25 ส.ค. 2022 เวลา 02:27 • การเมือง
“หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ” แรงสั่นสะเทือนทางการเมืองครั้งสำคัญ
ถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของคอการเมืองและนักวิเคราะห์ทางการเมืองไม่น้อย หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2565 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์
ซึ่งคาดกันว่ากระบวนการพิจารณาจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน หรือไม่เกินสิ้นเดือนกันยายน 2565 นี้
คำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้นส่งผลทางการเมืองหลายประการ ทั้งการขึ้นมารักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 รวมไปถึงแรงกดดันทางการเมืองที่พุ่งไปสู่ฝ่ายนิยม พล.อ.ประยุทธ์ ที่เพิ่มมากขึ้น จากการรอการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
เนื่องจากคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ยังเป็นเพียงคำสั่งชั่วคราวเท่านั้น แต่หากมีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยย่อมจะส่งผลทางการเมืองอย่างมาก หากตัดสินให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ครบวาระ 8 ปี ก็คงจะไม่ส่งผลเปลี่ยนแปลงอะไรนัก
แต่หากวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ ครบวาระ 8 ปี ก็จะส่งผลให้รัฐสภาต้องเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่พรรคการเมืองเสนอไว้ตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2562 หากยังไม่ได้นายกรัฐมนตรี ก็จะเปิดทางให้มีการเสนอชื่อจากคนนอก
แม้ว่าจะมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ แต่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้นยังคงอยู่ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงอยู่ในคณะรัฐมนตรี แถมยังเป็นตำแหน่งสำคัญที่อยู่ในสภากลาโหมมีส่วนในการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งสำคัญในกองทัพ อีกทั้งยังมีช่องให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการหากรองนายกฯ ไม่พร้อมอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีข่าววงในระบุว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่อาจเป็นเพราะร่างพรป. เลือกตั้ง หาร 100 ที่ส่งกลับมาจาก กกต. ตอนนี้พักอยู่ที่ครม. 5 วันก่อนส่งขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งผู้ที่จะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ก็คือ นายกรัฐมนตรี หรือ นายกรัฐมนตรีรักษาการ ซึ่งก็เป็นที่รู้กันว่า พล.อ.ประยุทธ์ นั้นมีท่าทีสนับสนุนร่างหาร 500 เพื่อพรรคเล็กและพรรคปัดเศษ
ในขณะที่ พล.อ.ประวิตร นั้นสนับสนุนร่างหาร 100 ที่เข้ากับพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย และพรรคขนาดกลาง เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ผู้ที่ต้องนำร่างกฎหมายนี้ขึ้นทูลเกล้าก็คือ พล.อ.ประวิตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีรักษาการนั่นเอง
การเมืองนั้นคือเรื่องของอำนาจ ผลประโยชน์ และเป้าหมาย ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่าสุดท้ายการเมืองไทยจะไปทางไหนต่อ
โฟกัสทุกความเคลื่อนไหว ที่น่าสนใจและอัดแน่นไปด้วยสาระ 
ที่ TopNewsFocus เลือกสรรมาให้คุณเติมอาหารสมองกันได้ทุกวัน
ติดตาม Topnewsfocus ได้ทุกช่องทางที่
โฆษณา