21 ส.ค. 2022 เวลา 07:18 • ธุรกิจ
ทำไม TikTok ไม่มีวัน ฆ่า Facebook ได้
3
คำกล่าวที่บอกว่าคนจะไม่เล่น Facebook แล้วแต่ไปเล่น TikTok แทน
เมื่อพิจารณาถึงข้อเท็จจริงแล้ว คำกล่าวนี้น่าจะไม่ใช่อย่างนั้นซะทีเดียว
6
เพราะมันจะไม่มีวันที่คนทั้งหมด เลิกใช้ Facebook แล้วหันไปใช้ TikTok แทน
4
เรื่องนี้เป็นเพราะอะไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
ถ้าเมื่อ 10 ปีก่อน สังคมโซเชียลยังไม่ได้ใหญ่เป็นแบบทุกวันนี้ ถ้านึกภาพในตอนนั้นเราก็จะรู้จักสื่ออยู่ไม่กี่ชนิด เช่น ทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ
สื่อแต่ละรูปแบบก็ทำหน้าที่ของมันไป
ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะดูทีวีตลอดเวลา
ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะอ่านแต่หนังสือพิมพ์ตลอดเวลา
1
คนจะเสพสื่อเหล่านั้นในตามแต่ละความต้องการในเวลานั้น
1
แบ่งประเภทง่าย ๆ ก็คือ
1. ดู
2. อ่าน
3. ฟัง
6
ตัวอย่างเช่น คนส่วนใหญ่จะดูทีวีเมื่อต้องการความบันเทิง
ส่วนคนที่อ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ก็เพื่อต้องการข้อมูล ข่าวสาร หรือเนื้อหาสาระในเรื่องที่สนใจ อย่างรวดเร็ว หรืออย่างลึกซึ้ง
สำหรับคนที่ฟังวิทยุ ก็จะฟังตอนที่สายตาต้องเพ่งเล็งกับอย่างอื่น เช่น ระหว่างขับรถ ทำงานบ้าน หรือ ออกกำลังกาย
2
ต่อมาเมื่อมีโซเชียลมีเดียเกิดขึ้น
ในยุคแรกที่เทคโนโลยียังส่ง data กันได้ไม่มาก โซเชียลในยุคแรก ๆ ก็จะเกี่ยวกับการส่งข้อความและรูปเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรม Chat, Facebook, Twiiter ซึ่งต่อมาก็ Instagram
2
รู้หรือไม่ว่าในวันแรกนั้น Facebook ไม่ได้มีวิดีโอ แบบทุกวันนี้..
1
หลังจากที่โซเชียลมีเดีย มาอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคแรก ก็ทำให้หนังสือพิมพ์และนิตยสารล้มหายตายจากไป
1
เพราะมนุษย์ไม่มีความจำเป็นต้องอ่านหรือดูภาพในหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารอีกแล้ว สื่อโซเชียลได้เปรียบในเรื่อง ความสดใหม่ของข้อมูล การเปิดโอกาสให้ใครก็ได้มาเป็นคนเผยแพร่ข้อมูล และการเลือกติดตามเฉพาะสิ่งที่ตัวเองสนใจ ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนที่ต้องเห็นเนื้อหาเหมือนกันหมดทุกคนในหนังสือพิมพ์
6
ในเวลาต่อมาเมื่อเทคโนโลยีพัฒนา คนสามารถส่งข้อมูลกันได้มากขึ้น สื่อที่เกี่ยวกับเนื้อหาวิดีโอก็จะมีบทบาทมากขึ้น ซึ่งในยุคนี้เป็นยุคที่เปลี่ยนผ่านจากยุค 3G เป็น 4G
ผู้นำในตลาดวิดีโอก็คือ YouTube และต่อมา Facebook ก็ปรับตัวมาแย่งตลาดนี้กับ YouTube
2
ซึ่งใน 5 ปีที่แล้ว มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เพิ่งจะมาเน้นวิดีโอใน Facebook..
เมื่อเวลาผ่านไปตลาดมีการพัฒนา และค้นพบว่าสื่อที่เป็นวิดีโอนั้นไม่เหมาะสมกับพฤติกรรมมนุษย์ในชีวิตปัจจุบันที่จะหยิบมือถือมาในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่บ่อย ๆ ซึ่งต่างจากในอดีตที่มนุษย์จะดูวิดีโอตอนช่วงเวลาว่างแบบยาว ๆ
3
ดังนั้น TikTok ก็เลยมีช่องว่างขึ้นมาในตลาดวิดีโอ
และแน่นอน TikTok มาแย่งแค่ 1 ใน 3 ของตลาดทั้งหมด ซึ่งก็คือตลาดที่ดูวิดีโอ ซึ่งยังเหลืออีก 2 ตลาดนั่นก็คือ การอ่าน และการฟัง
1
การฟังเป็นตลาดที่เล็กกว่าการดูและการอ่านมาก แต่ก็เป็นตลาดเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีใครสามารถฆ่าได้เช่นกัน ซึ่งในวันนี้เราก็จะเห็น Podcast ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ มาตอบโจทย์นี้อยู่แล้ว
2
ส่วนการอ่านเป็นตลาดที่ใหญ่มากและเป็นวิถีของชีวิตมนุษย์มาหลายพันปีแล้ว
7
ทุกครั้งที่อยากได้ข่าวสาร หรือความรู้ใหม่แบบรวดเร็ว มนุษย์จะใช้วิธีการอ่านแบบคร่าว ๆ
4
ทุกครั้งที่อยากได้ความรู้ใหม่แบบลึกซึ้ง มนุษย์จะใช้วิธีการอ่านอย่างตั้งใจในข้อความเหล่านั้น
2
คำพูดที่บอกว่าคนใช้เวลากับ Facebook น้อยลงและไปใช้เวลากับ TikTok มากขึ้น
นั่นก็เป็นเพราะ TikTok แย่งส่วนแบ่งในเรื่องวิดีโอจาก Facebook และ YouTube มาได้
5
แต่มันก็จะแย่งได้ถึงจุดหนึ่งเท่านั้น เพราะสิ่งที่ TikTok แย่งไม่ได้เลย ก็คือตลาดการอ่าน.. "เพราะไม่มีใครเข้าไปอ่านเนื้อหาใน TikTok"
8
เช่นเดียวกันกับ IG ที่คนใช้จะไม่ได้เน้นอ่านในนั้น และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ Meta ตั้งใจเอา IG มาเป็นทัพหน้าในการทำสงครามกับ TikTok
1
ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ส่วนผสมเวลาของผู้ใช้งานจะต่างไป
3
1. บุคคลที่ชอบดู ไม่ชอบอ่าน ก็จะใช้เวลาใน TikTok, IG มากกว่า Facebook
2
2. บุคคลที่ชอบอ่านมากกว่าดู ก็จะใช้เวลาใน Facebook มากกว่า TikTok, IG อยู่ดี
6
อ่านมาถึงตรงนี้ ผู้อ่านก็ลองประเมินว่าเราใช้ Facebook, IG, TikTok มากกว่ากัน
2
ถ้าเราใช้ Facebook มากกว่า ก็แปลว่าเราเป็นคนชอบอ่านมากกว่าดู
4
ถ้าเราใช้ IG, TikTok มากกว่า ก็แปลว่าเราชอบดูมากกว่าอ่าน
คนที่กล่าวอย่างมั่นใจว่า TikTok จะมาฆ่า Facebook และทุกคนใน Facebook จะหันไปเล่น TikTok ก็ให้เรามั่นใจได้เลยว่าคนนั้นเป็นคนชอบดู และไม่ชอบอ่าน
11
ดังนั้นถ้าจะบอกว่า TikTok กำลังมาฆ่า Facebook ที่เป็นผู้นำตลาดการอ่าน ก็คงเปรียบกับเรากำลังบอกว่ามนุษย์จะไม่อ่านหนังสือแล้ว ซึ่งเรายังไม่เห็นพฤติกรรมที่มนุษย์จะเลิกอ่านหนังสือ
11
และถ้าในอนาคต คนเล่น TikTok กันหมด แล้วไม่ใช้ Facebook แล้วจริง ๆ ประวัติศาสตร์ก็คงต้องจารึกไว้เลยว่า TikTok เป็นตัวเปลี่ยนเกมของมนุษยชาติ ที่ทำให้มนุษย์เลิกอ่านหนังสือ
10
ส่วนการอ่านหรือการดู สิ่งไหนดีมีประโยชน์กว่ากัน ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล บางคนโฟกัสกับการอ่านไม่ได้จริง ๆ หรือบางคนมีความจำเป็น เช่น ผู้สูงอายุ สายตาไม่ดีแล้ว ก็อาจชอบดู และฟัง สิ่งที่มีประโยชน์ไม่แพ้การอ่าน ก็เป็นได้
3
สำหรับครีเอเตอร์แล้ว ก็ต้องวิเคราะห์ดี ๆ ว่าเราต้องการจับกลุ่มไหน ถ้าเราทำคอนเทนต์สำหรับ บันเทิงสั้น ๆ TikTok จะเหมาะสมมาก เพราะคนส่วนใหญ่ใน TikTok ต้องการความบันเทิง หรือการพักผ่อน แต่ถ้าเราต้องการทำคอนเทนต์ที่เป็นข่าวบทความ เราอาจต้องย่อยให้เป็นวิดีโอสั้นกระชับจริง ๆ ในนั้น
4
สำหรับคอนเทนต์ด้านข่าว บทความ ข้อคิดเห็น Facebook ก็จะยังไม่หายไปไหน เพราะกลุ่มคนที่เข้า Facebook มาก็เพื่อหวังว่าจะอ่านสิ่งเหล่านี้ คนเข้า Facebook ไม่ได้หวังว่าจะมีดูคลิปสั้นเป็นหลัก คนเข้า Facebook มาเพื่อหวังว่าจะ "อ่าน" สิ่งที่เกิดกับเพื่อน เกิดกับสังคม เกิดกับเรื่องราวที่เขาสนใจ
ยกเว้น..
การที่ Facebook ปรับตัวเองให้เป็นเหมือนกับ TikTok เท่ากับว่า Facebook พยายามแลกจุดเด่นของตัวเอง เพื่อไปแข่งกับอีกเกมหนึ่งซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าใครจะชนะ
4
แต่ที่รู้ก็คือ คนที่ใช้ Facebook จะเจอกับสิ่งที่เขาไม่ได้ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ
5
และเมื่อถึงเวลาที่ Facebook หลุดจากความคาดหวังของคนใช้
นั่นแหละ ทุกคนก็จะค้นพบว่า
ไม่มีใครสามารถฆ่า Facebook ได้ นอกจากคนที่สร้าง Facebook เอง..
20
รู้ยัง ? ลงทุนแมนก็มี TikTok แล้วนะ ติดตามได้ที่ www.tiktok.com/@longtunman
2
โฆษณา