Wall Street จากตลาดค้าทาสสู่ตลาดหุ้นระดับโลก
โลกเรามี “ชุมชน” หรือ “พื้นที่” ที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่าน The City และย่าน The Square Mile ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ หรือจะเป็นศูนย์กลางการเงินของเอเชียอย่างประเทศสิงคโปร์
แต่จะมีย่านไหนที่พิเศษไปกว่า “วอลล์ สตรีท (Wall Street)” เพราะที่นี่เป็นมากกว่าศูนย์กลางทางการเงินของโลก เป็นที่ที่มีแฟนคลับอยู่ในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักการเงิน คอหนัง คอเพลง นักอ่าน
หรือแม้แต่นักประวัติศาสตร์ ต่างต้องเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ Wall Street เพราะ Wall Street เคยเป็นที่อพยพลี้ภัย เป็นปราการป้องกันข้าศึก และยังเคยเป็นแหล่งซื้อขายทาสที่สำคัญของภูมิภาคนี้ด้วย
📌 วันนี้เราเลยจะพาย้อนไปดูความเป็นมาของ Wall Street ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันว่าที่นี่เกิดขึ้นจากอะไร แล้วจุดเปลี่ยนในแต่ละครั้งเริ่มจากตรงไหน ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยครับ
ปี 1652 ชาวดัตช์ในฐานะเจ้าของอาณานิคมเมืองนิวอัมสเตอร์ดัม ได้เริ่มสร้างกำแพงเมืองเพื่อป้องกันการรุกรานของอังกฤษ
ปี 1664 หลังจากต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน อังกฤษก็สามารถข้ายึดเมืองนิวอัมสเตอร์ดัมและประกาศชัยชนะเหนือชาวดัตช์ได้ และจัดการเปลี่ยนชื่อเมืองนี้เป็น “นิวยอร์ก”
ปี 1711 ผ่านไป 50 ปี เมืองนิวยอร์กเติบโตอย่างรวดเร็ว แรงงานจากอีกซีกโลกโดยเฉพาะชาวแอฟริกาจึงถูกนำเข้ามาจำนวนมากเพื่อซื้อขาย “ชีวิต” จนเกิดเป็นตลาดค้าทาสที่ใหญ่โตในสมัยนั้นที่มีชื่อว่า The Market House ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนน Wall Street นี่เอง
🎗 **นี่เป็นประวัติศาสตร์ที่คนอเมริกันไม่อยากจดจำ เนื่องจากมีการกดขี่ทารุณอย่างโหดเหี้ยมไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงและเด็ก นอกจากนี้ การค้าทาสก็ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ระหว่างเจ้าของทาสกับพ่อค้า แต่ทาสในสมัยนั้นยังถูกใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ด้วย
ซึ่งหนึ่งในนั้นมีธนาคารในเครือของ JP Morgan Chase ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกร่วมทำธุรกิจค้าทาสรวมอยู่ด้วย
ปี 1792 นักธุรกิจและผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ 24 ราย ได้ลงนามข้อตกลงร่วมกันเพื่อกำหนดวิธีการในการค้าขายระหว่างกัน และเพื่อป้องกันการแทรกแซงจากรัฐและคู่แข่ง โดยเรียกข้อตกลงนี้ว่า Buttonwood
ปี 1817 ข้อตกลง Buttonwood ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง มีนักธุรกิจเข้าร่วมทำธุรกิจภายใต้ข้อตกลงนี้จำนวนมาก นำไปสู่การก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก หรือ New York Stock Exchange ในที่สุด
ปี 1929 ตลาดหุ้นตกอย่างรุนแรง นำไปสู่หนึ่งในวิกฤติเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ
ปี 2008 ตลาดหุ้นตกรุนแรงอีกครั้งจากปัญหาสินเชื่อซับไพรม์ และเป็นอีกวิกฤติเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เช่นกัน
ปัจจุบัน Wall Street ถือเป็นย่านการเงินสำคัญของโลก มีทั้งตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารขนาดใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ และมีนักลงทุนจากทั่วโลกเดินทางแวะเวียนเข้ามาเพื่อแสวงหาโอกาสอยู่ตลอด
และด้วยความที่ถนนเส้นนี้เป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กที่อยู่มาหลายร้อยปี คนในวงการจึงนิยมเรียกตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กว่าเป็น “ตลาดหุ้น Wall Street” ไปโดยปริยาย
📌 **รู้หรือไม่ พนักงานในย่าน Wall Street มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่ารายได้เฉลี่ยของหมอในสหรัฐฯ อีกนะ โดยมีรายได้เฉลี่ยปีละ 12 ล้านบาท หรือ 1 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่รายได้เฉลี่ยของหมออยู่ที่ปีละ 3 ล้านบาท หรือ 250,000 บาทต่อเดือน
"เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน"
พวกเรากลุ่มคนที่รักเรื่องราวของการเงินการลงทุนเป็นชีวิตจิตใจ จึงก่อตั้งเพจ Dime! (ไดม์!) ขึ้น
Dime! แปลว่าเหรียญ 10 เซนต์ (ประมาณ 3 บาท) สื่อถึงความตั้งใจของเราที่จะทำให้การเงินการลงทุนเป็นเรื่องที่คุณเข้าถึงได้ เข้าใจง่าย และนำไปประยุกต์ใช้ต่อได้จริง เหมือนกับเงิน 1 ไดม์ ที่ใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้
หากทุกคนมีความรู้ทางการเงินที่แข็งแรง
สังคมของเราก็จะดีขึ้นตามไปด้วย
- 31
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
