27 ส.ค. 2022 เวลา 02:43 • ปรัชญา
ระยะเวลา การเดินทางของแต่ละช่วงวัย (ฉบับส่วนตัว)
ระยะการเติบโตแรก คงเป็นตอนประถม
ตอนนั้น มีสิ่งที่ชอบที่เกลียด เยอะแยะเต็มไปหมด อยากเป็นอันนั้น อยากทำอันนี้ ไม่มีอะไรจับต้องได้จริงๆสักอย่าง เกลียดการกินผัก ชอบเล่นช่วงเวลาที่ควรนอน และไม่มีความรู้มากพอที่จะทราบว่า การปลูกข้าวโพด ไม่สามารถปลูกได้ด้วยการ ใส่เมล็ดทั้งหมดถุง เอาดินกลบ และ รดน้ำ วัยแห่งความสดใส มีแค่เล่น และทำในสิ่งที่ต้องการ
ระยะที่สอง คงเป็นช่วงมัธยมต้น
ช่วงที่เริ่มมีความฝัน มีความรัก สิ่งที่อยากทำก็ถูกจุดกำเนิดจากกิจกรรมเล็กๆภายในห้องเรียน นั่นคือ ‘การแข่งแต่งกลอนแปด’ ด้วยความที่ถูกชม และได้รับคะแนนในห้องเรียนเต็มสิบ จึงนำไปลงแข่งของโรงเรียน และได้รางวัลชมเชยขแงชั้นปี แต่ด้วยความที่ครอบครัวไม่ได้สนับสนุนมาก และมองว่าไร้สาระ เด็กที่มีความต้องการอยากให้พ่อแม่ภูมิใจ ก็เลยยอมแพ้ไป
ระยะที่สาม คงเป็นช่วงมัธยมปลาย
เพราะเริ่มชีวิตค่อนข้างเร็ว และมีสิ่งที่อยากได้ค่อนข้างเยอะ แต่เป็นบุคคลที่ ไม่ชอบร้องขออะไรกับครอบครัว (เพราะรู้ว่าไม่ได้แน่นอน) จึงต้องทำงานเอง ในช่วงระยะนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่วิ่งตามแต่เงิน เพราะต้องการเงินมาตอบสนองกับสิ่งที่ตัวเองต้องการ เนื่องจากทางบ้าน ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรสักเท่าไร ความฝันที่เคยทำพอลองกลับมาทำอีกครั้ง ดันไม่มีกำลังใจจะทำแล้ว เพราะทุ่มเทเวลาไปกับการเรียนและหาเงินค่อนข้างมาก บวกกับคนรอบตัวที่ไม่ได้สนับสนุน เป็นตัวเสริมที่มีน้ำหนักมากพอที่จะหยุด
ระยะที่สี่ ช่วงมหาลัย
ยังคงวิ่งตามกลิ่นเงินอยู่ และเป็นช่วงที่หาเงินได้มากที่สุด ในสามหรือสี่ระยะที่ผ่านมา แต่ความต้องการที่มี ดันมากขึ้น มากกว่าจำนวนเงินที่หาได้ เรียนไปวันๆ ทำงานไปวันๆ ดื่มกินเที่ยว ไปวันๆ ความฝันที่เคยทำ ก็มองว่าตัวเองคงทำไม่ได้แน่ๆเหมือนที่ทุกคนพูดไว้ เขาคงพูดถูกแล้วล่ะ
ระยะที่ห้า ช่วงจบใหม่
เป็นน้องใหม่ ไฟแรง วิ่งตามหาตัวตนของตัวเอง ด้วยวัยยี่สิบต้นๆ หาอะไรเรียนรู้ หาอะไรทดลอง แต่ก็ยังไม่ทิ้งความหลงใหลที่มีต่อเงิน ขั้นกว่า คืออยากเป็นเศรษฐี ข้อดีของการทำงานเร็ว คือรู้ว่างานไหนทำได้ แต่ไม่ได้ชอบ สรุป เคว้งคว้างกว่าเดิม รู้สึกชีวิตมันไร้ความหมายซะอย่างนั้น
ระยะที่หก ช่วงยี่สิบกลางๆ
เป็นช่วงที่โปรดปรานมากที่สุด อยู่กับตัวเอง ได้ตกผลึก อ่านหนังสือมากขึ้น กลิ่นเงินเริ่มจางลง เริ่มทบทวนตัวเอง ว่าจริงๆแล้วเราเป็นใครกันแน่ อยากทำอะไรกันแน่ จนกระทั่ง ได้กลับมาทำสิ่งที่เคยทำ และอยากทำมาโดยตลอดอีกครั้ง นั่นคือ ‘การเขียน’ ฝีมืออยู่ในระดับไร้ความรู้ ไร้ประสบการณ์ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
ระยะที่เจ็ด ช่วงยี่สิบปลายๆ
หลักจากที่ดีใจอยู่ได้ไม่นาน ก็เริ่มเข้ามาสู่ลูปนี้อีกจนได้ ยินดีกับตัวเอง ที่พบสิ่งที่รัก หรืออยากทำ สิ่งที่หัวใจบอกให้ทำ แต่ก็ดันมาตกในหลุมแห่งความสับสน ว่า เราเลือกสิ่งที่ถูกต้องอยู่รึป่าวนะ? คาดว่า ผู้ใหญ่หลายๆท่าน คงผ่านมาทุกช่วงหมดแล้ว และ ด้วยความที่เรายังผ่านด่านนี้ไม่ได้ จึงไม่สามารถให้คำตอบตัวเองได้ ว่าด่านต่อไปต้องเจอกับอะไรอีก
ในระยะถัดๆไป สามสิบต้นๆ สามสิบกลางๆ สามสิบปลายๆ
สี่สิบ ห้าสิบ หกสิบ ยังคงเป็นปริศนา ไม่สามารถบอกได้เลยจริงๆ ว่าจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง แต่ที่แน่ๆ ที่ดีที่สุด คือการค้นพบแล้วว่า เราอยากเป็นอะไร อยากทำอะไร
ขอให้ทุกท่าน ที่กำลังตั้งใจใช้ชีวิต อย่าได้เป็นกังวลกับปริศนาที่ยังมาไม่ถึง ขอให้ดื่มด่ำ ของทุกหยด จากปัจจุบัน
อย่ากลัวว่าจะติดอยู่ตรงนี้ไปตลอด คำว่า ‘เดี๋ยวก็ผ่านไป’ ไม่ใช่แค่คำปลอบใจส่งๆแน่นอน เพราะคุณก็ผ่านทุกอย่างมาแล้ว และคุณจะผ่านมันไปได้อีก เหมือนที่เคยผ่านได้มาโดยตลอด ^^
โฆษณา