เคยสงสัยกันบ้างไหมครับ เงินเฟ้อที่เค้ามักพูดถึงกันตามสื่อต่างๆ มันคืออะไร หน้าตามันเป็นอย่างไร แล้วมันเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราอย่างไร วันนี้
เรามาดูกัน
เงินเฟ้อ คือ การวัดระดับความแพงของสินค้าและบริการ หรือ ระดับราคาของสินค้าและบริการ ว่าเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ เช่น ของกินของใช้ น้ำมันเชื้อเพลิง ค่าเช่าบ้าน เป็นต้น
ทั่วไป เราจะวัดค่าเงินเฟ้อ โดยการวัดเปรียบเทียบราคา ณ ปัจจุบัน ซึ่งคือราคา
ของวันนี้ เทียบกับราคาของวันนี้เมื่อ 1 ปีก่อน เราจะได้ค่าเฉลี่ยของการเพิ่มขึ้น
ของราคาสินค้าและบริการ ซึ่งเรียกว่า “เงินเฟ้อ”
ตัวอย่าง หากเงินเฟ้อเท่ากับ 5 % หมายความว่า ราคาของสินค้าและบริการ
ในปัจจุบันโดยเฉลี่ยสูงขึ้น 5 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างเช่น ถ้าปีที่แล้ว น้ำมันพืช ราคา 100 บาท แต่ปีนี้ปรากฏว่า น้ำมันพืชราคาเพิ่มขึ้นเป็น 105 บาท อาจจะพูดได้ว่า เงินจำนวนเท่าเดิม อาจซื้อสินค้าหรือบริการนั้นไม่ได้เลยหรือ ซื้อได้
น้อยลง
หน่วยงานที่คำนวณเงินเฟ้อ คือ กระทรวงพาณิชย์ ในทุกเดือนจะเก็บข้อมูลราคาสินค้าและบริการ จำนวน 430 รายการ มาคำนวณ ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index : CPI) ถ้าค่า CPI เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ก็คือ
อัตราเงินเฟ้อ นั่นเอง
จากข้อมูล เงินเฟ้อไม่ได้มีข้อเสียเสมอไป เรามาพูดถึงข้อดีของเงินเฟ้อกัน
ถ้าเงินเฟ้อนิดหน่อย จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ เพราะจะช่วยกระตุ้นแรงจูงใจ
ให้ผู้ผลิตมีการลงทุนขยายการผลิต และมีการจ้างงาน ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว
จากตรงนี้จะเห็นได้ว่า เงินที่เราถืออยู่ นับวันไปมูลค่าของมันก็น้อยลง
เราต้องหาวิธีที่จะชนะเงินเฟ้อ วันหน้าเรามาคุยวิธีที่จะชนะเงินเฟ้อกันต่อไป
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
