22 ส.ค. 2022 เวลา 00:49 • ข่าวรอบโลก
อังกฤษ ทนอีกนิด! สหภาพแรงงานท่าเรือใหญ่ที่สุดหยุดงาน พังยับทั้งประเทศ
ในช่วงศตวรรตที่ 17 ดัช เคยยิ่งใหญ่และกลายเป็นศูนย์กลางของการเงินโลก เงินตรา Dutch Guilder เคยเป็นเงินสำรองหลักของโลก ต่อมาในปี 1763 หลังเกิดวิกฤตสถาบันการเงิน Amsterdam Banking Crisis ที่ลุกลามอย่างกว้างขวางประชาชนผู้ใช้แรงงานเดือดร้อนบุกฮือกลายเป็นสงครามกลางเมือง Fourth Anglo-Dutch War
สุดท้ายดัชก็เสื่อมอำนาจและเงินตรา อังกฤษมีชัยชนะทั้งด้านการทหารและการเงินขึ้นมาแทน ก็ขยายอาณานิคมสหราชอาณาจักรไปทุกทวีปจนเรียกเรียกว่า"พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน"
ต่อมาอังกฤษ ใช้พลังงานมากจนเกิดการปฎิวัติอุตสาหกรรม เกิดนวัตกรรมต่างๆ เงินปอนด์ก็ก้าวขึ้นเป็นเงินสำรองหลักของโลก ทำให้เหลิงอำนาจย่ามใจไปกดดันเอาเปรียบเยอรมนี และตะวันออกกลางจนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 เป็นผลทำให้อังกฤษอ่อนแอเป็นหนี้และเกือบล้มละลาย เดินเข้าสู่จุดเสื่อมของอำนาจและเงินตรา
สหรัฐจึงได้โอกาสที่จะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจของโลก ด้านการทหาร ครองตำแหน่งดังกล่าวมานาน 77 ปี เป็นฝ่าย "จัดระเบียบโลกเก่า" ดันดอลลาร์เป็นเงินสำรองหลักของโลก วางระบบต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเงิน พลังงาน การศึกษา ฯลฯ และบีบบังคับกำหนดนโยบายหลักอื่นๆ อีกมากมายเพื่อรักษาอำนาจครองโลก
1
จากความเสื่อมถอยในอำนาจที่ไร้คุณธรรมของสหรัฐ ขณะนี้โลกกำลังก้าวเข้าสู่เฟส "จัดระเบียบโลกใหม่" โดยรัสเซีย - จีน โลกของเรานั่นยามมีมหาอำนาจใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแสนยานุภาพทางทหารที่ท้าทายกับมหาอำนาจเดิม ก็จะเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่างประเทศขึ้น เมื่อสหประชาชาติ ไม่มีความเป็นกลางมาตัดสินความขัดแย้งระดับประเทศให้วิกฤตคลี่คลาย ก็จะเกิดการประชันอำนาจระหว่างสองฝ่าย
1
เมื่อมหาอำนาจใหม่เริ่มรุกท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ มหาอำนาจเก่าก็จะต้องตัดสินใจว่าจะสู้หรือถอย เพราะถ้าสู้แพ้ก็จะจมดิ่งเป็นร้อยปี แต่ถ้าถอยก็แย่หนักเช่นกัน เพราะจะทำให้ถูกรุกคืบ และแสดงให้โลกเห็นว่าฝ่ายนั้นอ่อนแอ ส่งผลต่อการตัดสินใจประเทศอื่นๆ ที่กำลังต้องเลือกข้าง
1
รัสเซีย-จีน เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจและแสนยานุภาพทางทหาร อีกไม่นานจีนจะกลายเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจที่ใหญ่สุดของโลก มีคู่หูหนุนคือรัสเซีย เป็นสิ่งที่สหรัฐ อังกฤษ กังวลใจว่าจะถ่วงรั้งอำนาจไม่ให้หลุดมือไปได้อย่างไร แต่เวลาไม่อยู่ข้างฝ่ายระเบียบโลกเก่าที่ไร้คุณธรรมเสียแล้ว
1
เวลารุ่งเรืองของอังกฤษจบลงอีกครั้งนำไปก่อนสหรัฐแล้ว ด้วยไปคว่ำบาตรท้าท้ายรัสเซีย จึงเจอรัสเซียที่เป็น "มหาอำนาจพลังงาน" ท้าทายสวนกลับโดย "ทำสงครามพลังงาน" ดันราคาน้ำมันและก๊าซพุ่งขึ้น ขณะนี้ชาวอังกฤษกำลังเผชิญกับวิกฤตค่าครองชีพที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจากค่าแรงไม่ตามไม่ทันอัตราเงินเฟ้อ 10.1% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 40 ปี ค่าครองชีพและค่าสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น
1
นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน เตือนประชาชนผ่านทางโซเชียลมีเดียว่า "ชาวอังกฤษหลายล้านคน อาจมีอาหารและความร้อนไม่เพียงพอในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง เนื่องจากราคาก๊าซพุ่งขึ้น" เงื่อนไขวิกฤติจุดชนวนความไม่พอใจคล้ายช่วงท้ายของดัชเสื่อมอำนาจ ที่ขณะให้เกิดการประท้วงหยุดงานช่วงฤดูร้อนโดยสหภาพพนักงานรถไฟและรถไฟใต้ดิน เพราะผลเจรจาเรื่องค่าจ้างล้มเหลว
1
มีเพียง 1 ใน 5 ของรถไฟในสหราชอาณาจักรที่วิ่งในวันเสาร์ การหยุดงานยังเกิดเป็นระยะ รถไฟใต้ดินของลอนดอนส่วนใหญ่ไม่ทำงาน มีการนัดหยุดงานของพนักงานไปรษณีย์ ทนายความ พนักงานโทรคมนาคม British Telecom และคนงานเก็บขยะ ต่างพากันประกาศหยุดงานในช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ ยามสภาพเศรษฐกิจดิ่งเหวตกต่ำอะไรก็หยุดไม่อยู่ ล่าสุดท่าเรือขนส่งสินค้าเฟลิกซ์สโตว์ในซัฟโฟล์คที่ใหญ่ที่สุด อยู่ห่างจากลอนดอนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 150 กิโลเมตร
ท่าเรือนี้รองรับตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 4 ล้านตู้/ปี จากเรือ 2,000 ลำ ประมาณ 35% หรือราว 45,000 ตู้คอนเทนเนอร์/สัปดาห์ ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า และอาหารกระป๋อง ทั้งหมดของอังกฤษ และส่วนแบ่งการค้าโดยตรงกับเอเชีย และเกือบ 50% ของค่าขนส่งขาเข้าของอังกฤษได้จากท่าเรือนี้ โดย ชารอน เกรแฮม เลขาธิการของสหภาพแรงงาน Unite ระบุว่าบริษัทดำเนินการท่าเทียบเรือที่
"มีกำไรมหาศาล 61 ล้านปอนด์ในปีก่อนหน้า" และบริษัทแม่ CK Hutchison Holding Ltd ให้ความสำคัญกับ "ผลกำไรของผู้ถือหุ้นมากกว่าสวัสดิการแรงงาน"พวกเขาสามารถให้ค่าจ้างแก่คนงานเฟลิกซ์สโตว์ได้ แต่ชัดเจนว่าทั้ง 2 บริษัทให้ความสำคัญกับการส่งผลกำไรและเงินปันผลหลายล้านปอนด์ให้ผู้ถือหุ้นมากกว่าการจ่ายค่าจ้างให้คนงานอย่างเหมาะสม
โดยคนงานประจำได้รับการเสนอให้ขึ้นเงินเดือนโดยเฉลี่ย 7% พร้อมโบนัสแค่ 500 ปอนด์ แต่คนงานรายชั่วโมง 85% ของคนงานทั้งหมดไม่ได้อะไรเลย ขัดแย้งกับอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะถึง 13.1% เมื่อสิ้นปี
ดังนั้นเพื่อตอบโต้ทางสหภาพแรงงาน "คนงานเกือบ 2,000 คน จึงนัดหยุดงาน 8 วัน" ช่วง 21-28 ส.ค.2022 เพื่อให้ทางบริษัทมาเจรจา จึงจะทำให้ตู้คอนเทนเนอร์สินค้าราว 90,000 ตู้ตกค้างยาว ถ้าเป็นสินค้ามีอายุหรือต้องควบคุมอุณหภูมิก็เน่าเสียไปทั้งหมด สินค้าที่เปราะบางควบคุมสภาพแวดล้อมพวกชิปคอมพิวเตอร์ก็จะเสื่อมคุณภาพ ฯลฯ
1
ทำให้เกิดความโกลาหลของสินค้ามหาศาลชะงักนิ่ง ส่งผลกระทบต่อ Supply chain อย่างรุนแรงขัดขวางกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมทั่วสหราชอาณาจักรร้ายแรงประเมินมูลค่าความเสียหายย่อยยับยังไม่ได้
1
รัสเซีย กำลัง "ทำสงครามเย็น" แสดงอำนาจด้านพลังงานว่าสามารถพลิกชะตาอังกฤษที่เคยรุ่งเรือง ให้พังทลายล้มคลืนจากภายในได้ โดยใช้ความเดือดร้อนจากชาวอังกฤษเองเป็นเชื้อเพลิงความโกรธแค้น และฤดูหนาวนี้เมื่อรัสเซียมีเปรียบสูงสุดเขาจะตัดพลังงาน กระตุ้นความเดือดร้อนขึ้นไปอีก จนนำไปสู่การจราจลทุกหย่อมหญ้าเป็นโดมิโน่..มหาอำนาจโลกจะเปลี่ยนมือ เมื่อเวลาผ่านไป ไม่มีใครอยู่ยั่งยืนยง..คิวต่อไปใครเรียงหน้าเข้ามารัสเซียรอทุบซ้ำอยู่..สู้ต่อไป ชนะบ้านเมืองลุกเป็นไฟแน่นอน
1
ที่มา : bloomberg , reuters , washingtonpost , The Guardian , constructionnews , daily.energybulletin ,
Ray Dalio
#WorldUpdate
ปี 1885 กองทัพอังกฤษ มายึดพระราชวังมัณฑะเลย์ พม่า บีบบังคับเป็นเมืองขึ้น
โฆษณา