Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เขียนไว้ให้เธอ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
22 ส.ค. 2022 เวลา 00:03 • ความคิดเห็น
ทางอยู่กับปาก
ผมเคยเขียนเรื่องคำแนะนำแห่งชีวิตไป และได้ชวนผู้อ่านลองเล่าถึงคำแนะนำดีๆในชีวิตที่อยากจะบอกต่อคนอื่นเผื่อเป็นประโยชน์ร่วมกัน แล้วก็ได้คำแนะนำที่ดีงามมาหลายประโยคอยู่ มีคำแนะนำหนึ่งซึ่งผมชอบและสะดุดใจมาก เขียนเล่าโดยคุณ Chaiyot Sakulborrirak มีใจความว่า
5
ทางอยู่กับปาก
Chaiyot Sakulborrirak
แม่สอนสมัยยังไม่มี Google Maps ไม่มีการปักโลเกชั่น มีแต่แผนที่ให้ดู เวลาที่เราจะเดินทางไปไหน แต่ที่ง่ายที่สุดคือ ไม่รู้ก็แค่จอดรถถามเส้นทาง การจอดข้างทางแล้วถามคนอื่นไปเรื่อยๆ มันจะยากตรงไหน
แกสรุปเป็นคำสอนสั้นๆว่า “ทางอยู่กับปาก”
ความจริงใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตนะครับ เพราะไม่รู้อะไรเราก็แค่ถาม แล้วเราจะพบหนทางเอง “
ผมเลยนึกถึงเรื่องราวอยู่สองเรื่อง อยากเอามาขยายเป็นตัวอย่างจากคำแนะนำคมๆของคุณ Chaiyot ดูนะครับ
เรื่องแรกที่เคยเขียนไว้ เป็นเรื่องของคุณตัน ภาสกรนที
คุณตันเป็นนักธุรกิจที่ทำกิจการต่างๆอย่างหลากหลายและส่วนใหญ่ก็ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นร้านถ่ายรูปแต่งงาน ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ร้านราเมน ตลาดกลางแจ้ง เครื่องดื่ม ฯลฯ คุณตันเคยเล่าว่าเวลาจะทำธุรกิจอะไรใหม่ๆ ท่าไม้ตายของคุณตันก็คือการไปหาผู้ที่รู้จริงและเคยทำจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหนในโลกแล้วไปถามไปเรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก่อน
อย่างเช่นตอนที่คุณตันมีไอเดียอยากทำร้านถ่ายรูปแต่งงานแถวทองหล่อ ก็เดินทางไปไต้หวันซึ่งเป็นเจ้าตลาดและมีธุรกิจนี้ที่อยู่ในยุคเฟื่องฟูมาก่อนเมืองไทยอยู่นาน
1
ผมเคยถามคุณตันว่าเวลาไปคุยแบบนี้คุณตันถามอะไรบ้าง คุณตันก็เล่าว่าปกติก็ถามทั่วไปตั้งแต่หาคนเก่งต้องหาที่ไหน ถ้าเป็นโรงงานก็เครื่องจักรแบบไหนดี วัตถุดิบซื้อที่ไหนดีสุด เทคนิคการขายการบริหารคืออะไร แต่คุณตันบอกว่า มีคำถามหนึ่งที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องถามและเป็นคำถามที่สำคัญที่สุดทุกครั้งเวลาไปเรียนวิชาธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญที่ทำมาก่อนเพื่อมาสร้างของตัวเอง
ทุกครั้ง คุณตันจะถามเจ้าของกิจการเสมอว่า มีอะไรที่ไม่ควรทำบ้างในธุรกิจนี้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรทำ
คุณตันบอกว่าคำถามนี้ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาหลงผิดซึ่งหลายครั้งเสียเงินเสียทองจนถึงกับเจ๊งได้ และผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวทั้งหลายก็มักจะเคยทำผิดพลาดหรือเห็นคู่แข่งทำผิดพลาดมาแล้วทั้งสิ้น อย่างตอนที่คุณตันไปคุยกับเถ้าแก่ใหญ่แห่งวงการถ่ายภาพแต่งงานที่ไต้หวัน คุณตันก็ถามคำถามนี้ว่าถ้าจะเริ่มธุรกิจถ่ายภาพแต่งงาน อะไรที่ไม่ควรทำ
เถ้าแก่ใหญ่ฟังคำถามแล้วยังไม่ตอบทันที แต่จูงมือคุณตันไปหลังร้าน พอเปิดเข้าไปก็เห็นเครื่องอัดล้างภาพเครื่องใหญ่ๆวางเรียงกันเต็มไปหมด แล้วเถ้าแก่ก็บอกว่า ถ้าลื้อจะทำธุรกิจถ่ายภาพแต่งงาน สิ่งที่ลื้อห้ามทำเด็ดขาดคือการซื้อเครื่องล้างอัดภาพเอง เพราะต้นทุนจะจมไปกับเครื่องใหญ่ๆพวกนี้แถมรุ่นใหม่ๆก็มาเร็ว ยังไม่คืนทุนก็ต้องซื้อเครื่องใหม่ เครื่องเก่าตกรุ่นก็ขายออกได้ยาก เถ้าแก่พูดไปบ่นไปท่ามกลางเครื่องล้างอัดภาพเรียงอยู่เต็มห้อง
2
ในตอนที่คุณตันมีไอเดียเรื่องนี้ ในใจก็เตรียมซื้อเครื่องล้างอัดภาพอยู่แล้ว เพราะคำนวณเร็วๆก็น่าจะคุ้มกว่าแถมยังโชว์ลูกค้าได้ด้วยว่ามีเครื่องล้างอัดภาพเอง แต่พอได้ยินเถ้าแก่ไต้หวันแนะนำแล้ว คุณตันก็เลยตัดสินใจทำตัวเบา เช่าเครื่องเอาและทำให้มีทุนไปขยายกิจการหลายสาขาแทนที่จะเอาเงินไปจมกับเครื่องจักรเหมือนเถ้าแก่
1
ทางอยู่กับปาก ที่สามารถบอกได้ว่าทางไหนควรไปและทางไหนที่ไม่ควรไปได้เช่นกัน ถ้าเรารู้จักถามนะครับ
เรื่องที่สองเป็นเรื่องของคุณบุญคลี ปลั่งศิริ อดีตซีอีโอที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย ปัจจุบันคุณบุญคลีเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทในเครือของคุณเจริญและบริษัทแกรมมี่ คุณบุญคลีเคยตอบคำถามนักเรียนในคลาสเอบีซีที่เป็นทายาทรุ่นลูก เพิ่งกำลังจะมาทำงานในบริษัทของพ่อด้วยแรงกดดันที่อีกไม่นานจะต้องรับตำแหน่งต่อแต่ตัวเองยังไม่รู้อะไรเลย แถมยังเป็นเด็กที่ต้องมาทำงานกับผู้ใหญ่รุ่นอารุ่นลุงที่เคยเห็นกันมาตั้งแต่เล็กๆ ไม่รู้ว่าจะควรจะเริ่มอะไรยังไงถึงจะได้รับการยอมรับได้
จากประสบการณ์คุณบุญคลีที่ช่วยแนะนำธุรกิจครอบครัวมาจำนวนมากให้เปลี่ยนผ่านรุ่นสู่รุ่นได้ คุณบุญคลีบอกถึงวิธีการที่ไม่มีทางลัดว่าต้องทำงานหนักกว่าคนอื่นหลายเท่า เพราะคนอื่นอาจจะมีเวลาในการปรับตัวแต่ทายาทธุรกิจมีเวลาน้อยกว่าพนักงานทั่วไปมากในการเรียนรู้ทุกอย่างให้ไวที่สุด และเครื่องมือที่สำคัญที่สุดก็คือ…การถาม
2
คุณบุญคลีบอกว่าอย่าไปมีฟอร์มว่าเป็นว่าที่เจ้านาย สงสัยอะไรให้ถามให้หมด ไม่ต้องอายว่าไม่รู้ ถามแล้วจดและเอาไปเรียนรู้ปรับปรุง การถามนอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังได้ความเอ็นดูเห็นอกเห็นใจจากผู้ใหญ่หรือพนักงานที่อยู่มาก่อนด้วย ทายาทธุรกิจที่ต้องการมีทางเดินที่ราบรื่นในการเปลี่ยนผ่าน การใช้การถาม ถามและถาม จะเป็นอาวุธที่สำคัญที่สุดที่ควรทำ
คำสอนว่า “ ทางอยู่กับปาก “ เป็นคำสอนที่เหมาะกับยุคสมัยนี้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากโควิด ทำให้อะไรๆก็ไม่เหมือนเดิม สิ่งที่เคยเป็นมาก็จะไม่เป็นเหมือนเดิม การหา “ทาง” ใหม่จึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุกคน การเริ่มใช้ “ปาก” ในการถาม ไม่ว่าจะเป็นถามถึงวิธีคิดของลูกค้าที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะลูกค้าเจนใหม่ๆ ถามถึงกระบวนการใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนหรือวิธีการทำงานใหม่ที่มีผู้ริเริ่มเป็นตัวอย่าง หรือแม้แต่ถามถึงสารทุกข์สุกดิบของพนักงานตัวเอง
2
นอกจากนั้นความตั้งใจที่จะ “ถาม” ด้วยความยอมรับว่าหลายอย่างเปลี่ยนไปและตัวเองไม่รู้เหมือนเดิมแล้ว ก็ยังทำให้เราตัวเล็กลง หัดเอาชนะตัวเองไม่ให้ปากหนักและพร้อมที่จะปรับตัวกับโลกใหม่โดยไม่ยึดติดกับอีโก้เดิมได้อีกด้วย
ทางอยู่กับปาก จึงมีความหมายทั้งการถามที่จะได้พบทางที่ควรเดินและไม่ควรเดิน รวมถึงเป็นการฝึกทำตัวเล็กด้วยความไม่รู้ สร้าง mindset ที่สำคัญที่จำเป็นสำหรับโลกใหม่ ก็คือการสร้าง ability to learn เป็นน้ำไม่เต็มแก้วให้กับตัวเองอีกด้วยครับ
13 บันทึก
37
13
13
37
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย