23 ส.ค. 2022 เวลา 01:58 • กีฬา
“ซักฟอกหลังเกมแดงเดือด ผี ผิดฟอร์ม หักปากกาเซียน เฉือดหงส์ 2-1"
(AFTER MATCH MUN 2-1 LIV)
อภิมหาศึกแดงเดือด ในเกมนัดที่ 3 ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022-2023 ต้องบอกว่าสภาพความพร้อม ของทั้งพลพรรค ปีศาจแดง และเหล่าพวกพรี่ๆ ถือว่า “ล่อแล่” ทั้งคู่ เมื่อเจ้าบ้านผีแดง อยู่ในฟอร์มที่ “ ไร้ทรง” ส่วนทีมเยือนผู้อหังการนั้น ประสบกับปัญหา “ตัวเจ็บล้นทีม”
แม้จะอยู่ในสภาพที่ “พิกลพิการ” กันคนละแบบ แฟนบอลของทั้ง 2 ทีม คงจะมองออกว่า การที่ยังมองไม่เห็น “ทรงบอล” ของยูไนเต็ดใน 2 นัดแรก เทียบกับปัญหาตัวเจ็บของลิเวอร์พูลนั้น
กลับกลายเป็นปัญหาฝั่งเจ้าบ้าน ที่ดูทรงแล้ว “น่าเป็นห่วง” ซะมากกว่า
สื่อในหลายๆสำนัก ก็มองว่า อย่างดีที่สุด ถ้าแมนฯยูไนเต็ด สามารถแบ่งแต้มกับ “เต็งแชมป์” ผู้มาเยือนในนัดนี้ได้ ก็ถือว่าบุญหัวแล้ว แต่ทว่าผลลัพธ์ มันไม่กลับกลายเป็นอย่างนั้น
ปีศาจแดง กลับ “ยัดเยียดความปราชัย” ให้กับผู้มาเยือน ได้สำเร็จ เรียกได้ว่า “หักปากกาเซียน” กันเลยทีเดียว
"ผี ผิดฟอร์ม หักปากกาเซียน เฉือดหงส์ 2-1"
และนี่คือการ “ซักฟอก 4 ข้อหา” ของปีศาจแดง ที่ “ผิดฟอร์ม” หักปากกาเซียน เปิดบ้านเฉือดหงส์ 2-1
ซักฟอก ข้อหาที่ 1 | “กลางผี” มาดีกว่า |
ลิเวอร์พูล ประสบกับปัญหากับจำนวนตัวผู้เล่นบาดเจ็บ ที่ต้องบอกว่า “สร้างทีมใหม่ได้เลย” ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกแผง ทั้งในแดนหน้า กลาง และแดนหลัง แต่สิ่งที่ดูจะเป็นผลกระทบที่เห็นได้ชัดในเกมนี้คือ “แดนกลาง”
การที่ขาดทั้ง ติอาโก้ อัลคันทาร่า และนาบี เกอิต้า ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมไปถึงฟาบินโญ่ ที่ยังไม่ฟิตพอที่จะลงสนาม ทำให้ลิเวอร์พูล “ขาดตัวเก็บบอล” และครอบครองบอลในแดนกลาง
อีกทั้งยังมีการเสียบอลในแดนกลาง ส่งเสริมกับการที่แมนยูฯ เล่นเพรสซิ่งและปิดช่องทางการจ่ายบอลในแดนกลางในเกมนี้ ได้ดีอย่างเหลือเชื่อ
เป็นสาเหตุที่ทำให้ แมนฯยูไนเต็ด ตัดบอลจากแดนกลางของลิเวอร์พูลได้หลายครั้ง จนนำไปสู่ประตูขึ้นนำที่เจ้าบ้านทำได้ทั้ง 2 ลูก
และกว่าที่เจอร์เก้น คล็อปป์จะส่ง ตัวเก็บบอลชั้นดีอย่าง ฟาบินโญ่ ลงสนาม ก็ปาไปกว่า 1 ชั่วโมงของเกมแล้ว ซึ่งในตอนนั้น ผลสกอร์ของหงส์แดง ก็ตามหลังอยู่แล้วถึง 2 ประตู
เมื่อฟาบินโญ่ ลงมา แดนกลางของลิเวอร์พูล ก็ดูดีขึ้น เห็นได้ชัดจากจังหวะ การเข้ารุมแย่งบอลของผู้เล่นยูไนเต็ด 3-4 คน แต่ก็เอากองกลางทีมชาติบราซิลคนนี้ไม่อยู่
1
แม้ลิเวอร์พูลจะตีไข่แตกในช่วงท้ายเกมได้ แต่ถ้าดูรูปเกมโดยรวม ต้องบอกว่า
แดนกลางของปีศาจแดงวันนี้ “มาดีกว่า” แดนกลางของหงส์แดงจริงๆ
1
ซักฟอก ข้อหาที่ 2 | Man mark / Zone mark มาครบ! |
70 คือเปอร์เซ็นการครองบอลของลิเวอร์พูล ที่ทำได้ในเกมนี้ แม้เปอร์เซ็นการครอบครองบอลจะเยอะกว่าเจ้าบ้าน แต่ถ้าดูรูปเกม เรายังไม่เห็นการเข้าทำของทีมเยือน ที่ดูจะ “เป็นน้ำ เป็นเนื้อ” ได้เลยสักครั้ง
ดูเหมือนว่า ในเกมนี้ เอริก เทนฮาก กุนซือแมนฯยูไนเต็ด ได้มีการกำชับลูกทีมเรื่องการประกบตัว และคุมพื้นที่ ในแดนตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม
การเข้าประกบติด โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และหลุยส์ ดิอาซ ชนิดที่แบบเป็น “เงาตามตัว” ของไทเรล มาลาเซีย และโอโก ดาโลต์ ในวันนี้ ทำให้ปีกทั้ง 2 ข้างของลิเวอร์พูล มีพื้นที่ในการเล่นน้อย โดนเข้าถึงตัวเร็ว และเล่นได้ไม่ถนัด
1
ไม่เพียงแต่พื้นที่ริมเส้น แต่ในพื้นที่แดนกลาง ทีมเจ้าบ้านก็ยังมีการ “กระชับพื้นที่” และปิดช่องทางการจ่ายบอลได้เป็นอย่างดี ไม่ปล่อยให้มีการ “โดนทะลุทะลวงหน้ากองกลัง” ได้เหมือนในนัดที่ผ่านๆมา
อีกทั้งการยืนกระชับพื้นที่ใกล้ๆกันของแผงผู้เล่นยูไนเต็ดนั้น นอกจากจะทำให้ไม่มีช่องให้ลิเวอร์พูลเล่นแล้ว ยังทำให้สามารถแกะเพรสซิ่ง และรุมแย่งบอลกลับมาครองได้อย่างบ่อยครั้งอีกด้วย
เรียกได้ว่าในเกมนี้ การ Man mark และ Zone mark ทั้งในแดนกลาง และแดนหลัง ของผู้เล่นปีศาจแดงนั้น “มาเต็ม” ประสมกับการเสียตัวผู้เล่นหลักหลายคนของลิเวอร์พูล
ทำให้รูปเกมโดยรวมในวันนี้ ยูไนเต็ด “เหนือกว่าอย่างไม่มีข้อสงสัย”
1
การ Man mark แนวรุกลิเวอร์พูลของยูไนเต็ดวันนี้ ทำได้อย่างยอดเยี่ยม
ซักฟอก ข้อหาที่ 3 | มีงานบุ๋นแล้ว “งานบู๊” ก็ต้องมา |
นอกจากรูปแบบการเล่นในเชิงแทคติกแล้ว อีก 1 อย่างที่ทำให้ปีศาจแดงเอาชนะยกแรกของศึกแดงเดือดฤดูกาลนี้คือ “งานบู๊ สู้ไม่ถอย”
เป็นที่ผิดฟอร์มเป็นอย่างมาก กับการเล่นแบบ “ถวายหัว” ของยูไนเต็ดในเกมนี้ เมื่อเทียบกับ 2 นัดที่ผ่านมาที่เล่นกันแบบไม่เอาไหน “ไม่วิ่ง ไม่สู้ ไม่บู๊ ไม่บ้า” จนทำให้สกอร์ใน 2 นัดแรก ออกมาเละอย่างที่เห็น
1
ในเกมนี้เอริก เทนฮาก ได้เลือกมีการเปลี่ยนผู้เล่นลงสนามหลายคน รวมไปถึงการเปลี่ยน “ความรู้สึกห่อเหี่ยว” ใน 2 เกมแรกออกไป และเปลี่ยนเอา “ความตั้งใจ” ลงมา ลงผลให้นักเตะ “วิ่งเป็นม้า” กันเลยทีเดียว
การเข้าไล่บอล ไล่บี้ทุกจังหวะ สู้ไม่ถอย วิ่งไม่หมด ถึงลูกถึงคน ไม่ยอมปล่อยให้คู่แข่งผ่านหรือมีพื้นที่ นั้นเป็นสิ่งที่แฟนบอลยูไนเต็ด หวังอยากจะเห็นสิ่งนี้จากนักเตะมาตลอด และได้เห็นเต็มตาในเกมนี้
ยิ่งโดยเฉพาะผู้เล่นที่เพิ่งได้รับโอกาสอย่าง ไทเรล มาลาเซีย และผู้เล่นที่โดนวิจารณ์อย่างหนักเรื่องความสูงอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ ในนัดที่แล้ว ที่ในเกมนี้มีความดุดัน ใจสู้ บู๊ไม่ถอย เอาทุกดอก ได้ใจแฟนผีอย่างมากกันเลยทีเดียว
ต้องบอกว่าสิ่งที่เป็นส่วนสำคัญในชัยชนะนัดนี้ ก็คือความใจสู้ และ “งานบู๊” ที่ไม่แพ้ลิเวอร์พูลของเหล่านักเตะยูไนเต็ดชุดนี้นี่แหละ
และดูเหมือนว่า เอริก เทนฮาก จะรู้วิธีจัดการกับ เหล่า “พญาหงส์แดง” ซะแล้วด้วยวิธีการ
“หนามยอก เอาหนามบ่ง คุณบู๊มา เราก็บู๊กลับ"
ซักฟอก ข้อหาที่ 4 | ทีมเวิร์คดี มีชัยไปกว่าครึ่ง |
เชื่อว่าหลายคนที่ดูยูไนเต็ดในเกมนี้ ก็ต้องอดสงสัยไม่ได้ว่า ทีมนี้มันคือทีมเดียวกับทีมที่แพ้ไบรท์ตันและเบรนท์ฟอร์ดใน 2 สัปดาห์ที่แล้วจริงๆหรอ? เพราะดูดีกว่า 2 นัดที่แล้วมาก
บรรยากาศในการเล่นของทีมในนัดนี้ “ดูมีทีมเวิร์ก” อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกันคุมพื้นที่ ช่วยกันรับบอล ช่วยกันแย่งบอล รวมไปถึงการสื่อสารกันภายในทีม การให้เสียง การกระตุ้นเพื่อน ที่ดีเกินหน้าเกินตาเป็นพิเศษ
เมื่อสปิริตดี ฟอร์มในสนามก็จะออกมาดี เมื่อฟอร์มในสนามออกมาดี ผลงานของทีมก็จะออกมาดี เมื่อผลงานออกมาดี แฟนบอลก็มีความสุข
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นผลพวงที่ต่อยอดกันมาเป็นทอดๆ ฉะนั้น เราควรที่จะสานต่อสปิริตทีมเวิร์กแบบนี้ให้ได้อย่างต่อเนื่อง
“เพราะถ้าทีมเวิร์คดี มีชัยไปกว่าครึ่ง”
ทีมเวิร์กของยูไนเต็ด เริ่มจะดูดีขึ้นทีละเล็ก ทีละน้อย
  • การที่อยู่ๆ ยูไนเต็ด ก็กลับมาฟอร์มดีซะอย่างนั้น เป็นเพราะอยากเล่นโชว์นักเตะใหม่อย่าง คาเซมิโร่ ได้เห็น หรือเป็นเพราะศักดิ์ศรีความเป็นคู่อริของลิเวอร์พูล หรือเป็นเพราะการประท้วงของแฟนบอลต่อเจ้าของทีมอย่าง ตระกูลเกลเซอร์ ก็ไม่อาจมีใครทราบได้
  • แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาใน บทซักฟอก 4 ข้อนั้น จะไม่มีประโยชน์อันใดเลย ถ้าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด เกิดขึ้นในเฉพาะนัดนี้เพียงแค่นัดเดียว
  • ฉะนั้น ถ้าจะเอ่ยปากชมทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สักที ก็ขอชมแค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งนึง ก็ต้องวัดกันที่ระยะยาว การรักษาความสม่ำเสมอ ว่ายูไนเต็ดชุดนี้ ภายใต้การนำของ เอริก เทนฮาก จะทำดีไปได้สม่ำเสมอแค่ไหน
  • เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่า “ลูปของยูไนเต็ด” มันจะเป็นแบบนี้แค่ไม่กี่นัด และมันก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก แฟนบอลอย่างเราๆก็ได้แต่หวังว่า
“ลูปของยูไนเต็ด” มันควรจะ “จบลงจริงๆ” เสียที
เรียบเรียง : Mr.เอเวอร์ดีน
#MANUTD #MUNLIV #REDWAR #แดงเดือด
โฆษณา