นรกภูมิ
นรกภูมิ คือ แดนเกิดของดวงจิตที่กระทำบาป สัตว์ที่ไปเกิดในนรกภูมิ เกิดด้วยการอาศัยอำนาจของอกุศลกรรม โดยร่างที่เกิดในนรกภูมินั้น ก็เกิดจากอำนาจของอกุศลกรรมด้วยเช่นกัน เช่น บางร่างตัวเป็นมนุษย์แต่ศีระษะเป็นวัว เป็นหมู บางร่างร่างกายใหญ่โตเท่าภูเขา และได้รับโทษทัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ถูกเลื่อย ถูกหั่นร่างเป็นชิ้น ๆ ถูกไฟครอก ถูกโยนในกองไฟ หรือปีนต้นงิ้ว เป็นต้น
นรกภูมิ เป็นหนึ่งในอบายภูมิ คือภูมิซึ่งหาความเจริญไม่ได้เลย
นรกมีทั้งหมด 8 ขุม คือ
นรกขุมที่ 1 สัญชีวมหา นรก
นรกขุมนี้เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบฆ่าสัตว์ เห็นการฆ่าเป็นเรื่องสนุก ไม่ว่าจะฆ่าด้วยตนเอง หรือใช้ให้คนอื่นไปฆ่า รวมถึงการฆ่ามนุษย์ด้วย เมื่อตายแล้วก็ต้องไปตกนรกขุมนี้
ถูกลงทัณฑ์ด้วยเครื่องศัสตราวุธต่างๆ คือพร้า ขวาน จอบ ตะบอง และอุปกรณ์การฆ่ามากมาย คอยสับ ฟัน ทิ่ม แทง แล่เนื้อ สัตว์นรกทั้งหลาย
สัตว์นรกได้ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ก็ร้องไห้ครวญคราง ครั้นตายไปแล้ว จะมีลมจำพวกหนึ่งพัดมาเมื่อสัตว์นรกต้องลมนั้น ก็กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง และถูกลงทัณฑ์อีกครั้ง เป็นแบบนี้ไม่รู้จบ จนกว่าจะสิ้นกรรม
ครั้นพ้นจากนรกขุมนี้ บ้างก็ไปเกิดในเดรัจฉาน บ้างก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ แต่จะเป็นมนุษย์ที่มีโรคภัยไข้เจ็บมากมาย หรือเป็นมนุษย์ที่มีอายุสั้น ตายก่อนวัยอันสมควร เป็นเพราะเศษกรรมที่เคยได้กระทำมา
นรกขุมที่ 2 กาฬสุตตมหานรก
หมายถึง มหานรกด้ายดำ นรกขุมนี้ เป็นนรกที่อยู่ถัดลงมาจากสัญชีวมหานรก มีขนาดใหญ่กว่าสัญชีวมหานรก สัตว์นรกในขุมนี้จะถูกตีหรือขึงด้วยเส้นเชือกสีดำ นายนิรยบาลจะใช้เครื่องมือที่มีคมถาก ตัดสัตว์นรกตามแนวเส้นสีดำที่ตีไว้ เครื่องประหารต่างๆ เหล่านั้นมีขวาน จอบ มีด เลื่อย เป็นต้น
สัตว์นรกที่เกิดอยู่ในมหานรกขุมที่สองนี้มาจากพวกที่ชอบ ลักขโมย ลักทรัพย์ ฉ้อโกงเป็นส่วนมาก ชีวิตในกาฬสุตตมหานรกนี้ จะถูกนายนิรยบาลจับมัดให้นอนเหนือแผ่นเหล็กแดงที่ร้อนด้วยไฟนรก แล้วเอาด้ายดำซึ่งทำด้วยเหล็กใหญ่โตเท่าลำตาล มาตีบนร่างของสัตว์นรกซึ่งเป็นร่างกายที่ใหญ่โตมาก จนทำให้เป็นรอยเส้น แล้วก็ทำการเลื่อยจนกายขาดเป็นท่อนๆ สัตว์นรกร้องโหยหวน ด้วยความทุกข์ทรมาน
สัตว์นรกได้รับความทุกข์ทรมานจนกว่าจะสิ้นอายุขัยตายไปจากนรกขุมนี้
มหานรกขุมที่ 3 สังฆาฎนรก
ขุมนรกสำหรับผู้ประพฤติผิดในกาม สังฆาฏมหานรก หมายถึง มหานรกที่ถูกภูเขาเหล็กบดขยี้ร่างกายเหตุที่มาเกิด ในนรกขุมนี้ เพราะประพฤติผิดในกามเป็นส่วนมาก
ชีวิตในสังฆาฏมหานรก สัตว์นรกจะมีร่างกายพิกลพิการต่างๆ และมีรูปร่างแปลกประหลาด เช่น บางตนมีหัวเป็นวัวควาย มีตัวเป็นคน บางตัวมีหัวเป็นคนมีตัวเป็นวัวควาย
นายนิรยบาลในมือถือศัสตราวุธต่างๆ เที่ยวเดินและคำรามใส่ สัตว์นรกได้ยินเสียงต่างพาวิ่งหนี แต่ด้วยอำนาจกรรม ทำให้เกิดกองไฟกองใหญ่ขวางหน้าสัตว์นรกนั้นไว้ พอหันหลังจะวิ่งหนีก็มาเจอไฟอีกกองหนึ่ง
ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีกองไฟปรากฏเกิดขึ้น เผาสัตว์นรกเหล่านั้นให้ได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัสโดยแม้จะถูกไฟเผาไหม้แล้วสัตว์นรกนั้นก็ไม่ตาย โดยจะมีภูเขาเหล็กนรก กลิ้งมาบดขยี้ร่างกายของสัตว์นรกนั้น ต้องเสวยทุกข์รับโทษไปอย่างนี้จนกว่าจะหมดกรรมลง
มหานรกขุม 4 โรรุวมหานรก
โรรุวมหานรก หมายถึง มหานรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องระงมครวญครางอย่างน่าเวทนา นรกขุมนี้ เป็นนรกขุมที่ 4 อยู่ถัดลงมาจากสังฆาฏมหานรก ชีวิตสัตว์นรกขุมนี้ต้องรับทุกขเวทนาในดอกบัวเหล็ก โดยวิธีที่แปลกประหลาดคือ
ต้องนอนคว่ำหน้าอยู่กลางดอกบัวเหล็กอันโตใหญ่ ศีรษะมิดเข้าไปในดอกบัวแค่คาง ปลายเท้าจมมิดเข้าไปในดอกบัวเหล็กแค่ข้อเท้า มือทั้งสองข้างกางจมมิดเข้าไปในดอกบัวเหล็กแค่ข้อมือ นอนคว่ำหน้าอยู่ด้วยอาการพิลึกพิกลเช่นนั้น
เปลวไฟก็ปรากฏขึ้น เผาไหม้ดอกบัวเหล็กพร้อมกับสัตว์นรกเหล่านั้น เปลวไฟแลบเข้าหูซ้ายออกหูขวา เข้าปาก ตา จมูก สัตว์นรกได้แต่ร้องครวญครางเสียงสนั่นหวั่นไหว จะตายก็ไม่ตาย ทุกข์ทรมานแสนสาหัส ต้องทนทุกอยู่อย่างนี้ จนกว่าจะถึงอายุขัยตายไปจากนรกขุมนี้
นรกขุมนี้เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบ พูดโกหก พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ มีวจีกรรมชั่วช้า ใช้วาจาทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
มหานรกขุมที่ 5 มหาโรรุวมหานรก
มหาโรรุวมหานรก หมายถึง มหานรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องระงมครวญครางมากมาย สัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ร้องดังกว่าในขุมโรรุวะ เพราะถูกเปลวไฟร้อนแรงเผาไหม้อยู่ตลอดเวลา
สัตว์ทั้งหลายที่ต้องตกไปอยู่ในนรกขุมนี้ ต้องเข้าไปยืนอยู่ในดอกบัวเหล็กนรกซึ่งมีกลีบคมเป็นกรด มิหนำซ้ำยังร้อนแรงไปด้วยไฟนรก เผาไหม้สัตว์นรกซึ่งอยู่ในดอกบัวนั้น ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เปลวไฟแลบเข้าทวารทั้ง 9 เผาไหม้ทั้งข้างในข้างนอก จะตายก็ไม่ตาย ถูกไฟไหม้ขนาดนี้ยังไม่พอ ยังถูกนายนิรยบาลถือกระบองเหล็กอันมีไฟลุกโชน ตีกระหน่ำลงบนศีรษะซ้ำเข้าไปอีก ถึงขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ตาย ด้วยอำนาจของกรรมทำให้มีชีวิตได้รับทุกข์ต่อไป จนกว่าจะหมดอายุขัยไปจากนรกขุมนี้
นรกขุมนี้เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบ ดื่มสุรา เสพสิ่งมึนเมา ยาเสพติด
มหานรกขุมที่ 6 ตาปนมหานรก
ตาปนมหานรก หมายถึง มหานรกที่ทำสัตว์ให้เร่าร้อน ชีวิตในตาปนมหานรก สัตว์ทั้งหลายที่ตกไปอยู่ในนรกขุมนี้ จะถูกนายนิรยบาลไล่ให้ขึ้นไปบนปลายเหล็กแหลมซึ่งโตเท่าลำตาล และแดงฉานด้วยเปลวไฟ เสียบสัตว์นรกบนปลายเหล็กนั้น ไฟไหม้สัตว์นรกนั้นตลอดเวลา เนื้อหนังของสัตว์นรกนั้นก็สุกพองไปด้วยอำนาจไฟนรก
พอสุกแล้วจะมีสุนัขนรกรูปร่าง แปลกประหลาด น่ากลัว มีขนาดตัวเท่าช้าง ร้องเสียงดังกึกก้องด้วยความหิวกระหาย วิ่งเข้ามาหาสัตว์นรกนั้น กระชากลากสัตว์นรกออกมาจากปลายเหล็ก เคี้ยวกินจนเหลือแต่กระดูก แล้วต้องกลับมีชีวิตใหม่ เป็นอย่างนี้จนกว่าจะหมดอายุขัยของตาปนมหานรก
เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบ เล่นการพนัน สนับสนุนให้ผู้อื่นเล่นการพนัน เจ้าของบ่อนพนัน หรือมีอาชีพที่เกี่ยวกับการพนัน
มหานรกขุมที่ 7 มหาตาปนมหานรก
มหาตาปนมหานรก หมายถึง มหานรกที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนอย่างมาก นรกขุมนี้ เป็นนรกขุมที่ 7 อยู่ถัดลงมาจากตาปนมหานรก และมีขนาดใหญ่กว่า ชีวิตในมหาตาปนมหานรก สัตว์นรกขุมนี้ อยู่ที่ลึกและกว้าง มีกำแพงเหล็กลุกเป็นไฟล้อมรอบ ภายในกำแพงกว้างขวางใหญ่โต มีภูเขาเหล็กลุกเป็นไฟตั้งอยู่ ภูเขานั้นมีขวากเหล็กแหลมคมปักเรียงราย ร้อนแรงด้วยไฟมากมาย นายนิรยบาลทั้งหลายต่างถืออาวุธ หอก ดาบ ไล่ทิ่มแทงสัตว์นรก บังคับให้ขึ้นไปบนภูเขาไฟอันแดงฉาน
พอนายนิรยบาลไล่ทิ่มแทงทุบตี สัตว์นรกพากันตกใจ วิ่งหนีขึ้นไปบนยอดเขานรก และแล้วในไม่ช้าก็มีลมกรด อันร้อนแรง พัดมาด้วยกำลังแห่งลมนรก ให้สัตว์นรกพลัดตกมาจากยอดเขา ตกลงมาถูกเหล็กแหลมเบื้องล่าง เสียบร่างกายทะลุเลือดแดงฉาน บางตนตกลงมาถูกบดขยี้แหลกละเอียด เป็นอย่างนี้ตลอดจนหมดเวลาของอายุในนรกขุมนี้
มหานรกขุมนี้เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบ เที่ยวกลางคืน มัวเมาในอบายมุข เป็นนักเลงอบายมุขเป็นส่วนมาก
และสุดท้าย อเวจีมหานรก หมายถึง มหานรกที่ปราศจากความเบาบางแห่งความทุกข์ ระหว่างแห่งเปลวไฟและความทุกข์ไม่มีว่างเว้นเลย เป็นมหานรกขุมสุดท้าย ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีโทษแห่งการกระทำหนักที่สุด และมีอายุขัยนานที่สุด
ชีวิตในอเวจีมหานรก สัตว์นรกในขุมนี้จะได้รับความทุกข์แสนสาหัส เป็นนรกที่ขุมใหญ่ที่สุด ราวกับเมืองใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเหล็ก ภายในมีเปลวไฟร้อนระอุไหม้สัตว์นรกอยู่ตลอดเวลาทั้งกลางวันกลางคืนไม่มีว่างเว้น
สัตว์ที่ต้องไปอุบัติในอเวจีมหานรกนี้มีมากกว่าขุมอื่นๆ แออัดยัดเยียดเบียดเบียนกันอยู่ ทั้งการเสวยทุกข์โทษในมหานรกขุมนี้ก็แตกต่างกันไปหลายอิริยาบถ หลายท่าหลายทาง เช่น ถ้าเคยยืนทำบาปอกุศลกรรมไว้ ก็ต้องมาทนทุกข์อยู่ในอิริยาบถยืน เคยเดินทำบาปไว้ ก็ต้องเดินทนทุกข์อยู่แบบนั้น เคยนั่งเคยนอนทำบาปไว้ ก็ต้องมานั่งมานอนเสวยทุกข์อยู่ในอเวจีมหานรกนี้
เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ทำอนันตริยกรรม เช่น ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำสงฆ์ให้แตกกัน หรือทำพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต ถึงแม้จะทำเพียงครั้งเดียว ไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ก็ถือเป็นกรรมที่หนักมาก ต้องตกอเวจีมหานรก ได้รับโทษทัณฑ์ทรมานที่แสนสาหัส มีอายุยาวนานกว่านรกขุมอื่นๆ โดยมีอายุขัยของสัตว์นรกขุมนี้มีประมาณ 1 อันตรกัป
..... ชาตินี้ ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ถ้าประมาทมัวเมา ไม่ตั้งอยู่ในกุศลธรรม ชาติต่อไปอาจจะไปสู่ที่ต่ำยิ่งกว่ามนุษย์ คือ ทุคติภูมิ ก็เป็นได้
และที่สำคัญทุคติภูมิ เป็นภูมิที่ไปได้โดยง่ายมาก เราจึงต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ละความชั่วทั้งปวง ทำกุศลให้ถึงพร้อม เข้าถึงพระธรรม และพัฒนาตนเองไปถึงระดับอาริยะบุคคล เพราะนี่คือหนทางเดียวที่จะป้องกันตนเองจากทุคติภูมิได้
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
