ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่กินเวลานานถึงครึ่งปีได้เปลี่ยนแปลงโลกในหลายๆมิติไปอย่างไรบ้าง ???
Mutual Intelligence Infiltration and Secret
ปูตินยังคงเพิ่มการบริโภคมุกแห่งความก้าวร้าวทางทหารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง
งานนี้ปูตินได้ลงนามคำสั่งเพิ่มจำนวนกองทัพรัสเซียเป็น 1.15 ล้าน
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ลงนามเพื่อเพิ่มจำนวนกองทัพรัสเซียขึ้น 137,000 เป็น 1.15 ล้าน
ในเวลารุ่งสางของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ขีปนาวุธลากเปลวไฟหางยาวไปทั่วท้องฟ้าของยุโรปตะวันออก และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินกล่าวสุนทรพจน์ระดับชาติในวันเดียวกัน
โดยประกาศเปิดตัว "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ" ต่อยูเครน
ทุกวันนี้ ทั้งสองฝ่ายสูญเสียผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 10,000 ราย และความขัดแย้งยังไม่คลี่คลาย
ยูเครนได้รับความช่วยเหลือจากตะวันตกต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซียหลายครั้งและยึดเมืองหลวง Kyiv ไว้ได้
แต่รัสเซียยังคงควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่ทางตะวันออกและทางใต้ของยูเครน ก่อนรุ่งสางของจุดจบของความขัดแย้ง
โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองหลายครั้ง
การขาดแคลนพลังงาน, อัตราเงินเฟ้อ, การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน...
สงครามในยุโรปตะวันออกได้เปลี่ยนภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของยุโรปและส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนอย่างมากมาย
เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงครึ่งปี
แสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่กินเวลานานถึงครึ่งปีได้เปลี่ยนแปลงโลกในหลายมิติอย่างไร?
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ตามเวลาท้องถิ่น แคว้นมอสโกว รัสเซีย ตามวิดีโอที่เผยแพร่โดยคณะกรรมการสืบสวนของรัสเซีย
เจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังสืบสวนและรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุรถระเบิดซึ่งคร่าชีวิต ดาเรีย ดูกินา ลูกสาวของอเล็กซานเดอร์ ดูกิน (Alexander Dukin)
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม เวลาท้องถิ่น ดาเรีย ดูกินา วัย 29 ปี เสียชีวิตเมื่อรถของเธอระเบิดขณะขับรถในมอสโก
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม หน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (FSB) ได้ประกาศว่าได้คลี่คลายคดีนี้แล้ว โดยเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวหานี้จัดทำและดำเนินการโดยหน่วยสืบราชการลับของยูเครน
ฆาตกรคือ Natalia Pavlovna Vovke พลเมืองยูเครน เมื่อวันที่ 23 คณะกรรมการลาดตระเวนของสหพันธรัฐรัสเซียยังระบุด้วยว่าไม่ได้ออกกฎว่าบุคคลอื่นนอกเหนือจาก Vovke มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้
แล้ว ดูกินา(Dukina) คือใคร?
Alexander Dukin พ่อของเธอเป็นบุคคลกลุ่มขวาจัดที่มีชื่อเสียงในรัสเซีย และเป็นที่รู้จักจากการสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนอย่างแข็งขัน
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ลงนามในคำสั่งเมื่อวันที่ 22 เพื่อมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งความกล้าหาญให้กับดูกินา ปูตินกล่าวว่า ดูกินา เป็น "บุคคลที่มีพรสวรรค์ด้วยบุคลิกที่เฉียบแหลมและเป็นหัวใจของรัสเซียอย่างแท้จริง"
และ "แสดงให้เห็นความหมายของการเป็นผู้รักชาติชาวรัสเซียด้วยการกระทำของเธอ"
หลังจากการลอบสังหารของ ดูกินา มีการคาดเดาว่าชื่อเสียงของพ่อของเธอเองอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่สายลับยูเครนกำหนดเป้าหมายไปที่เธอ
แต่ ยูเครนปฏิเสธการมีส่วนร่วมในเรื่องนี้เป็นครั้งแรก
Podoljak ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ประกาศว่า "เราไม่ใช่ประเทศอาชญากรอย่างรัสเซีย" และเขาก็บอกเป็นนัยว่าคดีนี้อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ในรัสเซีย ในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างพวกเขา
เช่นเดียวกับการระเบิดไครเมียที่ดู "ลึกลับ" ครั้งก่อน
ควันนั้นหายไปจากสายตานานแล้ว เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลาหกเดือน
การเผชิญหน้าไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในสนามรบตั้งแต่ต้นจนจบ การที่ทั้งสองค่ายปะทะกันนั้นรวมถึงการคว่ำบาตร เกมทางการทูต สงครามข้อมูล สงครามจิตวิทยา สงครามข่าวกรอง และการลอบสังหาร
รัสเซียและยูเครนมีภาษาและวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน และรู้จักกันดีค่อนข้างง่ายในการรวบรวมหรือการรั่วไหลของข่าวกรอง
การเสียชีวิต(อย่างรุนแรง)ของลูกสาวของ Dukin และการระเบิดครั้งล่าสุดในแหลมไครเมียเพิ่มขึ้น
ความสงสัยของโลกภายนอกของรัสเซียและยูเครน จึงมีความน่าสนใจ
เมื่อวันที่ 20 ตามเวลาท้องถิ่น เกิดการระเบิดของรถยนต์ขึ้นในมอสโก (Oblast) และ ดูกินา ถูกสังหารโดยระเบิด
รูปภาพที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์มโซเชียลแสดงให้เห็นว่า ดูกินาเองกำลังเอามือกุมศีรษะด้วยความเจ็บปวดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ และเห็นรถของเธอถูกไฟลุกท่วม
ในคืนที่เกิดเหตุการณ์ ดูกินาได้เข้าร่วมงานกับพ่อของเธอ ดูกินาได้กล่าวสุนทรพจน์ในฐานะนักปรัชญา
ตามรายงานของสื่อ พ่อและดูกินา ควรจะอยู่ในรถที่เกิดอุบัติเหตุกับลูกสาวของเขา
ดังนั้นจึงมีรายงานด้วยว่า Dukin อาจเป็นเป้าหมายของการโจมตี
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เวลาท้องถิ่น กรุงมอสโก รัสเซีย นักคิดชาวรัสเซีย Alexander Dukin ได้เข้าร่วมพิธีอำลาลูกสาวของเขา Dalia Dukina ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุระเบิดรถยนต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เพียง 2 วันหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว หน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย "แก้ไขคดีอย่างรวดเร็ว" และประกาศว่าการลอบสังหาร Dukina ได้รับการวางแผนและดำเนินการโดยหน่วยข่าวกรองของยูเครน
ผู้ต้องสงสัยคือ Vovke พลเมืองยูเครนที่เกิดในปี 2522 ตามที่ฝ่ายรัสเซียกล่าวอ้าง Vovke ไปรัสเซียพร้อมกับลูกสาววัย 12 ปีของเธอในวันที่ 23 กรกฎาคมปีนี้
เพื่อดำเนินการติดตามและเฝ้าระวัง Vovke เช่าบ้านในอาคารที่ Dukina อาศัยอยู่ และหนีไปเอสโตเนียพร้อมกับลูกสาวของเธอหลังจากที่รีโมทคอนโทรลได้จุดชนวนระเบิดที่ด้านล่างของรถ
อย่างไรก็ตาม สำนักงานข่าวของคณะกรรมการลาดตระเวณ แห่งสหพันธรัฐรัสเซียได้เปลี่ยนแปลงคำแถลงเมื่อวันที่ 23
โดยกล่าวว่าผู้สืบสวนชาวรัสเซียไม่ได้ปฏิเสธว่ามีคนอื่นที่อาจเกี่ยวข้องกับการสังหาร Dukina นอกเหนือจาก Vovke
นอกจากนี้ สื่อรัสเซียยังได้เปิดเผยรูปภาพของเอกสารที่เชื่อว่าเป็น Vovke ที่อาศัยอยู่ในดินแดนยูเครน แต่ฝ่ายรัสเซียได้เปิดเผยเพียงภาพการเฝ้าระวังกิจกรรมในรัสเซียบางส่วนเท่านั้น
และยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัยที่กระทำความผิด อาชญากรรม จึงเป็นหลักฐานที่อ่อนมากๆ
ทางยูเครนปฏิเสธ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร Dukina Podoljak
ในความขัดแย้งที่กินเวลานานถึงหกเดือน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่รัสเซียและยูเครนจะเก็บบันทึกเหตุการณ์ที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
เช่น ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมของปีนี้ ในแหลมไครเมียซึ่งรัสเซียควบคุมได้มาเป็นเวลา 8 ปี
สนามบินและคลังกระสุนของรัสเซียก็ประสบการระเบิด "ลึกลับ" หลายครั้ง รัสเซียและยูเครนก็ไม่เห็นด้วยกับสาเหตุของอุบัติเหตุนี้เช่นกัน
กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมว่า กระสุนระเบิดที่สนามบินซากิในไครเมีย และอุปกรณ์การบินในสนามบินได้รับความเสียหาย
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม คลังแสงของกองทัพรัสเซียและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ในแหลมไครเมียถูกไฟไหม้ ซึ่งทำให้ประชาชนในท้องถิ่นมากกว่า 3,000 คนต้องอพยพ
เมื่อวันที่ 20 ได้ยินเสียงระเบิดอีกครั้งในแหลมไครเมีย และมีขีปนาวุธได้โจมตีเขตที่อยู่อาศัยในเมืองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทำให้พลเรือนบาดเจ็บอย่างน้อย 12 คน
เจ้าหน้าที่รัสเซียไม่เคยกล่าวหาว่าให้ยูเครนรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดหลายครั้งในแหลมไครเมีย
และรัฐบาลยูเครนก็ไม่เคยยอมรับความรับผิดชอบอย่างเป็นทางการต่อเหตุระเบิดดังกล่าว
แต่ Agence France-Presse อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ยูเครนที่ไม่สามารถอ้างชื่อได้กล่าวว่า
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ขีปนาวุธของรัสเซียโจมตีเมืองท่าทางตอนใต้ของ Odessa และ Nikolayev ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นการตอบโต้เหตุระเบิดที่ไครเมีย
ในเวลาเดียวกัน Igor Osipov ผู้บัญชาการกองเรือทะเลดำของรัสเซียก็ถูกแทนที่โดยผู้บัญชาการคนใหม่ จนนักวิเคราะห์ภายนอกกล่าวว่านี่เป็นเพราะปูตินโกรธมากที่โดนโจมตีแหลมไครเมีย
เป็นที่น่าสังเกตว่า การระเบิดในแหลมไครเมียเกิดขึ้นเมื่อ Podoljak พูดเป็นนัยใน Twitter ว่าการโจมตีครั้งนี้เป็น "เพียงแค่จุดเริ่มต้น"
ส่วน Zelensky เน้นย้ำไปพร้อม ๆ กันในสุนทรพจน์(วิดีโอ)ของเขาว่า "แหลมไครเมียเป็นดินแดนของยูเครน และเคียฟจะไม่มีวันยอมแพ้"
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม เดอะนิวยอร์กไทมส์ ตีพิมพ์บทความเรื่อง "การระเบิด การลอบสังหาร และสงครามจิตวิทยา กองโจรยูเครนในรัสเซีย- พื้นที่ที่ถูกยึดครอง”
รายงานว่ายูเครนกำลังแอบเปิด “สงครามกองโจร” กับรัสเซีย
"กองโจร" เหล่านี้ที่เดินอยู่ทั้งสองด้านของแนวหน้า
สามารถแอบเข้าไปในตรอกมืดเพื่อวางระเบิด
เพื่อระบุเป้าหมาย(รัสเซีย) สำหรับปืนใหญ่ของยูเครนและเครื่องยิงจรวดพิสัยไกลที่สหรัฐฯ จัดหาให้
พวกมันระเบิดทางรถไฟและเจ้าหน้าที่ลอบสังหารที่พวกเขาคิดว่ามีความเชื่อมโยง ไปรัสเซีย
และ พวกเขายังอ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทิ้งระเบิดในแหลมไครเมียด้วย
ซึ่ง "นำความอับอายมาสู่พื้นที่ที่ถูกยึดครองซึ่งกองทัพรัสเซียที่คิดว่าปลอดภัย"
ก่อนการลอบสังหารครั้งนี้ Dukin และลูกสาวของเขาเป็นที่รู้จักในรัสเซียและ Dukin เป็นผู้นำในหมู่นักเคลื่อนไหวขวาจัดของรัสเซีย
ตามรายงานของ "Russia Today" Dugin มีชื่อเสียงนอกรัสเซียมากกว่าที่บ้านตัวเอง และถูกเรียกว่าเป็น "สมองของปูติน"
โดยสื่อตะวันตก เชื่อว่าเขาสามารถมีอิทธิพลต่อปูตินและรวมถึงโลกทัศน์ชนชั้นในการปกครองของรัสเซีย
และ Dukina วัย 29 ปี เป็นผู้ติดตามแนวคิดทางการเมืองของพ่อเธอมาโดยตลอด
สื่อเสรีรัสเซีย รายงานเมื่อวันที่ 21 ว่าเธอยังเป็นนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาที่มีชื่อเสียงในรัสเซีย และยังคงส่งเสริมความคิดเห็นชาตินิยมของรัสเซียต่อไป
เธอเชื่อว่าพื้นที่ยูเรเซียน(Eurasianists)ที่มีรัสเซียเป็นแกนกลางจะต้องต่อต้าน "แอตแลนติก" ที่อาศัยอำนาจทางทะเล โดยเฉพาะกลุ่มประเทศแองโกล-แซกซอนที่แสดงตนโดยสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา
หน้าที่ของ Eurasianists คือการก่อตั้ง และรักษาอาณาจักรยูเรเชียนที่เป็นหนึ่งเดียว และต่อต้าน "แอตแลนติก" ในการต่อสู้เพื่อ "ชายขอบ"
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น Dukin หรือ Dukina พวกเขาสนับสนุนการดำเนินการทางทหารของรัสเซียต่อยูเครนเพื่อย้อนกลับโมเมนตัมของการล่มสลายของยูเครนที่ไปทางทิศตะวันตก
ในเดือนกรกฎาคม Dukina ยังถูกคว่ำบาตรจากสหราชอาณาจักรสำหรับ "การเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับยูเครนอยู่บ่อยครั้ง"
ดังนั้น หลังจากการลอบสังหาร เจ้าหน้าที่รัสเซียจึงมักจะกล่าวยกย่องเธอ
หลังจากที่ฆาตกรถูกจับโดย Russian Federal Security Service ในฐานะสายลับยูเครน
ก็มีเสียงเรียกร้องในรัสเซียให้ตอบโต้ยูเครนเพื่อเธอ Dugin พ่อของเธอก็ออกมาและเรียกร้องให้กองทัพรัสเซียกำชัยชนะเหนือยูเครน
Konstantin Malofeev เพื่อนของ Dukina กล่าวในแถลงการณ์บนแพลตฟอร์มโซเชียล Telegram ว่า...
การสังหาร Dukina เป็น "การก่อการร้ายโดยระบอบนาซีในยูเครน"
“ ลูกสาวของฉัน Daria Dugina ถูกสังหารอย่างไร้ความปราณีต่อหน้าฉัน” Dugin เขียน
“ เธอเป็นผู้หญิงออร์โธดอกซ์ที่สวยงามผู้รักชาตินักข่าวสงครามนักวิจารณ์โทรทัศน์และปราชญ์ . . จำเป็นต้องมีชัยชนะ ลูกสาวของฉันอุทิศชีวิตวัยเยาว์ให้กับ แท่นบูชานี้ ดังนั้นโปรดชนะ!"
ในวันที่ 22 Dukina เข้าร่วมเป็นแขกรับเชิญ(พิเศษ)หลายครั้งในช่วงชีวิตของเธอเช่น ในรายการ "Time Will Tell" ของสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย
เพื่อแสดงความเสียใจกับเธอ Olesya Losyeva พิธีกรชื่อดังชาวรัสเซียกล่าวว่า Dukina เสียชีวิตจากความคิดนี้ของ "รัสเซีย"
ผู้ชมหลายคนแสดงความโกรธเคือง(ในรายการ)ว่าถ้า Dukina ถูกลอบสังหารเพื่อข่มขู่รัสเซียจริงๆ "มันก็จะมีผลตรงกันข้าม"
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ตามเวลาท้องถิ่น กรุงมอสโก รัสเซีย พิธีอำลาของ Dalia Dukina จัดขึ้นที่ Ostankino Center ผู้คนเข้าแถวกันที่ทางเข้าด้วยดอกไม้จำนวนมาก
ในเวลาเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาในยูเครนได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 23 " Security Alert ” เรียกร้องให้พลเมืองสหรัฐฯ ออกจากยูเครนทันที
ตามรายงานของ CNN สหรัฐฯ เชื่อว่ารัสเซียอาจโจมตีโรงงานของพลเรือนยูเครนและสิ่งอำนวยความสะดวกของรัฐบาลในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เมื่อ 24 สิงหาคมเป็นวันประกาศอิสรภาพของยูเครน และยังเป็นเวลาครึ่งปีที่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารกับยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีนี้อีกด้วย Zelensky ยังเรียกร้องให้มีการเฝ้าระวังวิดีโอในคืนวันที่ 21 สิงหาคม
โดยเตือนว่ามอสโกอาจใช้โอกาสนี้ในการลอง "สิ่งที่น่าเกลียด" เขากล่าวว่าเขาได้หารือเกี่ยวกับ "ภัยคุกคามทั้งหมด" กับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง และได้แบ่งปันข้อมูลกับผู้นำคนอื่นๆ รวมถึงประธานาธิบดีตุรกี เรเซป ทายยิป แอร์โดอัน และอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ
ทำให้เจ้าหน้าที่ยูเครนจำกัดการเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพ ท่ามกลางความกลัวว่าจะมีการโจมตีรุนแรงขึ้น
ตามรายงาน เอกสารที่ออกโดยฝ่ายบริหารของกองทัพ Kyiv แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานท้องถิ่นใน Kyiv ได้สั่งห้ามงานสาธารณะขนาดใหญ่และการชุมนุมที่เกี่ยวข้องกับการครบรอบวันประกาศอิสรภาพของยูเครน ซึ่งการระงับนี้จะคงอยู่ตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 25
เจ้าหน้าที่ในส่วนอื่น ๆ ของยูเครนได้ดำเนินการเพื่อจำกัดการเฉลิมฉลอง(ที่ผ่านไป)นี้เช่นกัน
ในคาร์คิฟ เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนที่มักถูกโจมตีโดยปืนใหญ่และจรวดของรัสเซีย Ihor Terekhov นายกเทศมนตรีของเมืองประกาศเมื่อวันที่ 23 ถึงวันที่ 25 ขยายเวลาเคอร์ฟิวในท้องที่
และเวลาเคอร์ฟิวจาก 16.00 น. เป็น 07.00 น.
ในรัฐนิโคลาเยฟทางตอนใต้ของยูเครน ผู้ว่าการวิตาลี คิม สั่งให้คนในท้องถิ่นทำงานจากที่บ้านในวันที่ 23 และ 24
และเรียกร้องให้ประชาชนไม่รวมตัวกัน
รัสเซีย-ยูเครน ไม่เพียงแต่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ในสนามรบยังคงล่าช้า แต่การแข่งขันลับระหว่างหน่วยสืบราชการลับด้านความมั่นคงของทั้งสองฝ่ายยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
เกมรอบด้าน ข่าวกรองและข้อมูล ส่งผลต่อการพัฒนาสถานการณ์นอกสนามรบด้านหน้าทั้งสิ้น...
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เมื่อประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan เยี่ยมชมไร่องุ่นในจังหวัด Manisa ทางตะวันตกของตุรกี ชาวนาคนหนึ่งถามถึงสถานการณ์ของเซเลนสกี้( Zelensky) และ Erdogan ซึ่งเพิ่งไปเยือนยูเครนเมื่อไม่นานมานี้กล่าวว่า Zelensky มีปัญหาและเขากังวลมากว่าคนรอบข้างเขาจะนอกใจเขา(ฮั่นแน่ๆๆๆ สำนวนนี้ไม่เกี่ยวกับเมียเขานะครับ)
ซึ่งความกังวลของประธานาธิบดียูเครนนั้นไม่มีมูล
แม้ว่า เซเลนสกี้จะไล่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลออกตั้งแต่เกิดความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม
Zelensky ปลด Irina Venediktova อัยการยูเครนในขณะนั้นและ Ivan Bakanov ผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน เนื่องจากหน่วยงานต่างๆ ที่พวกเขา ถูกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง การทำงานร่วมกับ Bakanov
ซึ่ง Bakanov ยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กของ Zelensky และอดีตหุ้นส่วนทางธุรกิจอีกด้วย
Zelensky กล่าวในขณะนั้นว่า 651 คดีที่เกี่ยวข้องกับการทรยศและการสมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียโดยพนักงานของสำนักงานอัยการ หน่วยงานสอบสวน(ก่อน)การพิจารณาคดี และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ ได้รับการเปิดเผย
โดยในนั้นมีการกล่าวหาหน่วยงานของ Bakanov และ Venediktova มากที่สุด
มีเจ้าหน้าที่มากกว่า 60 คนที่ทำงาน ต่อต้านยูเครนในดินแดนยูเครนที่ถูกยึดครองโดยรัสเซีย ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับทำงานของทั้งสอง
เจ้าหน้าที่อาวุโสของยูเครนที่ถูกไล่ออกในเดือนกรกฎาคม ได้แก่ ...
Demchenko รองประธานคณะกรรมการความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติของยูเครน
Vladimir Holbanko รองผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติและผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษของยูเครน
Grigory Gala Gan และผู้บริหารความปลอดภัยของยูเครน ภูมิภาค Sumskaya, Poltavskaya, Zakarpatskaya, Gitomirskaya
และ Dnipropetrovsk ที่มีความสำคัญ(มาก)ต่อบริการรักษาความปลอดภัย "The Great Purge"
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของยูเครนต้องสงสัยว่า "ร่วมมือกับรัสเซีย"
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม Zelensky ประกาศเลิกจ้าง "นายพลทรยศ" สองคน
เขาพูดในวันเดียวกันว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าบ้านเกิดของพวกเขาอยู่ที่ไหน ฮาาาาา....
ส่วนด้าน ข้อมูลของปูตินในแผนที่รัสเซีย
สื่อตะวันตกกล่าวว่าปูตินยังกังวลเกี่ยวกับการแทรกซึมจากตะวันตก ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปี พรมแดนรัสเซีย-ยูเครนเต็มไปด้วยสงคราม
และสหรัฐฯ เป็นผู้นำในการอ้างว่าปูตินตัดสินใจทำสงคราม ซึ่งได้รับการยืนยันในภายหลัง
Washington Post เปิดเผยในรายงานเรื่อง "The Road to War" เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมว่าหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าการตัดสินใจของปูตินมาจากภาพถ่ายดาวเทียม การสื่อสารที่ถูกดักจับและแหล่งที่มาของผู้ให้ข้อมูล และแจ้งแผนการรบของพันธมิตรปูติน
ก่อนวันประกาศ "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ(คำเลี่ยงบาลี)" ต่อยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปูตินตำหนิหัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่อสาธารณชนในคลิปวิดีโอที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ของรัฐ ซึ่งทำให้นารีชกิน หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย (SVR) อับอายขายหน้า
ความไม่พอใจของประธานาธิบดีรัสเซียกับการรั่วไหลของข่าวกรองที่เกี่ยวข้อง
ในขณะเดียวกัน การรุกของรัสเซียในการเมืองยูเครนยังกล่าวได้ว่าต่ำกว่าที่เครมลินคาดไว้ ซึ่งอาจนำไปสู่การคาดคะเนที่ผิดพลาดโดยผู้นำรัสเซียในช่วงต้นของความขัดแย้ง
ตามรายงานของสื่ออังกฤษ "The Times" เมื่อต้นเดือนมีนาคม เจ้าหน้าที่ของ Russian Federal Security Service ประมาณ 150 คนถูกไล่ออก
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดถูกกักบริเวณในบ้าน ในช่วงเวลานั้น ไม่นานหลังจากเกิดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน รัสเซียเริ่มต้นได้ไม่ดีและอยู่ในช่วงอ่อนไหว สิ่งนี้แสดงให้เห็นความโกรธของปูตินต่อสถานการณ์
ขณะที่ตระหนักว่าสถานการณ์ในยูเครนขัดแย้งกับสิ่งที่เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของเขามอบ(ข้อมูล)ให้อย่างมาก
จนมีทัศนะที่ปูตินเชื่อว่าวงการเมืองของยูเครนเคยถูก "ติดสินบน" โดยรัสเซียในขณะนั้น และกองทัพรัสเซียจะชนะโดยไม่มีการต่อสู้เมื่อเข้าสู่กรุงเคียฟ
Andrey Soldatov ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาด้านความปลอดภัยของรัสเซียบอกกับ The New York Times เมื่อเดือนมีนาคมว่าการขับไล่เจ้าหน้าที่ข่าวกรองแสดงให้เห็นว่า
“ในที่สุดปูตินก็เข้าใจว่าเขาถูกหลอก” ฮาาาาาาาาาาา..
แม้ว่าในที่สุดรัสเซียจะล้มเหลวในการบรรลุวัตถุประสงค์ของ "การปฏิบัติการทางทหารพิเศษ"
โดยการโจมตี Kyiv ในระยะแรกของความขัดแย้ง
แต่จากนั้นก็เปลี่ยนแนวหน้าหลักไปยังภูมิภาค Udong
และจนถึงขณะนี้ รัสเซียมีความคืบหน้าอย่างมากที่นั่นและยึดครองพื้นที่ขนาดใหญ่
สำหรับการเจรจาสันติภาพ
นับตั้งแต่การเจรจารอบที่ห้าระหว่างรัสเซียและยูเครนสิ้นสุดลงในตุรกีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม
การเจรจาได้หยุดชะงักลง และความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงดำเนินต่อไปทั้งในและนอกสนามรบ
- 17
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
