สินเชื่อ "บ้านแลกเงิน" ทำยังไง ?
ไหนใครไปทำเรื่อง "รีไฟแนนซ์บ้าน" มาแล้วบ้าง ? แนะนำถ้าใครมีแผนรีบเลยก่อนที่สถาบันการเงินต่าง ๆ จะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามแบงก์ชาติ ซึ่งคาดกันว่า ก.ย.นี้อาจจะประกาศขึ้นอีกรอบ
สินเชื่อ "บ้านแลกเงิน" ทำยังไง ?
หากใครยังไม่มีผู้ช่วยในการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย "รีไฟแนนซ์บ้าน" ผมแนะนำให้ Lumpsum ช่วยหาให้ คลิกได้เลย>> https://bit.ly/bd-refinance
แต่ประเด็นที่จะแชร์กันวันขอวกกลับไปที่สินเชื่อ "บ้านแลกเงิน" เพราะ Lumpsum เราก็มีบริการข้อมูลเรื่องนี้เช่นกัน (เรียกได้ว่าครบวงจร อิอิ)
"บ้านแลกเงิน" เป็นอีกทางเลือกในการเพิ่มสภาพคล่องให้กับทุกท่าน โดยทำบ้านที่ปลอดภาระไปจำนองกับธนาคารเพื่อกู้เงินก้อนมาหมุนเวียนธุรกิจหรือเพิ่มสภาพคล่อง จุดเด่นของบ้านแลกเงินคือได้เงินก้อนใหญ่, อัตราดอกเบี้ยต่ำ แถมผ่อนได้ยาว ๆ ดีกว่ากลุ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล, บัตรกดเงินสด หรือ บัตรเครดิต หลายขุมเลยทีเดียว
ข้อเสียอย่างเดียวของบ้านแลกเงินคือท่านต้องมีอสังหาริมทรัพย์ อาทิ บ้าน, ทาวน์เฮ้าส์, คอนโดฯ, อาคารพาณิชย์ หรือที่ดินเปล่า ที่ปลอดภาระแล้ว (ผ่อนหมดแล้ว)
โอเค...หากท่านมีอสังหาฯ ข้างต้นในมือ และต้องการสภาพคล่องผ่านโปรแกรมสินเชื่อ "บ้านแลกเงิน" ผมมีคำแนะนำครับ
1.ศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขจากผู้ให้บริการสินเชื่อ "บ้านแลกเงิน" ให้ครบถ้วน เช่น บ้านแลกเงินกู้ได้กี่เท่าไหร่ของราคาประเมิน, ระยะเวลาการผ่อนสูงสุด, อัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย รวมถึงเบี้ยปรับต่างกรณีชำระล่าช้า ที่สำคัญต้องศึกษาเปรียบเทียบหลาย ๆ สถาบันการเงินนะครับ จะได้หาที่ที่ข้อเสนอดีที่สุด หากยากไปแนะนำ เว็บ Lumpsum เรารวมแบงก์ผู้ให้บริการบ้านแลกเงินดอกเบี้ยต่ำมาไว้ให้แล้ว คลิกได้เลย >> https://bit.ly/3dTawZz
2.เตรียมเอกสารให้พร้อม โดยการยื่นสมัครสินเชื่อบ้านแลกเงินต้องมีเอกสารยืนยันตัวตน ประกอบด้วย บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน และใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี) รวมถึงเอกสารยืนยันรายได้ ประกอบด้วย หนังสือรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือน, รายการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน หากไม่ได้ทำงานประจำ ก็ต้องเตรียมหลักฐานการเงินของธุรกิจที่ท่านทำอยู่ไปด้วย และสุดท้ายคือเอกสารยืนยันหลักทรัพย์ ประกอบด้วย สำเนาโฉนดที่ดิน และรูปถ่ายอสังหาฯ ที่จะใช้ขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน
3.เตรียมค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม "บ้านแลกเงิน" นี้ เช่น ค่าประเมินหลักทรัพย์, ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้, ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้, ค่าธรรมเนียมการขอสินเชื่อ, ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย และค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (ไม่บังคับ)
เมื่อเตรียมตัวครบแล้ว และได้สถาบันการเงินเป้าหมายก็ไปยื่นเรื่องได้เลย ธนาคารคงจะใช้เวลาพิจารณาสินเชื่อ "บ้านแลกเงิน" 1-2 สัปดาห์ ซึ่งเมื่อตกลงรับวงเงินและอัตราดอกเบี้ยแล้ว ก็จะเข้าสู่กระบวนการทำสัญญาเงินกู้กับธนาคาร โดยธนาคารจะนัดผู้กู้เพื่อเซ็นสัญญา แล้วดำเนินการทำสัญญาจดจำนองที่ดิน ณ สำนักงานที่ดินใกล้บ้านของผู้กู้ จากนั้นผู้กู้จึงจะได้รับเงินที่ขอกู้ไว้ เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ
ข้อแนะนำเพิ่มเติมคือสินเชื่อ "บ้านแลกเงิน" จะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ดังนั้น หลักจากกู้ผ่านแล้ว ช่วงเวลาชำระคืน หากมีรายได้เพิ่มควรโปะหรือจ่ายเกินค่างวดที่ธนาคารกำหนด เพราะมันลดดอกเบี้ยได้อย่างมีนัยสำคัญ และช่วยให้ท่านผ่อนหมดไวขึ้นด้วย
อีกข้อหนึ่งสำคัญอย่ากู้พร่ำเพรื่อนะครับ ทำเมื่อจำเป็นจริง ๆ เพราะแม้ "บ้านแลกเงิน" จะเป็นอีกทางเลือกในการหาเงินก้อน แต่สิ่งที่ต้องนำไปแลกคือ สินทรัพย์อสังหาฯ ของเรา (ซึ่งปลอดภาระแล้ว) แถมยังมีภาระหนี้ที่ต้องชำระต่อเดือนเพิ่มเข้ามาอีกด้วย
กู้มาใช้แบบไม่จำเป็นก็เหมือนนำเงินในอนาคตมาใช้ หากไม่วางแผนให้ดีอาจวุ่นวายได้ในภายหลังนะจ๊ะ
หนึ่งเอง หนึ่งไง จะใครล่ะ ^^
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
