Russia-Ukraine War: ประธานาธิบดีรัสเซียลงนามกฎหมายให้สิทธิประโยชน์และเงินช่วยเหลือชาวยูเครนที่เข้ามาอยู่รัสเซีย เดือนละ 10,000 รูเบิล ขณะที่รัสเซียคัดค้านร่างเอกสารในที่ประชุมไม่เผยแพร่อาวุธนิวเคลียร์ หรือ NPT จนออกแถลงการณ์ร่วมของที่ประชุมไม่ได้
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ลงนามบังคับใช้กฎหมายที่มุ่งให้สิทธิประโยชน์ทางการเงินกับผู้ที่ออกจากดินแดนยูเครนเข้าไปอยู่ในรัสเซีย ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา รวมทั้งผู้สูงอายุ ผู้หญิงตั้งครรภ์ และคนพิการ โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือรายเดือน ๆ ละ 10,000 รูเบิล หรือประมาณ 6,102 บาท กรณีผู้หญิงตั้งครรภ์จะได้รับการช่วยเหลือพิเศษเพิ่มต่างหากด้วย
ขณะที่ ผู้เข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิประโยชน์ส่วนนี้ คือ พลเมืองชาวยูเครน และประชาชนผู้มาจากภูมิภาคปกครองตนเองโดเนตส์กและลูฮันส์ก ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งรัสเซียประกาศให้การยอมรับสถานะการเป็นรัฐอิสระเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ท่ามกลางการประณามของยูเครนและกลุ่มประเทศตะวันตกว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ ผู้นำรัสเซียสั่งให้จ่ายเงินช่วยเหลือ 10,000 รูเบิล ให้ผู้มาจากภูมิภาคโดเนตส์กและลูฮันสก์ ที่เข้าไปอยู่ในรัสเซียมาก่อนแล้ว รัฐบาลรัสเซียยังออกพาสปอร์ตรัสเซียให้กับชาวยูเครน ซึ่งยูเครนและสหรัฐฯ ระบุว่า เป็นความพยายามโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อผนวกเอาดินแดนยูเครนที่รัสเซียเข้ายึดครอง
ขณะเดียวกัน รัสเซียยังคัดค้านร่างเอกสารเกี่ยวกับข้อตกลงไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ หรือ NPT จนที่ประชุมไม่สามารถออกเอกสารขั้นสุดท้ายที่จะเป็นแถลงการณ์ร่วมได้
หลังไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาบางย่อหน้าที่แสดงความวิตกอย่างยิ่ง ต่อกิจกรรมทางทหารโดยรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต่าง ๆ ของยูเครน รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาโปริซห์เซียที่ดำเนินการโดยวิศกรของยูเครน แต่อยู่ภายใต้การควบคุมของทหารรัสเซีย
ร่างเอกสารที่จะเป็นแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับข้อตกลง NPT ยังกล่าวถึงด้วยว่า กิจกรรมทางทหาร ทำให้เจ้าหน้าที่ยูเครนที่มีความชาญการสูญเสียการควบคุมโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ และส่งผลกระทบด้านลบต่อความปลอดภัย
อีกอร์ วิชเนเวตสกี ผู้แทนรัสเซียที่เข้าร่วมประชุม NPT ซึ่งจัดโดยสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า ร่างแถลงการณ์ขั้นสุดท้าย ขาดความสมดุล รัสเซียไม่ด้วยกับเนื้อหาบางย่อหน้าที่มีการเมืองเกี่ยวข้อง และไม่ใช่เฉพาะรัสเซีย แต่ประเทศอื่น ๆ ก็ไม่เห็นด้วย
ด้านผู้แทนของออสเตรเลียและสหรัฐฯ ออกมาแสดงความผิดหวังที่การประชุมไม่ได้ข้อสรุป จนไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมได้ อันเป็นผลจากการคัดค้านของรัสเซีย
การประชุมทบทวนเพื่อออกแถลงการณ์เกี่ยวกับข้อตกลง NPT ครั้งที่แล้วเมื่อปี 2015 ไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมได้เช่นกัน ส่วนการประชุมปีนี้ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เลื่อนมาจากปี 2020 เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน หลังประชุมร่วมกันมา 4 สัปดาห์
ทั้งนี้ การประชุมเกี่ยวกับข้อตกลง NPT เป็นการประชุมเพื่อทบทวนรายละเอียดและกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกันทุก 5 ปี โดยกลุ่มประเทศภาคี 191 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ รัสเซีย ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และจีน ร่วมกันทำข้อตกลง NPT ขึ้น เมื่อปี 1970 เพื่อพยายามลดจำนวนคลังอาวุธนิวเคลียร์ที่มหาอำนาจนิวเคลียร์เก็บสะสมไว้ และเพื่อห้ามแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์
ภาพ: Reuters
#TNNWorldNews #รัสเซีย #ยูเครน #สงคราม
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
