21 ส.ค. 2022 เวลา 08:42 • สุขภาพ
น้ำลายบูด คืออะไร ?
น้ำลายบูด เวลาเราตื่นนอนตอนเช้า เป็นเพราะว่าเวลาเรานอนหลับ จะทำให้น้ำลายของเราหลั่งออกมาน้อยลง จึงทำให้เกิดมีการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก และทำให้เกิดการชะล้างในช่องปากของเราได้ลดน้อยลง รวมถึงคนทีมีภาวะเครียด และดื่มน้ำน้อย ด้วย
น้ำลายบูด คืออะไร ?
อาการ
อาการที่มีกลิ่นปากมีชื่อทางการแพทย์ว่า “HALITOSIS” ซึ่งมีสาเหตุที่แตกต่างกันไปอย่างเช่น การใช้ชีวิต ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ บุหรี่ การรับประทานอาหาร จำพวก กระเทียม หัวหอม หรือว่าคนที่เป็นโรคอ้วน ถ้าหากว่าคุณเป็นโรคอ้วน จะทำให้คุณมีกลิ่นปากได้ง่ายมากกว่าคนที่ผอม หรือว่าคุณเป็นคนที่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าจัดนั่นเอง
2
ถึงแม้ว่าจะไม่มีพฤติกรรมเหล่านี้เลย ก็มีโอกาสที่จะมีกลิ่นปาก หรือน้ำลายบูดได้ในตอนเช้า ซึ่งกลิ่นปากนั้นมาจากแบคทีเรียต่าง ๆ ตามร่างกายของเรา แบคทีเรียต่า งๆ เหล่านี้ก็จะอาศัยอยู่ตามร่างกายของเราทุกที่ อย่างเช่น ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก โดยเฉพาะในช่องปากเป็นแหล่งที่แบคทีเรียชอบมาก ๆ
ซึ่งก่อนที่เราจะนอนก็มีการแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว แต่บางทีอาจจะไม่สะอาดพอ ทำให้แบคทีเรียที่อยู่ตามซอกฟันต่าง ๆ หรือว่าตามซอกเหงือก กระพุ้งแก้ม ก็จะย่อยสลายสารอาหารต่างๆ ที่ติดค้างอยู่ตามบริเวณ ฟัน เหงือก กระพุ้งแก้ม และก็ผลิตแก๊สออกมา ซึ่งแก๊สนี้ทำให้มีกลิ่นเหม็นนั่นเอง
1
พร้อมกับที่เวลาเรานอน ช่องปากของเราจะแห้งมากกว่าตอนกลางวันนั่นเอง ซึ่งการที่ช่องปากแห้งทำให้แบคทีเรียมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และนั่นก็เป็นเหตุที่ทำให้เรามีกลิ่นปาก หรือที่เรียกกันว่า น้ำลายบูด นั่นเอง
ถึงแม้ว่าเราจะแปรงฟันได้อย่างสะอาดแล้วก็ยังจะสามารถเกิดอาการนี้ได้ เพราะว่าแบคทีเรียเกิดมาตอนเรามีช่องปากที่แห้ง เพราะไม่มีน้ำลายไปเลี้ยงในช่องปาก ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งน้ำลายสามารถฆ่าเชื้อโรคได้
1
แต่เราก็สามารถลดจำนวนแบคทีเรียในช่องปากของเราได้ โดยการแปรงฟันให้สะอาด ใช้ยาสีฟันที่สามารถลดกลิ่นปากได้นั้นเอง
วิธีกำจัดกลิ่นปาก
1. การระงับกลิ่นปากที่ได้ผลที่สุดทำได้ง่าย ๆ ด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธีหลังอาหารทุกมื้อ และควรแปรงลิ้นด้วยทุกครั้งเพราะผิวของลิ้นจะประกอบด้วยตุ่มเล็ก ๆ มากมายสามารถเก็บกักเศษอาหารเล็ก ๆ และแผ่นคราบจุลินทรีย์ได้ง่าย
2. การใช้น้ำยาบ้วนปาก ยาอม หมากฝรั่งหรือสเปรย์ดับกลิ่น ช่วยระงับกลิ่นปากได้เพียงชั่วคราว และต้องระวังบางชนิดอาจมีส่วนประกอบของน้ำตาลมาก ถ้าอมบ่อย ๆ อาจสร้างปัญหาทำให้เกิดฟันผุตามมาและเกิดเป็นกลิ่นปากขึ้นมาใหม่ได้
3. การรับประทานผักและผลไม้ที่มีเส้นไยสูง เช่น ชมพู่ ฝรั่ง ก็สามารถช่วยระงับกลิ่นปากได้ระดับหนึ่ง อันเป็นผลมาจากการที่เส้นใยของผัก ผลไม้เหล่านี้ได้ทำการชะล้างเอาเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันออกไปบ้างขณะเคี้ยว
4. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง
5. ดื่มน้ำอย่างเพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว หรือหากรู้สึกปากแห้งควรจิบน้ำบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก
6. พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพในช่องปากและแก้ไขปัญหาในช่องปากให้เรียบร้อย และตรวจเป็นระยะทุก 6 เดือน
1
ลักษณะน้ำลายบ่งบอกโรคอะไรได้บ้าง ?
– มีน้ำลายในปากมากเกินไปจนผิดปกติ
ผู้ที่มีน้ำลายในช่องปากมากเกินไปแบบผิดปกติที่ควรจะเป็นเท่าที่รู้สึกได้ พร้อมตามมาด้วยอาการระคายคอ มีเสมหะ รู้สึกมีรสเปรี้ยวกลืนลำบาก หรือมีรสขมของน้ำดี เรอบ่อย แถมด้วยการมีกลิ่นปาก นั่นหมายความว่าคุณกำลังเป็นโรคกรดไหลย้อน
– น้ำลายแห้ง
อาการของน้ำลายแห้งนั้น เกิดจากการที่น้ำลายไม่สามารถไหลผ่านท่อน้ำลายได้อย่างสะดวก อาการแบบนี้มักเกิดขึ้นบ่อยในส่วนของต่อมน้ำลายใต้ขากรรไกร อาจจะมีอาการปวดและบวมใต้คางร่วมด้วย ซึ่งจะเป็น ๆ หาย ๆ มักจะมีอาการในเวลาที่รับประทานอาหาร ซึ่งบ่องบอกว่าคุณกำลังเป็นนิ่วต่อมน้ำลายนั่นเอง
– น้ำลายไหลในขณะนอนหลับ
ต้องบอกเลยว่าหลายๆคนคงเคยประสบเหตุการณ์ที่ตื่นมาแล้วน้ำลายไหลออกมาเปียกหมอนเป็นจำนวนมาก แต่คงคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ แต่จริงๆแล้วอาการดังกล่าวนี้อาจจะส่งผลเชื่อโยงกับหลาย ๆ โรคเช่น โรคทอนซิล โรคเหงือกและฟัน โรคที่ต่อมน้ำลาย รวมถึงไซนัส อีกด้วย
– น้ำลายเหนียว
เชื่อว่าหลายๆคนที่มีอาการน้ำลายเหนียว จะคิดว่าสงสัยเป็นเพราะพูดมาก ไม่ได้กินน้ำ แต่แท้ที่จริงแล้วอาการของน้ำลายเหนียวเกิดจากปริมาณน้ำลายไม่เพียงพอในการหล่อเลี้ยงในช่องปาก ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ ฟันผุ เนื่องจากว่าน้ำลายถือว่ามีความสำคัญมากในการเป็นตัวกลางช่วยลดการยึดเกาะและการเจริญเติบโตของแบคทีเรียกับผิวเคลือบฟัน
ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีการตรวจเช็คคร่าว ๆ ถึงความผิดปกติที่ส่งผลต่อระบบการทำงานของน้ำลาย ซึ่งไม่ว่าคุณจะดูแลสุขภาพช่องปากดี หรือตรวจสอบความผิดปกติในช่องปากตลอดเวลา แต่อย่าละเลยการตรวจความผิดปกติของน้ำลาย
ในเมื่อได้ทราบแบบนี้แล้ว หากพบว่าน้ำลายในช่องปากมีความผิดปกติตามข้อใด ควรเข้ารับการรักษา ก่อนที่อาการจะเป็นไปมากจนยากจะแก้ไขได้ แต่ถ้าหากเข้าพบแพทย์แล้ว ยังตรวจไม่พบโรคอะไรตามที่คาดหมายไว้ ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี
เพราะ คุณจะได้ทราบว่ามีสัญญาณเตือนแต่ยังไม่เกิดโรคเหล่านั้น จะได้เกิดการยับยั้งหาวิธีแก้ไข และระวังตัวเองได้ ก่อนที่โรคร้าย ๆ เหล่านั้นจะเกิดขึ้นก็ถือว่าเป็นผลดีอย่างยิ่ง
#Wasabi ขอเพียงมีส่วนเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คุณ!
"เจริญเติบโต ก้าวหน้า สำเร็จ อย่างภาคภูมิใจ"
แหล่งที่มา / แหล่งอ้างอิง
#สาระจี๊ดจี๊ด #Wasabi #ความรู้ขึ้นสมอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา