28 ส.ค. 2022 เวลา 12:19 • ธุรกิจ
“STAN LEE” ชายผู้อยู่เบื้องหลังเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่จักรวาล Marvel
1
เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินชื่อตัวละครฮีโร่จากทางค่าย Marvel เหล่านี้กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็น Fantastic Four, X-men, Spiderman, The Hulk, Ironman, DareDevil, Doctor Strange บางคนอาจจะเป็นแฟนตัวยงดูทุกภาคทุกตอน แต่บางคนอาจจะเคยเห็นหรือเคยได้ยินผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง
จากลายเส้นการ์ตูนสู่ภาพยนตร์ระดับฮอลลีวู้ดที่ทำรายได้อย่างมหาศาลถล่มถลายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสไปเดอร์แมน (Spiderman) ไตรภาค นำแสดงโดย Tobey Maguire ที่กวาดรายได้รวมไปมากกว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เฉพาะตั๋วหนังไม่รวมรายได้จาก DVD และสินค้าอื่น ๆ) ตามด้วยไอรอนแมน (Ironman) ทำรายได้รวมไปกว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
1
ตัวเลขระดับพันล้านดอลลาร์สหรัฐอาจไม่ใช่เรื่องน่าตกใจสำหรับภาพยนตร์ระดับฮอลลีวู้ด แต่ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความสำเร็จของภาพยนตร์ที่ทำมาจากหนังสือการ์ตูนได้เป็นอย่างดี
B-original วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวของผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหล่าฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่และโด่งดังไปทั่วโลก แน่นอนว่าแฟนตัวยงจะต้องรู้จักเขาดี แต่บางคนอาจจะยังไม่เคยรู้จักเขา
ชื่อของเขาคือ “Stan Lee ชายผู้อยู่เบื้องหลังเหล่าฮีโร่ Marvel”
📌 แม้จะได้ทำงานที่ชอบตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เส้นทางแห่งความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
1
Lee เกิดมาในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ ครอบครัวของเขาไม่ได้ร่ำรวย ความทรงจำแรกๆ ที่เขาจำได้คือได้ยินพ่อแม่ปรึกษากันว่า “ถ้าไม่มีเงินค่าเช่า แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหน?” ทำให้เขาต้องเริ่มทำงานตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้าน
ถึงครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวย แต่เขาได้รับกำลังใจที่ดีจากครอบครัวเสมอโดยเฉพาะคุณแม่ ครั้งหนึ่ง Lee ได้เขียนงานชิ้นหนึ่งจากที่โรงเรียน แม่ของเขาเห็นและชื่นชมเขาอย่างมากว่า “งานนี้เจ๋งมากเลย ลูกคงได้เป็นเช็ค สเปียร์คนต่อไปแน่ ๆ” ด้วยกำลังใจที่ดี ความอบอุ่นจากครอบครัว ทำให้เขารู้สึกว่า “ถ้าเขาตั้งใจ เขาสามารถเป็นทุกอย่างที่เขาอยากเป็นได้”
2
หลังจากเรียนจบไฮสคูล Lee ได้เริ่มทำงานในแวดวงการ์ตูนในตำแหน่งผู้ช่วยบรรณาธิการตอนอายุ 17 ปี ด้วยความที่ญาติของเขาเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ เขาจึงได้รับโอกาสให้เข้ามาทำงานที่สำนักพิมพ์ Timely Comics (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Marvel Comics) และด้วยความสามารถที่โดดเด่น ทำให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์ด้วยวัยเพียง 19 ปี
เส้นทางเหมือนจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้ว่าเขาจะได้รับโอกาสที่ดีตั้งแต่อายุน้อย แต่ก็ต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนัก
ในช่วงหลังจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ความนิยมในการ์ตูนลดลงอย่างมาก เนื่องจากในช่วงที่ทำสงคราม ตัวละครฮีโร่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปลุกความเป็นชาตินิยม มีเหล่าฮีโร่ที่คอยปกป้องประเทศ แน่นอนว่าการ์ตูนแนวนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก
แต่พอสิ้นสุดสงครามโลก การ์ตูนฮีโร่ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป…
ช่วงใกล้วันเกิดปีที่ 40 ของ Lee จึงตัดสินใจที่จะลาออกจากงาน เพราะเริ่มหมดไฟกับเส้นทางที่เขาเลือกและรู้สึกว่าตัวเองแก่เกินกว่าที่จะอยู่ในวงการนี้ต่อไป
แต่ด้วยคำพูดของภรรยาทำให้เขาต้องเริ่มคิดใหม่กับเส้นทางนี้อีกครั้ง…
ก่อนที่คุณจะออกจากงาน ทำไมคุณไม่ลองพยายามอีกสักครั้ง
ลองเขียนอะไรก็ได้ที่คุณชอบมันจริง ๆ สิ
4
และนี่คือจุดเริ่มต้นของ Stan Lee นักเขียนการ์ตูนผู้เป็นที่รักของแฟน ๆ ทั่วโลก
📌 เดินบนเส้นทางความฝันกว่า 20 ปี ก่อนจะ “ประสบความสำเร็จ” ในฐานะนักเขียนการ์ตูนผู้เป็นที่รักของแฟน ๆ ทั่วโลก
หลังจากได้กำลังใจที่ดีจากครอบครัว ทำให้ Lee ในวัย 40 ปีมุ่งมั่นที่จะตามความฝันและเขียนการ์ตูนที่เขารักต่อไป
และแล้วความสำเร็จแรกก็มาเยือน…
ในปี 1961 Lee ได้ปล่อยการ์ตูนเรื่องใหม่ชื่อ “The Fantastic Four”
เขียนร่วมกับ Jack Kirby (เพื่อนร่วมงานของเขา) ซึ่งได้ผลตอบรับดีเกินคาดอย่างถล่มถลาย
ในปี 1967 ความสำเร็จครั้งใหญ่มาเยือนอีกครั้ง…
สำนักพิมพ์ Marvel Comics ทำรายได้แซงค่าย DC Comics (สำนักพิมพ์คู่แข่ง เจ้าของตัวละครฮีโร่ที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น Batman Superman Wonder Woman Joker และอื่น ๆ) ส่งผลให้ Marvel Comics กลายเป็นสำนักพิมพ์การ์ตูนอันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกาในที่สุด
สิ่งนี้สะท้อนถึงความรักและความนิยมอย่างล้
นหลามจากแฟน ๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาที่มีต่อเหล่าฮีโร่ของเขา และแน่นอนว่านี่ คือ จุดสำเร็จครั้งใหญ่ของ Lee
หลังจากนั้น Lee และ Kirby ได้ให้กำเนิดฮีโร่อีกมากมาย ได้แก่ Hulk, Thor, The X-Men และ Spiderman (เขียนร่วมกับ Steve Ditko) แน่นอนว่าเหล่าฮีโร่ทั้งหมดนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเช่นเดียวกัน
📌 ทลายกำแพงความเชื่อฮีโร่แบบเดิม ๆ ที่ต้องเป็นผู้วิเศษ สำหรับ Lee ฮีโร่คือ “คนธรรมดา”
1
จุดเด่นของตัวละครฮีโร่ส่วนใหญ่ที่ Lee สร้างขึ้น ไม่ใช่ภาพลักษณ์แบบเทพเจ้าหรือผู้มีพลังวิเศษ แต่คือ คนธรรมดาที่ต่อสู้กับความอยุติธรรมและปกป้องโลก ความตั้งใจของ Lee คือ การทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าฮีโร่มีความเป็นคนมากขึ้น คนที่เป็นคนธรรมดาย่อมมีตำหนิและมีเรื่องผิดพลาดเสมอ
2
และความธรรมดานี่แหละที่ทำให้คน (ผู้อ่าน) รู้สึก “เข้าถึง”
อย่างเช่น สไปเดอร์แมน แม้ว่าจะมีพลังวิเศษจากการถูกแมงมุมกัด แต่เบื้องหลัง คือ เด็กวัยรุ่นธรรมดาชื่อ ปีเตอร์ พาร์กเกอร์ ที่ประสบกับปัญหาครอบครัว แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ แต่ก็ถูกเลี้ยงดูโดยลุงและป้าด้วยความรัก แต่ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็มีเรื่องทำให้ทะเลาะและไม่เข้าใจกันอยู่เสมอ ซึ่งเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปที่คนธรรมดาอย่างเรา ๆ (ผู้อ่าน) ก็พบเจอได้เสมอ
หรืออย่าง ไอรอนแมน เบื้องหน้า คือ ชายใส่ชุดเกราะที่มีพลังอนุภาพสูง แต่เบื้องหลังเขาคือ โทนี่ สตาร์ค มหาเศรษฐีที่ชาญฉลาด ผู้ออกแบบอุปกรณ์และเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ ให้ทีมเพื่อปกป้องโลก หรือเรียกอีกอย่างได้ว่าเขาคือ “มันสมองหลัก” ของทีม Avengers (ทีมที่รวมฮีโร่เพื่อสู้กับเหล่าวายร้าย)
เคยมีบทพูดที่สตีฟ โรเจอร์ส (กัปตันอเมริกา) ถามโทนี่ สตาร์ค (ไอรอนแมน) ว่า…
“เจ้าคนขี้อวด ถ้าไม่มีชุดเกราะ นายจะเป็นตัวอะไร”
สตีฟ โรเจอร์ส (กัปตันอเมริกา)
“อืมม..คงจะเป็น อัจฉริยะ เศรษฐีพันล้าน เพลย์บอย หรือคนใจบุญล่ะมั้ง”
โทนี่ สตาร์ค (ไอรอนแมน)
คำตอบของสตาร์ค คือ คำตอบของ Lee ที่ต้องการสะท้อนว่าฮีโร่ของเขาก็คือ คนธรรมดาที่พยายามประดิษฐ์และคิดสิ่งต่าง ๆ ให้มีพลังเหนือกว่าคนธรรมดาเพื่อปกป้องโลก
3
Lee เคยกล่าวถึงคำนิยามของฮีโร่ในอีกแบบหนึ่งไว้ว่า “ฮีโร่ก็ คือ ใครสักคนที่จิตใจดี คิดถึงผู้อื่นเสมอและช่วยคนโดยไม่ได้หวังผลตอบแทน คนที่ตั้งใจจะช่วยคนอื่นอย่างเรียบง่าย แค่เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องทำ มันคือ ความถูกต้องอย่างไม่มีข้อสงสัย นั่นแหละคือ ฮีโร่ที่แท้จริง”
3
📌 จากฮีโร่ “ลายเส้น” สู่ “จอหนัง” ที่โด่งดังไปทั่วโลก
และก็ถึงเวลา…ที่ฮีโร่จากในหนังสือการ์ตูนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ออกสู่สายตาแฟน ๆ ทั่วโลก
ในปี 1993 ถือกำเนิดบริษัท Marvel Films (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Marvel Studios) ซึ่งผลิตภาพยนตร์และรายการทีวีของอเมริกา แม้ช่วงเริ่มต้นจะประสบกับปัญหา ท้ายที่สุดก็ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น X-men, Spider Man และ Iron Man ได้ทำรายได้อย่างมหาศาลและเป็นฮีโร่ที่ได้รับความนิยมจากแฟน ๆ ทั่วโลก
โดยภาพยนตร์ฮีโร่ที่ประสบความสำเร็จอย่างพีคที่สุดคือ สไปเดอร์แมน (Spiderman) ไตรภาค นำแสดงโดย Tobey Maguire ที่กวาดรายได้รวมไปมากกว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
(เฉพาะตั๋วหนังไม่รวมรายได้จาก DVD และสินค้าอื่น ๆ) และในปี 2008 ค่าย Marvel ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งกับหนังเรื่อง ไอรอนแมน (Ironman) ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและโด่งดั่งไปทั่วโลก
ผลงานและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของ Marvel ทำให้ Disney ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการของ Marvel ในมูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาสหรัฐฯ
หลังจากนั้น Marvel Studios (ภายใต้ Disney) ผลิตหนังฮีโร่จากลายเส้นของลีและประสบความสำเร็จอย่างมาก เช่น
ในปี 2018 Black Panter ทำรายได้ไปกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดอันดับ 1 ใน 20 หนังทำเงินมากที่สุดในโลก และในปี 2021 Spider-Man No Way Home กวาดรายได้ไปกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และความสำเร็จจากหนังฮีโร่อื่นๆ อีกมากมาย
ใครจะคาดคิดว่า…คนที่เคยจะล้มเลิกเขียนการ์ตูนในตอนใกล้วันเกิดครบอายุ 40 ปี ตอนนี้กลายเป็นคนที่สร้างตัวละครฮีโร่มากมาย สร้างรายได้อย่างมหาศาลทั้งใน comics และ movies จนกลายเป็นจักรวาล Marvel อันยิ่งใหญ่ที่ครองใจแฟน ๆ ทั่วโลกมาอย่างยาวนาน
📌 บทสรุป
1
Stan Lee ประสบความสำเร็จในเส้นทางนักเขียนการ์ตูน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะความสามารถในการสร้างสรรค์ตัวละครที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แต่อีกส่วนหนึ่งคือ การได้รับกำลังใจที่ดีจากครอบครัวเสมอ ส่งผลให้ Lee เป็นคนที่มีทัศนคติที่ดี ทำให้เขาไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคง่าย ๆ และเลือกเดินบนเส้นทางอาชีพของเขาต่อด้วยความภาคภูมิใจ
เขาทำมัน ทำมัน และทำมันต่อไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ
ดังคำพูดที่ Lee เคยกล่าวว่า…
I used to be embarrassed because I was just a comic-book writer while other people were building bridges or going on to medical careers. And then I began to realize: entertainment is one of the most important things in people’s lives. Without it they might go off the deep end. I feel that if you’re able to entertain people, you’re doing a good thing.
Stan Lee
1
หรือแปลภาษาไทยว่า...
ผมเคยอับอายที่เป็นแค่นักเขียนการ์ตูน ในขณะที่คนอื่นกำลังสร้างสะพาน หรือ คิดค้นยารักษาโรค และผมก็ตระหนักได้ว่า ความบันเทิงก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคนเรา ถ้าชีวิตไม่มีความสนุกเลย มนุษย์เราคงหมดอาลัยตายอยาก ดังนั้น การที่ผมสร้างความสุขให้คนอื่นก็เหมือนกับผมกำลังทำสิ่งดี ๆ อยู่เช่นกัน
สแตน ลี
8
📌 เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
Lee ได้ถูกรับเชิญให้ไปเป็นตัวประกอบในหนังมาเวลาอยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่าช่วงเวลาที่เขาโผล่แว้บไปแว้บมาในหนัง ทำให้แฟน ๆ หายคิดถึงและจดจำเขาได้ในฐานะของผู้กำเนิดเหล่าฮีโร่
ผู้เขียน : ขัตติยาภรณ์ ด้วงแก้ว Political Analyst, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References :
Introduction
Paragraph 1
Paragraph 2 :
Paragraph 3 :
Quote :
เครดิตภาพ : Entertainment News
#APEC2022COMMUNICATIONPARTNER
โฆษณา