรักอย่าง ลิเวอร์พูล มีคำหนึ่งที่ยึดถืออยู่ในใจขอเสมอและเชื่อว่าแฟนหงส์แดงหลายท่านจะเป็นเหมือนกันนั่นคือ “แพ้ใครแพ้ได้ แต่ แพ้แมนฯยูฯ ไม่ได้”
❤️“You "ll never walk alone “❤️
🖌️ P.F. Klopper
August 19, 2022
.
.
.
.
.
.
.
.
.
📌📌📌คอลัมน์ #Red_Bird
เป็นบทความที่เขียนถึงมุมมองต่างๆรอบรั้วแอนฟิลด์ และเรื่องราวที่เกี่ยวกับ ลิเวอร์พูลสอดแทรกกับความคิดของผู้เขียนเอง ในฐานะที่เป็น “แฟนบอล” ลิเวอร์พูลคนหนึ่ง ที่รักลิเวอร์พูล ไม่ใช่ “กูรู” แต่อย่างใด ที่อยากถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวหนังสือสำหรับสายอ่านชาว LFC จะนำมาให้อ่านสัปดาห์ละอย่างน้อย 1 บทความ
ABOUT THE AUTHOR
#P.F.Klopper มีเลือด ลิเวอร์พูล ข้มข้น และเข้าในเส้นเลือด เป็นแฟนบอลที่ร่วมเชียร์ นกสีแดงตัวนี้ ไปพร้อมกับพวกคุณ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
