Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Ordinary Mystery
•
ติดตาม
24 ส.ค. 2022 เวลา 05:54 • ข่าวรอบโลก
คดีของ เอลิซ่า แลม เรียกได้ว่าเป็นปริศนาที่ชวนขนลุกและชื่อกระฉ่อนไปทั่วโลก กับหญิงเสื้อแดงที่ทำท่าทีแปลกๆ ในโรงแรมซีซิล ก่อนที่จะพบร่างของเธอในแทงค์น้ำของโรงแรม
โดยคดีของเอลิซ่านั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 2013 แต่มันมีอยู่คดีหนึ่ง ที่เกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กัน ในไต้หวัน กับความแปลกประหลาดของพฤติกรรมสองแม่ลูก และการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหาสาเหตุไม่ได้
ย้อนกลับไป ณ ไต้หวัน ปี 2008 ผู้หญิงวัยกลางคนอายุ 37 ปี ทราบเพียงแค่ชื่อว่า หลิว ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยกับลูกสาววัย 4 ขวบ โดยพบเห็นครั้งสุดท้ายที่ตึกการเงินแห่งหนึ่ง
กล้อง CCTV ของตึกแห่งนี้ ได้บันทึกภาพสองแม่ลูก กำลังเดินเข้าลิฟต์ไป ภาพที่เห็นนี้ คือภาพสุดท้ายของพวกเขา และไม่มีใครเคยพบเห็นสองคนนี้อีกเลยนับแต่นั้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือพวกเขาหายไปไหน
ตามคำให้การของผู้จัดการตึก เขาเล่าว่าได้พบเห็นนางหลิว ทำท่าทีแปลกๆ ตั้งแต่เดินเข้าตึกมา ผู้จัดการตึกจึงเข้าไปถามเธอว่ามีธุระต้องการอะไรหรือเปล่า นางหลิวตอบเจ้าของตึกว่ามาหาเพื่อน แล้วก็รีบตรงดิ่งไปขึ้นลิฟต์ทันที ทำให้ผู้จัดการที่กำลังถามเธออยู่นั้นก็ยืนเก้อไปเลย
ภายในลิฟต์ นางหลิวและลูกสาว ได้ถอดเสื้อแจ็คเก็ตสีแดงและรองเท้า ทิ้งเอาไว้ข้างใน (ภาพประกอบเพิ่มเติมในคอมเมนต์)
เมื่อลิฟต์มาถึงชั้นที่ 11 ประตูลิฟต์ก็เปิดออก นางหลิวอุ้มลูกของเธอขึ้นมา แล้ววิ่งออกจากลิฟต์ไปตรงโถงทางเดิน จนหายออกไปจากมุมกล้องที่ติดตั้งเอาไว้
ในตอนนั้นเองผู้จัดการตึกเองก็เช็คภาพ CCTV จากจอมอนิเตอร์ชั้นล่าง เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย เขาจึงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แล้วรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาทันที
การที่ทิ้งรองเท้าเอาไว้ เป็นสัญญาณที่เห็นได้บ่อยๆ สำหรับคนที่คิดจะกระโดดลงมาจากตึกเพื่อจบชีวิตตัวเอง และการทิ้งเสื้อสีแดงเอาไว้ มันมีความหมายและความเชื่ออยู่ โดยสีแดงนั้นมีความเชื่อที่ว่า ถ้าคนสวมใส่ของสีแดง เมื่อตายจะกลายเป็นวิญญาณตามล้างแค้น และการทิ้งรองเท้าก็มีความเชื่ออีกว่าจะไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ ตามไปรบกวนชีวิตในโลกหน้า
การกระทำของนางหลิว เหมือนกับว่าเธอวางแผนให้ตัวเธอเอง กับลูกสาว ได้ไปใช้ชีวิตด้วยกันในโลกหน้า
หลังจากผู้จัดการตึกแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงอย่างทันควัน เช็คกล้องวงจรปิดเป็นอันดับแรก เห็นตรงกันว่านางหลิวคนนี้ท่าทีแปลกๆ และน่าจะหมายจบชีวิตตัวเองเป็นแน่แท้ จึงได้กระจายกำลังกันออกค้นหาทั่วทั้งตึก
แต่ทว่า ตำรวจได้ค้นหาทั่วทุกซอก ทุกมุม ทุกชั้นของตึก แต่ไม่พบร่างของผู้หญิงหรือเด็กเลย จึงได้เรียกกำลังเสริมมาช่วยค้นหาแบบปูพรมกันอีกครั้ง ค้นตามซอกเล็กซอกน้อย บนดาดฟ้า แต่กลับไม่พบร่องรอยของสองแม่ลูกเลย
เจ้าหน้าที่ยังไล่เคาะประตูถาม ไล่เช็คทีละห้อง ถามผู้คนแต่ละห้องว่าพบเห็นอะไรไหม แถมยังเช็คแทงค์น้ำและท่อน้ำของตึกอีกด้วย แต่ก็ไม่พบอะไรอยู่ดี ทางตำรวจจึงได้นำภาพบางส่วนจากกล้องวงจรปิด ออกมาเผยแพร่แก่สาธารณะเพื่อตามหาหญิงสาวในภาพนี้
ไม่กี่วันต่อมา อดีตสามีของนางหลิว ได้เข้าพบกับทางเจ้าหน้าที่แล้วให้ข้อมูลว่าเธอ เลี้ยงดูลูกสาวมาคนเดียว เพราะว่าพวกเขาแยกทางกันเมื่อหลายปีก่อน และได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ทำให้ตำรวจเองมีเบาะแสตามหามากขึ้น จนได้พบกับจักรยานยนต์ของนางหลิว จอดไว้ไม่ห่างจากตึกที่เธอหายตัวไปมากเท่าไหร่
แต่นั่นก็กลับกลายเป็นหลักฐานชิ้นสุดท้ายที่พบในคดีนี้ และเวลาผ่านไปกว่า 10 ปี สุดท้ายคดีนี้ก็ต้องถูกพับเก็บ ไม่มีการสืบสวนจากทางการอีกต่อไป และในระหว่างนี้ก็ไม่มีข้อมูลหรืออะไรที่บ่งบอกว่าพวกเขาทั้งสองมีชีวิตอยู่ อย่างนางหลิวก็ไม่ได้มีการใช้บัตรกดเงินหรือบัตรประกันสุขภาพ ส่วนลูกสาวก็ไม่มีการลงทะเบียนข้าโรงเรียนที่ไหนเลย
ไม่มีอะไรสามารถบอกได้เลยว่าพวกเขาทั้งสอง หายไปไหนกันแน่ และทำไมก่อนหายตัวไป นางหลิวถึงได้ทำท่าทีแปลกประหลาดแบบนั้น
พวกคุณล่ะ คิดเห็นอย่างไร ทำไมแม่ลูกคู่นี้ถึงหายออกจากตึกแบบไร้ร่องรอย หายไปเพื่ออะไร หายไปไหนกันแน่. . .
สนับสนุนค่าข้าว ค่ากาแฟ เพื่อที่ผมจะได้หาเรื่องราวแปลกๆ เขียนไว้ให้อ่านกันได้ที่
พร้อมเพย์ - True Money
0972217753
เลขบัญชี 328-2-96012-3
ธนาคารทหารไทย TMB
อนิรุทธ์ เสริมสุข Anirut Sermsuk
ขอขอบคุณทุกการสนับสนุน ถ้าหากข้อมูลผิดพลาดตรงไหน เรียบเรียงไม่ดียังไง มีคำผิดตรงไหน คอมเมนต์ติชมได้ และจะน้อมรับไปปรับปรุงนะครับ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย