Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรียนต่อเยอรมัน
•
ติดตาม
29 ส.ค. 2022 เวลา 04:16 • การศึกษา
😍😍ใจฟูทุกครั้งที่ได้ยินข่าวจากหลานๆที่รู้จัก แจ้งข่าวว่าสามารถ สอบเข้าเรียนในStudienkollegได้ แต่แม้ได้ข่าวว่าครั้งนี้หนูสอบไม่ได้แต่จะอยู่สู้ต่อ ก็ดีใจหัวใจพองฟูเหมือนกันค่ะ
เขาว่ามาสอบเข้าSTKช่างยากเย็นเข็ญใจจริงไม๊ แล้วมีวิธีง่ายกว่านี้ไม๊ถึงจะได้เข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้ วันนี้จะมีข้อมูลมาเล่าเป็นอีกรูปแบบในการไปเรียนต่อโดยไม่ต้องสอบเข้า Public STK 📌📌วันนี้เมิ่อความต้องการเข้าไปเรียนต่อในเยอรมนีมีมากขึ้น โรงเรียนปรับพื้นฐานในรูปแบบคล้ายกับSTKก็มีเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ใช่Private STKอย่างที่รู้จักกัน
หลังโควิดสงบลง ปีที่ผ่านมามหาวิทยาลัยหลายแห่ง เริ่มเปิดโปรแกรมพิเศษของตัวเองเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับเด็กมัธยมที่เรียนในระดับมัธยมปลายแค่ 3 ปีแบบในบ้านเรา ให้มีพื้นฐานทั้งทางด้านภาษาและวิชาเฉพาะด้านให้มีความพร้อม เทียบเท่ากับเด็กเยอรมนีเองและเด็กจากชาติอื่นๆให้เทียบเท่ากัน พอที่จะเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย
อย่างที่เราทราบว่าหลังจากจบSTK แล้วเราต้องไปสอบวัดผลให้ผ่านรับใบที่เรียกว่า FSP Feststellungsprüfung เพื่อบอกให้รู้ว่า ระดับภาษาเยอรมันและวิชาบังคับตามสาขาที่เราจะเลือกเรียนในระดับมหาวิทยาลัยของเรา เวลานี้มีความรู้พอแล้วนะ เมื่อได้ใบFSPนี้มาแล้วก็นำเอกสารตัวนี้ ไปใช้ประกอบกับเอกสารตัวอื่นเพื่อใช้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัย ไม่ใช่ใช้ใบจบจากSTK อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด
กรณีนี้แม้แต่จบจาก Private STK ก็ยังต้องไปสอบFSP เช่นเดียวกับการจบจากPublic STK
😍😍วันนี้จะยกตัวอย่างโปรแกรมพิเศษดังกล่าว ที่มหาวิทยาลัยเปิดรับเอง และเมื่อจบโปรแกรมPreparatory Courseเราก็ไม่ต้องไปสอบวัดระดับความรู้เพื่อเอาใบ FSP มายื่นสมัคร แต่เมื่อจบโปรแกรมนั้นๆแล้วสามารถใช้ยื่นกับทางมหาวิทยาลัยเจ้าของโปรแกรมและมหาวิทยาลัยในเครือข่ายได้เลย
1
วันนี้จะยกตัวอย่างให้ดู 2แห่งนะคะ จะบอกว่าโปรแกรมพิเศษเหล่านี้ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นเปรียบเหมือนกับเป็น Private STK ที่เราต้องมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสีย ซึ่งแน่นอนว่าสูงมากกว่า Public STK ลองเข้าไปค้นข้อมูลดูนะคะแต่ละที่มีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกัน
https://www.primebremen.de
https://www.rwth-aachen.de
› ~cvvm
Fast Track Bachelor Admission – FTBA - RWTH AACHEN UNIVERSITY
ดีที่สุดคือต้องเข้าไปศึกษาอ่านดูนะคะ หากมีตรงไหนไม่เข้าใจสามารถส่งข้อความสอบถามกับทางมหาวิทยาลัยได้โดยตรง จะยกตัวอย่างสำคัญบางเรื่องให้ลองสังเกตดูเช่น
ในกรณีของPrime Program นอกเหนือจากจบมอ6 เรายังต้องมีระดับการสอบ TestASไปใช้ยื่นสมัคร ตามที่เขากำหนดด้วย และมีการเรียกชื่อคอร์สในการสมัครต่างกันกับที่อื่นๆที่เรียก Module ที่เรียกเป็นสาย T Kurs, G Kurs แต่ที่นี่เรียกเป็น ING MIN WiWi หรือ
อีกกรณีที่เป็นข้อสังเกต Prime Programมีให้เลือกสมัครโปรแกรมระดับภาษาB1 และC1 ในส่วนของระดับภาษามีระบุว่า ถ้ามีใบรับรองภาษาของGoetheต้องเป็นระดับ C1หรือ C2 แต่ถ้ายื่นใบรับรองภาษาของ DSH เป็น DSH-2/-3 จะเห็นว่าต่างกัน เลือกมาอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นต้น
แม้จะเป็น Program จากที่เดียวกันแต่เวลาในการเปิดรับสมัครจะเห็นว่าต่างกัน ดังนั้นต้องให้เวลาในการศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนค่ะ
นี่เป็นตัวอย่างคร่าวๆที่เด็กๆต้องเข้าไปศึกษาดูอย่างละเอียด ต่อมาจะยกตัวอย่างข้อดีและข้อสังเกตบางประการ (เพราะจะบอกว่าเป็นข้อไม่ดีก็ไม่ถูกนัก)
ข้อดีมากของPrivate STK หรือ Private Pogramเหล่านี้ที่เห็นได้ชัดเจนคือ
1.ไม่ต้องไปสอบเข้าเหมือน Public STK เพียงแต่เราต้องเตรียมคุณสมบัติของเราให้พร้อมตามที่เขาระบุก่อนจบมอ6
2.การขอวีซ่าระยะยาวเพื่อการศึกษาต่อง่ายมากยิ่งขึ้น
3.ปักหมุดชัด มีจุดหมายการเดินทางในเรื่องของมหาวิทยาลัยที่จะเรียนและเมืองทึ่จะอยู่ที่แน่นอน ไม่ต้องย้ายเมืองบ่อยๆเพราะการย้ายเมืองแต่ละครั้งต้องวุ่นวายกับการย้สยเข้าย้ายออกขอทะเบียนบ้าน และการต่อวีซ่ารอบถัดๆไปก็ง่ายสะดวกสบาย
🤫🤫🤫ข้อสังเกตที่ไม่เรียกว่าเป็นข้อเสีย
1.มีค่าใช้จ่ายในการเข้าโปรแกรม คือเรื่องค่าธรรมเนียมการศึกษาซึ่งมากกว่าSTKของรัฐแม้จะจัดตั้งโดยมหาวิทยาลัยของรัฐก็ตาม แต่ยังถูกกว่าภาคอินเตอร์ของไทย
2.นอกจากมหาวิทยาลัยที่กำหนดไว้ในโปรแกรม หากอนาคตอยากย้ายสาขาที่เรียนไปยังมหาวิทยาลัยที่อื่นในรัฐอื่น ๆไม่สามารถทำได้เนื่องจากเราไม่มีใบFSPไปใช้ยื่นสมัครนั่นเอง
และอีกข้อสังเกตในFTBA ของ RWTH Aachen จะกำหนดสาขาที่ให้เรียนไว้ด้วย ดังนั้นต้องประเมินตัวเองดีๆว่าชอบในสาขาที่program กำหนดไว้ให้จริงๆไม๊
ตัวอย่างของสาขาทางด้านวิศวกรรมที่กำหนดในประกาศรับสมัครของ FTBA Program นั่นหมายความว่าถ้าชอบนอกเหนือจากสาขาที่กำหนดนี้ เราก็ต้องเลือกไปที่อื่นไม่เข้าโปรแกรมนี้ เป็นต้น
ในกนณีที่เรามีใบผ่านการสอบFSP สามารถจะยื่นเข้ามหาวิทยาลัยได้ทุกแห่งในเยอรมนีในประเภทเดียวกับSTK และระหว่างที่เรียนหากเราพิสูจน์ว่าไม่ชอบสาขาที่เรียนอยู่ เราสามารถทำเรื่องย้ายสาขาย้ายมหาวิทยาลัยได้ แต่ถ้าเราเข้าPrivate Program เราต้องอยู่ในมหาวิทยาลัยในเครือที่เป็นPartner กันอยู่เรื่องนี้เป็นเรื่องทีาเด็กๆต้องศึกษาด้วยตัวเองให้ดีก่อนนะคะ
เป็นกำลังใจให้ทุกคน ไม่ว่าจะเดินเข้าไปด้วยเส้นทางไหน ทำให้คุณสมบัติตัวเองให้พร้อมครบถ้วน ไม่พลาดแน่นอนค่ะ ส่วนมีมหาวิทยาลัยไหนที่มีprivate programแบบนี้บ้าง อันดับแรกลองเข้าไปดูข้อมูลของมหาวิทยาลัยที่ชอบก่อนนะคะ
ไว้พบกันใหม่ในโอกาสถัดไปจ้า❣️❣️❣️❣️
1 บันทึก
2
7
1
2
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย